ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

5 โรคร้ายจาก ?ความเป็นชาย?


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,142 ครั้ง
Advertisement

5 โรคร้ายจาก ?ความเป็นชาย?

Advertisement

5 โรคร้ายจาก “ความเป็นชาย”


1. โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก คุณสิริพงศ์ ศุกระรุจิ

   ด้วยความที่เป็นหัวหน้าครอบครัวจึงต้องรับผิดชอบทั้งครอบครัวของตัวเอง คือภรรยากับลูกอีก 2 คน และครอบครัวของภรรยาที่ฐานะล้มละลายกระทันหัน ภาระที่หนักอึ้งนำมาซึ่งความเครียดที่ค่อยๆ สะสมเป็นโรคร้าย และเข้ามาทักทายชีวิตเขาเงียบๆ โดยเริ่มมีอาการปัสสาวะผิดปกติเรื่อยมาจนอาการหนักเข้าต้องไปพบแพทย์ และได้รับคำวินิจฉัยว่าเป็น “ต่อมลูกหมากโต” แต่การกินยาเพื่อลดความบวมของต่อมลูกหมากเพื่อให้ทางเดินปัสสาวะสะดวกขึ้นก็ช่วยให้เขาอาการดีขึ้นได้ไม่นาน ครั้นตรวจชิ้นเนื้อ ผลก็ยืนยันออกมาว่า “เขาเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก” และต้องรักษาด้วยการผ่าตัดโดยด่วน ระหว่างใช้เวลารักษาตัว เขาไม่สามารถทำสิ่งใดได้นอกจากนอนนิ่งๆ อยู่กับที่ จึงทำให้เขาได้คิดทบทวนถึงเรื่องราวที่ผ่านมา และพบว่าตัวเองได้ทำทุกอย่างผิดไปทั้งหมด 

   ในขณะที่ชะโงกจากเตียงมองดูภรรยากับลูกๆ นอนอยู่ที่พื้นห้องพักในโรงพยาบาล เขากลับมีความสุขขึ้นมาอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความรู้สึกของคนใกล้ตายหายไป เมื่อคิดในมุมกลับว่าในช่วงชีวิตที่วิกฤตนำความสุขที่แท้จริงมาให้ “ขอบคุณมะเร็งมากที่พลิกให้ครอบครัวพบกับความสุขที่แท้จริง ความอบอุ่นในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในโลก ไม่มีอะไรจะกินก็ได้ ขอเพียงเราได้อยู่ด้วยกัน อาทรกัน และต่างคนต่างดูแลเอาใจใส่กัน นอนกันอยู่โรงพยาบาลเหมือนได้พักผ่อนที่รีสอท ไม่ต้องทำงาน หรือทำงานบ้าน ได้นอนดูทีวีด้วยกัน อยากกินอะไรก็ลงไปซื้อ รู้สึกเหมือนได้รับยาดีกว่ายาหมอ”

   นอกจากนี้ การคิดในมุมกลับยังทำให้เขาไม่เหมือนคนป่วยเป็นมะเร็งทั่วไป เพราะแทนที่จะนอนป่วยอยู่เฉยๆ เขากลับลุกขึ้นมาทำสิ่งที่มีประโยชน์ต่อคนในวงกว้าง ด้วยการเขียนเล่าประสบการณ์ชีวิต ทั้งยามป่วย และยามเรียนรู้ชีวิตไปพร้อมๆ กับภาพวาดสเก็ตช์ที่วาดขณะรอการตรวจรักษา (ชื่อหนังสือ “แต้มความตายให้งดงาม”) ทำให้เขามีพลังใจที่เข้มแข็ง และนี่อาจเป็นสิ่งที่สะท้อน “ความเป็นชาย” ที่แท้มากกว่าสิ่งที่เคยทำก็เป็นได้

2. โรคความดันโลหิตสูง คุณยุทธทวี ศิริประยงค์

   ชายวัย 48 ปีคนนี้ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงจนเป็นผลให้เส้นเลือดในสมองตีบ ทำให้มีอาการปากเบี้ยว พูดไม่ชัด มือเท้าชา กระทั่งมือเขียนหนังสือไม่ได้ โดยสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการกินแบบผิดๆ สูบบุหรี่ และความเครียด “กินวันละ 5 มื้อ คือ มื้อเช้า มื้อกลางวันตอน 11 โมง มื้อบ่าย 3 มื้อเย็น และมื้อก่อนนอนอีกรอบ ไม่อย่างนั้น นอนไม่หลับ ถ้าวันไหนเมา ก็ไม่ได้กินก่อนนอน แล้วก็กินไม่ควบคุมปริมาณ โดยเฉพาะเนื้อทอดกับขาหมู แล้วก็สูบบุหรี่ เครียดก็ดื่มเหล้ากับเพื่อนๆ เป็นการคลายเครียด บางทีก็เครียดโดยไม่รู้ตัว ทำแบบนี้มาเกือบ 20 ปีไม่เคยป่วย”

   กระทั่งเดือนธันวาคมของปีที่ผ่านมา “มีเพื่อนร่วมงานสังเกตเห็นว่าเราปากเบี้ยว ไปส่องกระจกก็ไม่รู้สึก ต่อมามือขวาไม่มีแรง เขียนหนังสือไม่ได้ จึงต้องไปหาหมอ เข้าเครื่องสแกนสมองพบเส้นเลือดในสมองตีบ ดีที่ไม่แตก รักษาด้วยการกินยาลดความดัน ยาบำรุงสมอง บำรุงปลายประสาท และยาคลายเครียด เช้า 7 เม็ด เย็น 4 เม็ด และต้องกินตลอดชีวิต”

   นานวันเข้าอาการไม่ได้ดีขึ้นเขาจึงหาทางเลือกใหม่ในการดูแลตัวเอง นั่นคือปรับพฤติกรรมการกินควบคู่กับการออกกำลังกายทุกวัน และเลิกดื่มเหล้าสูบบุหรี่ ทำให้อาการป่วยดีขึ้นเกือบเป็นปกติ “กินยาช่วงแรกดีขึ้น แต่ก็ยังเขียนหนังสือไม่ค่อยถนัด จึงปรับพฤติกรรมการกิน เหลือ 3 มื้อ ไม่กินเนื้อสัตว์ กินข้าวกล้องเป็นหลัก ออกกำลังกายตอนเช้ากับตอนเย็นทุกวัน โดยการจ็อกกิ้ง รดน้ำต้นไม้ ปั่นจักรยาน 1 ชั่วโมง ประมาณ 1 อาทิตย์ก็เริ่มดีขึ้น และเดือนกว่าก็กลับเป็นปกติ แต่ต้องเข้มงวดกับตัวเองทำทุกวันและต้องทำต่อไป ถ้าไม่ป่วยก็คงไม่ลุกขึ้นมาดูแลตัวเอง”

3.โรคมะเร็งลำไส้ คุณวิจารณ์ ยิ่งยืนยง

   สิบกว่าปีที่แล้ว ผู้ชายอารมณ์ดีคนนี้ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ เพราะพฤติกรรมการกินแบบผิดๆ คือกินเนื้อสัตว์เป็นหลัก และเห็นผักเป็นส่วนประกอบที่ทำให้อาหารมีสีสัน โดยเฉพาะเนื้อไก่สามารถกินได้ครั้งละตัว และชื่นชอบการดื่มกาแฟกับสูบบุหรี่เป็นชีวิตจิตใจ จากพฤติกรรมการกินแบบผิดๆ และไม่ใส่ใจตัวเองเท่าที่ควร แม้มีสัญญาณเตือนจากร่างกายเป็นระยะคือ ปวดที่ช่องท้องสลับหายต่อเนื่อง และถี่ขึ้นจนกระทั่งต้องไปตรวจ และพบว่าลำไส้ตีบผิดปกติ และต้องผ่าตัดโดยด่วน คุณวิจารณ์จึงตัดสินใจหักดิบทุกอย่างที่บั่นทอนสุขภาพ รับเคมีบำบัดเพียง 5 เข็ม และที่เหลือต่อสู้ด้วยตัวเอง เน้นการกินผักผลไม้กับข้าวกล้อง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และฝึกสมาธิควบคู่กับการทำดีท็อกซ์ หลังจากนั้นอาการของเขาค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ กระทั่งปัจจุบันโรคมะเร็งลำไส้ไม่เคยถามหาอีกเลย ทุกวันนี้คุณวิจารณ์มีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ทั้งกายใจ และเขายังคงไปรำกระบองที่สวนรถไฟไม่เคยขาด

4.โรคไขมันในเส้นเลือดสูง คุณวราฤทธิ์ อรรถศิริ

   ชายผู้เผชิญปัญหาไขมันในเส้นเลือดสูงเล่นงานจนหัวใจเกือบหยุดเต้น เพราะพฤติกรรมการกินตามใจปาก ซึ่งอุดมไปด้วยไขมันและโปรตีนสูง เป็นนักดื่มตัวยง ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ หรือเหล้า และยังสูบบุหรี่วันละซองมากว่า 20 ปี จนวันหนึ่งในขณะที่ดื่มเหล้าฉลองการเปิดกิจการของตัวเอง เขามีอาการคล้ายจะเป็นลม เหงื่อแตกท่วมตัว และรู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอกจนใจสั่น จึงรีบไปตรวจร่างกายในวันรุ่งขึ้น และพบว่ามีไขมันในเส้นเลือดสูงมาก ค่าไตรกลีเซอไรด์สูงถึง 300 มิลลิกรัมต่อเดซิเบล (จากค่าปกติควรน้อยกว่า 200 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร) และละเลยการดูแลตัวเองจนผลการตรวจสุขภาพครั้งต่อมามีค่าไตรกลีเซอไรด์สูงถึง 800 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ส่งผลร้ายต่อร่างกายและจิตใจ “ตอนนั้นรู้สึกมึนๆ ที่ศีรษะตลอดเวลา เหนื่อยง่าย หายใจไม่สะดวก และหดหู่ไม่ค่อยอยากเจอใคร”

   หลังจากกินยาลดไขมันในเส้นเลือดจนไขมันลดลงระดับหนึ่ง เมื่อยาหมดเขาก็ไม่ได้ไปพบแพทย์อีกเลย แล้วหันมาดูแลตัวเองตามแบบที่ภรรยาแนะนำ คือเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน โดยกินข้าวกล้อง ดื่มน้ำอาร์.ซี. น้ำเต้าหู้ และน้ำเอนไซม์ (น้ำผักแว่น น้ำตำลึง น้ำใบบัวบก และสารพัดผักจากสวนหลังบ้าน) นอกจากนี้ยังดีท็อกซ์กับออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และเลิกดื่มเหล้า เลิกสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาด ภายใน 2 ปี ระดับไตรกลีเซอไรด์ของคุณวราฤทธิ์ลดลงเหลือต่ำกว่า 300 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร โดยไม่จำเป็นต้องกินยาลดไขมันอีกต่อไป

5.โรคตับอักเสบจากพิษสุราเรื้อรัง คุณจงรักษ์ พฤกษ์ประเสริฐ

   สถาปนิกหนุ่มใหญ่วัย 50 ปีคนนี้มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเป็นตับอักเสบจากพิษสุราเรื้อรัง เนื่องจากผลการตรวจร่างกายพบว่า ค่า GGT (Gamma Glutamyl transpeptidase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ตัวหนึ่งที่ใช้ติดตามโรคตับ โดยเฉพาะโรคตับอักเสบจากพิษสุราเรื้อรังของเขาสูงเกินกว่าค่าปกติไปมาก เมื่อสืบสาวถึงสาเหตุก็พบว่าพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแต่ละวันของเขาหมดไปกับการทำงานหนัก อีกทั้งพฤติกรรมการกินยังเข้าลักษณะ “กินไม่เลือก” ทั้งเนื้อสัตว์ปิ้ง ย่าง และของหวานอันโปรดปราน รวมถึงกิจกรรมสังสรรค์กับเพื่อนฝูงที่ทำเป็นกิจวัตรก็ต้องมีพระเอกเป็นไวน์

   แต่เมื่อวันหนึ่งความรู้สึก “กลัวตาย” มาเยือนหลังการตรวจร่างกาย ก็ดึงสติของเขาให้คิดหาวิธีดูแลสุขภาพของตัวเองด้วยการอดอาหาร และเพียงอดอาหาร 1 วัน ทุกปี ก็สามารถเปลี่ยนทั้งชีวิตของคุณจงรักษ์ได้ โดยปีแรกที่อดต้องก้าวผ่านความอ่อนเพลีย ความทรมานจากความหิว และความรู้สึกคล้ายจะเป็นลม แต่เขาก็เอาชนะได้ด้วยเทคนิคที่ได้ผลคือ ไม่นอนดึก ทำใจให้สสบายและดื่มน้ำสะอาดให้มาก

   “สิ่งแรกที่ได้รับหลังการอดอาหารคือ ค่า GGT ลดลง แต่ไม่เพียงเท่านั้นการอดอาหารยังเป็นเสมือนเครื่องช่วยเตือนสติตัวเองอยู่เสมอ เพราะหากคุณเผลอทำร้ายร่างกายตัวเองด้วยการกินผิดๆ หรือดื่มเหล้าอีก อย่างน้อยในปีนั้นถ้าได้อดอาหาร ก็มีสิ่งที่เตือนใจคุณได้ การอดอาหารยังมีนัยที่สำคัญกว่านั้นคือสอนให้คนเรารู้จักความหิวโหย เพื่อจะได้สติระลึกให้รู้ว่าชีวิตนี้ไม่มีอะไรแน่นอน…ที่สำคัญต้องทำอย่างสม่ำเสมอ อาจทดลองดูเพียงวันเดียว หรือถ้าเป็นไปได้ ก็อาจขยายเวลาไปอีก แล้วคุณจะรู้ว่าความหิวโหยจริงๆ แล้วมันอิ่มเอิบมากเพียงใด”

ที่มา ชีวจิต

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1712 วันที่ 8 พ.ค. 2552


5 โรคร้ายจาก ?ความเป็นชาย? 5โรคร้ายจาก?ความเป็นชาย?

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

15 สิ่งใหม่ที่ช่วยให้ดูดี

15 สิ่งใหม่ที่ช่วยให้ดูดี


เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง
10 กฏหลัก....ของคนรักยีนส์

10 กฏหลัก....ของคนรักยีนส์


เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง
หย่ากาแฟ...ไม่ให้ปวดหัว

หย่ากาแฟ...ไม่ให้ปวดหัว


เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง
คำแผ่บารมีกุศลมหาอธิษฐาน

คำแผ่บารมีกุศลมหาอธิษฐาน


เปิดอ่าน 7,192 ครั้ง
หัวอกอัตราจ้าง

หัวอกอัตราจ้าง


เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

......สมัยเด็กๆคุณเล่นอะไร ......โตมาเป็นแบบนั้น..1...ชอบเล่นตุ๊กตากระดาษ, พ่อแม่ลูก, สร้างบ้านในจิน

......สมัยเด็กๆคุณเล่นอะไร ......โตมาเป็นแบบนั้น..1...ชอบเล่นตุ๊กตากระดาษ, พ่อแม่ลูก, สร้างบ้านในจิน

เปิดอ่าน 7,148 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ท่องเที่ยว มิติใหม่>>>ไปกับเรือดำน้ำลำแรกของไทย...หมดเขต31ต.ค.นี้
ท่องเที่ยว มิติใหม่>>>ไปกับเรือดำน้ำลำแรกของไทย...หมดเขต31ต.ค.นี้
เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย

งานประดิษฐ์....ตุ๊กตาครอบครัวรังไหม
งานประดิษฐ์....ตุ๊กตาครอบครัวรังไหม
เปิดอ่าน 7,146 ☕ คลิกอ่านเลย

จะแต่งหน้าอย่างไร..?จึงจะ ได้"สไตล์แต่งหน้า.....แอ๊บแบ๊ว"
จะแต่งหน้าอย่างไร..?จึงจะ ได้"สไตล์แต่งหน้า.....แอ๊บแบ๊ว"
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย

อ่านใจชายจากการมองกระจก
อ่านใจชายจากการมองกระจก
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย

*การลดกรรม 45 อย่าง*
*การลดกรรม 45 อย่าง*
เปิดอ่าน 7,162 ☕ คลิกอ่านเลย

  ผลแห่งการชักชวน......ให้คนสร้างกุศล
ผลแห่งการชักชวน......ให้คนสร้างกุศล
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของไทย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของไทย
เปิดอ่าน 19,882 ครั้ง

Google Me เตรียมชนขาใหญ่ Facebook
Google Me เตรียมชนขาใหญ่ Facebook
เปิดอ่าน 8,590 ครั้ง

"ไบโอติน" วิตามินหลากหลายประโยชน์
"ไบโอติน" วิตามินหลากหลายประโยชน์
เปิดอ่าน 2,918 ครั้ง

วิธีคลายร้อนให้บ้านปูน
วิธีคลายร้อนให้บ้านปูน
เปิดอ่าน 3,991 ครั้ง

ปลาหมอไทยในบ่อเลี้ยงไม่ยาก ราคาดี
ปลาหมอไทยในบ่อเลี้ยงไม่ยาก ราคาดี
เปิดอ่าน 33,773 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ