ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 6/2568 วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 โดยมี ผศ.ดร. ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุม และมี ดร. ธนู ขวัญเดช เลขาธิการ ก.ค.ศ. เป็นเลขานุการการประชุม ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและมีมติเห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ตำแหน่งครูผู้ช่วย ดังนี้
สืบเนื่องจากหลักเกณฑ์และวิธีการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ตำแหน่งครูผู้ช่วย ตาม ว 19/2561 และแบบประเมินการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ตำแหน่งครูผู้ช่วย ว 26/2561 ได้ใช้บังคับมาเป็นระยะเวลากว่า 6 ปี ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับสภาวการณ์ของการจัดการศึกษาในปัจจุบัน ประกอบกับ ก.ค.ศ. ได้กำหนดมาตรฐานตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใหม่ ตาม ว 19/2567
ดังนั้น สำนักงาน ก.ค.ศ. จึงได้สำรวจข้อมูลเพื่อพัฒนาปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการฯ และแบบประเมินฯ ผ่านแบบสอบถามออนไลน์ และการลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลภาคสนาม และได้จัดทำ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ตำแหน่งครูผู้ช่วย ซึ่ง ก.ค.ศ. มีมติเห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์ฯ ดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วย 1) แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการนับระยะเวลาการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ตำแหน่งครูผู้ช่วย 2) หลักสูตรการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ตำแหน่งครูผู้ช่วย และ 3) แบบบันทึกการประเมินการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ตำแหน่งครูผู้ช่วย โดยสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. ครูผู้ช่วย ต้องเข้ารับการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มในสถานศึกษาเป็นเวลาสองปี โดยมีการประเมินทุกหกเดือน รวม 4 ครั้ง โดยกำหนดหลักสูตรการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ซึ่งประกอบด้วย ด้านวิชาชีพ ด้านสังคม และด้านคุณลักษณะส่วนบุคคล
2. ให้มีคณะกรรมการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม จำนวน 3 คน ประกอบด้วย 1) ผู้อำนวยการสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ 2) ศึกษานิเทศก์ หรือผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นกรรมการ และ 3) ครูในสถานศึกษา เป็นกรรมการและเลขานุการ
3. กรณีครูผู้ช่วยมีผลการประเมินในครั้งใดต่ำกว่าเกณฑ์การประเมินให้สามารถโต้แย้งแสดงหลักฐานภายใน5 วันทำการ เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาทบทวนผลการประเมินได้
กรณีครูผู้ช่วยมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินเมื่อครบกำหนด 2 ปี และ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง พิจารณาอนุมัติผลการประเมินแล้ว ให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 ออกคำสั่งแต่งตั้งครูผู้ช่วยผู้นั้นดำรงตำแหน่งครูในวันถัดจากวันครบกำหนดการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม
ในส่วนของแนวปฏิบัติการนับระยะเวลาเตรียมความพร้อมฯ กำหนดการนับระยะเวลาในกรณีต่าง ๆ เช่นการลา การไปช่วยราชการในสถานศึกษาอื่น การได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วยตามบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ เป็นต้น
สำหรับหลักสูตรการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มฯ ประกอบด้วย 3 ด้าน คือ ด้านวิชาชีพ ด้านสังคม และด้านคุณลักษณะส่วนบุคคล ซึ่งการประเมินในแต่ละด้าน ผลการประเมินใช้เกณฑ์ผ่านหรือไม่ผ่าน โดยครูผู้ช่วยต้องมีผลการประเมินผ่านจากกรรมการทุกคน ในการประเมินทุก 6 เดือน รวม 4 ครั้ง ใน 2 ปี
ทั้งนี้ ให้ยกเลิกหลักเกณฑ์และวิธีการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ตำแหน่งครูผู้ช่วย ตาม ว 19/2561 และแบบประเมินการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ตำแหน่งครูผู้ช่วย ว 26/2561
ขอบคุณที่มาจาก สำนักงาน ก.ค.ศ.