ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


Advertisement

ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมความรู้ทั่วไป  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ออมทองให้นักเรียนรู้จักคุณค่าของเงิน เริ่มต้นง่าย ๆ ที่บ้าน


ความรู้ทั่วไป 20 มิ.ย. 2568 (06:46 น.)

569

views
Advertisement

ออมทองให้นักเรียนรู้จักคุณค่าของเงิน เริ่มต้นง่าย ๆ ที่บ้าน

ในยุคที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องการปลูกฝังนิสัยการออมให้กับเด็กนักเรียนตั้งแต่ยังเล็กเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามโดยเฉพาะการออมในรูปแบบของ"ทองคำ"ที่ไม่เพียงแต่สอนให้รู้จักคุณค่าของเงินแต่ยังช่วยให้เด็กเข้าใจการลงทุนเบื้องต้นได้ด้วยเช่นกันหนึ่งในวิธีการออมที่กำลังได้รับความนิยมคือ“การออมทอง”ซึ่งนอกจากจะเป็นการเก็บเงินในรูปแบบที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลาแล้ว ยังช่วยสร้างความตื่นตัวให้กับเด็ก ๆ ได้อีกด้วย เพราะทองคำเป็นสิ่งที่จับต้องได้และมีมูลค่าจริง

ทำไมถึงควรสอนเด็กให้ออมทอง?

การออมทองไม่ได้จำกัดแค่ผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ยังเหมาะกับเด็กนักเรียนด้วย เพราะ…

  • เรียนรู้การออมอย่างเป็นระบบ : ฝึกวินัยและความสม่ำเสมอในการออม
  • มองเห็นเป้าหมายชัดเจน : เด็กจะได้เรียนรู้การตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ เช่น ออมครบ 1 กรัม
  • เข้าใจเรื่องมูลค่าและการลงทุน : รู้ว่าทองคำสามารถมีราคาขึ้น-ลงได้ เป็นการปูพื้นฐานเรื่องการเงินในอนาคต
  • สร้างความภูมิใจ : เมื่อเก็บครบตามเป้าหมาย จะรู้สึกว่าความพยายามมีความหมาย

เริ่มต้นง่าย ๆ ที่บ้าน ด้วยวิธีเหล่านี้

การเริ่มต้นไม่จำเป็นต้องมีทุนเยอะ พ่อแม่สามารถสอนให้เด็กเริ่มต้นออมทองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ดังนี้

1.สร้างกระปุกออมทองส่วนตัว

ให้เด็กได้มี “กระปุกทอง” เป็นของตัวเอง หรือทำเป็นบันทึกเงินออมที่ใส่ทุกวัน เช่น วันละ 10 บาท เพื่อเก็บไปซื้อทองในอนาคต การมี "กระปุกออมทอง" เฉพาะตัวสำหรับเด็ก จะช่วยสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของ และกระตุ้นให้เกิดความสนใจในการออมมากขึ้น โดยสามารถใช้วิธีเหล่านี้ได้

  • ให้ลูกตกแต่งกระปุกเอง เช่น วาดรูปทองคำแท่ง หรือติดสติ๊กเกอร์คำว่า "เป้าหมายทองคำ"
  • กำหนดว่าแต่ละวันจะใส่เงินกี่บาท เช่น วันละ 10 บาท จากค่าขนมที่เหลือ
  • ใช้แผ่นตารางติดผนังบ้าน ว่าใส่เงินครบกี่วันแล้ว เพื่อสร้างภาพรวมของความพยายาม

ผลลัพธ์ : เด็กจะเรียนรู้เรื่อง “ความสม่ำเสมอ” และเห็นผลลัพธ์ของความพยายามทุกวันอย่างชัดเจน

2.แนะนำให้รู้จักทองคำ

เด็ก ๆ อาจเคยเห็นทองคำจากเครื่องประดับของพ่อแม่หรือในโฆษณา แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงมีค่า การให้ข้อมูลเบื้องต้นในรูปแบบที่เหมาะกับวัยจะช่วยให้เด็กเริ่มเข้าใจว่า “ทอง” คือทรัพย์สินที่มีมูลค่าจริง เล่าให้ฟังว่าทองมีค่าอย่างไร มีกี่ประเภท และทำไมถึงมีราคาสูงขึ้นได้ เป็นการสอนเรื่อง "สินทรัพย์" ให้เข้าใจแบบง่าย ๆ

  • อธิบายง่าย ๆ ว่า ทองมาจากใต้ดิน มีจำกัด และคนทั่วโลกต้องการ
  • ใช้ทองคำแท่งของจริง (หรือดูรูปภาพ/วิดีโอ) เพื่อให้เด็กได้สัมผัสหรือเห็นของจริง
  • เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับทอง เช่น สมัยก่อนใช้แลกของแทนเงิน หรือเป็นสมบัติของกษัตริย์

ผลลัพธ์ : เด็กจะเริ่มเชื่อมโยงทองคำกับ “คุณค่า” และรู้ว่านี่คือของที่มีความหมายมากกว่าความสวยงาม

3.ออมทองออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้

ในยุคดิจิทัล พ่อแม่สามารถใช้เครื่องมือออนไลน์มาช่วยให้การออมทองเป็นเรื่องง่าย โดยเฉพาะสำหรับครอบครัวที่ไม่สะดวกไปซื้อทองคำแท่งตามร้านทอง ปัจจุบันมีช่องทางให้เลือกมากมาย หนึ่งในนั้นคือ ห้างทองหลีเต้ง ตะกั่วป่า จังหวัดพังงา Leetang.co.th ที่เปิดโอกาสให้เริ่มออมทองได้แม้จะมีเงินเพียงหลักสิบ โดยสามารถฝากเงินเพื่อทยอยสะสมทองได้ทุกเดือน เหมาะกับเด็กนักเรียนที่เริ่มต้นจากเงินค่าขนม

  • ใช้บริการจากแพลตฟอร์มออมทองที่น่าเชื่อถือ เช่น Leetang.co.th ที่สามารถเริ่มต้นออมทองได้แม้มีเงินเพียง 50 บาท
  • เปิดบัญชีออมทองในชื่อลูก (หรือร่วมกันกับพ่อแม่) และเติมเงินทุกสัปดาห์จากค่าขนม
  • ให้ลูกช่วยกรอกข้อมูล หรือดูยอดทองที่สะสมขึ้นในแต่ละเดือน เป็นการสร้างการมีส่วนร่วม

ผลลัพธ์ : เด็กจะเรียนรู้ว่าการออมสามารถทำได้ง่าย สะดวก และสามารถติดตามผลได้ด้วยเทคโนโลยี เหมาะกับยุคปัจจุบัน

4.ตั้งเป้าหมายร่วมกันในครอบครัว

เด็กจะรู้สึกสนุกกับการออมมากขึ้น หากมี “เป้าหมาย” ที่ชัดเจน เช่น “ออมทองให้ได้ครบ 1 กรัมภายใน 3 เดือน” แล้วให้รางวัลเล็ก ๆ เมื่อลูกทำสำเร็จ เป็นการสร้างแรงจูงใจที่ดี

  • วางแผนร่วมกัน เช่น “ถ้าออมได้ครบ 1 กรัม ภายใน 3 เดือน จะได้ไปเที่ยวสวนสนุก”
  • ทำแผนที่เป้าหมายติดไว้ในบ้าน เช่น จากจุดเริ่มต้นไปยังจุดทองคำปลายทาง
  • ให้ลูกมีอิสระในการตัดสินใจ เช่น จะออมวันละกี่บาท จะหักจากค่าขนมเท่าไหร่

ผลลัพธ์ : เด็กจะมีแรงจูงใจในการออม และเริ่มคิดแบบนักวางแผนทางการเงินเล็ก ๆ ที่มีวินัยและมีเป้าหมายชัดเจน

ประโยชน์ของการออมทองสำหรับนักเรียน

การออมทองเป็นมากกว่าการเก็บเงิน เพราะยังสอนบทเรียนชีวิตให้กับเด็กได้อีกหลายข้อ เช่น…

  • วินัยทางการเงิน
  • การอดเปรี้ยวไว้กินหวาน
  • การวางแผนและการบริหารจัดการเงิน
  • ความรู้สึกมั่นคงแม้ยังอายุน้อย

เมื่อโตขึ้น เด็กจะรู้จักวางแผนทางการเงินและเข้าใจคุณค่าของเงินมากขึ้น ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของชีวิตผู้ใหญ่

สรุป : เริ่มต้นสอนออมทองวันนี้ เพื่ออนาคตที่มั่นคงของลูก

การออมทองไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป และไม่จำเป็นต้องรอจนโตถึงจะเริ่มได้ คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้เวลาร่วมกับลูก สอนให้เข้าใจคุณค่าของเงินและทอง ผ่านวิธีง่าย ๆ ที่บ้าน และเลือกใช้แพลตฟอร์มที่ปลอดภัย น่าเชื่อถืออย่าง ห้างทองหลีเต้ง จังหวัดพังงา เพื่อเป็นตัวช่วยในการออมอย่างมีระบบ

หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาวิธีออมทองอย่างปลอดภัย ใช้งานง่าย และเหมาะกับทุกวัย โดยเฉพาะเด็กนักเรียน อย่าลืมเข้าไปที่  ห้างทองหลีเต้ง เพื่อเริ่มต้นการออมทองของลูกคุณตั้งแต่วันนี้! 
 

ชุดไทยจิตรลดา โทนสีดำ ตัดเย็บจากผ้าไหมแพรทิพย์ งานละเอียดปราณีต แพทเทิร์นเข้ารูป สวยหรู ทันสมัย #ภาพถ่ายจากสินค้าจริง

฿1,790

https://s.shopee.co.th/8ANnSpUT4P?share_channel_code=6


ออมทองให้นักเรียนรู้จักคุณค่าของเงิน เริ่มต้นง่าย ๆ ที่บ้านออมทองให้นักเรียนรู้จักคุณค่าของเงินเริ่มต้นง่ายที่บ้าน

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

อาหารแสลง คืออะไร

อาหารแสลง คืออะไร


เปิดอ่าน 5,421 ครั้ง
ประโยชน์ของน้ำขิง

ประโยชน์ของน้ำขิง


เปิดอ่าน 4,075 ครั้ง
อาชีพในฝันเด็กไทยปี 59

อาชีพในฝันเด็กไทยปี 59


เปิดอ่าน 15,708 ครั้ง
วันปิยมหาราช

วันปิยมหาราช


เปิดอ่าน 10,435 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ฟ้า กับ เหว

ฟ้า กับ เหว

เปิดอ่าน 21,844 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ยาสระผมเข้าตาบ่อย ๆ เป็นอันตรายต่อดวงตามั้ย
ยาสระผมเข้าตาบ่อย ๆ เป็นอันตรายต่อดวงตามั้ย
เปิดอ่าน 32,866 ☕ คลิกอ่านเลย

กสศ. ผลิตสื่อให้ความรู้เรื่องโควิด-19 ฉบับภาษาถิ่น 4 ภาค
กสศ. ผลิตสื่อให้ความรู้เรื่องโควิด-19 ฉบับภาษาถิ่น 4 ภาค
เปิดอ่าน 45,392 ☕ คลิกอ่านเลย

งูพันไม้เท้าสัญลักษณ์ของการแพทย์
งูพันไม้เท้าสัญลักษณ์ของการแพทย์
เปิดอ่าน 20,217 ☕ คลิกอ่านเลย

จิงจูฉ่าย สุดยอดสมุนไพรจีนบำรุงเลือดลม
จิงจูฉ่าย สุดยอดสมุนไพรจีนบำรุงเลือดลม
เปิดอ่าน 24,901 ☕ คลิกอ่านเลย

ไม่กินข้าวเช้า เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน
ไม่กินข้าวเช้า เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน
เปิดอ่าน 14,835 ☕ คลิกอ่านเลย

สมองได้อะไรจากการออกกำลังกายบ้าง?
สมองได้อะไรจากการออกกำลังกายบ้าง?
เปิดอ่าน 12,842 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เสียงร้องทารก บอก"อะไร"คุณแม่
เสียงร้องทารก บอก"อะไร"คุณแม่
เปิดอ่าน 99,249 ครั้ง

รู้จัก โรคเอสแอลอี
รู้จัก โรคเอสแอลอี
เปิดอ่าน 11,752 ครั้ง

วิธีเพาะทานตะวันงอก
วิธีเพาะทานตะวันงอก
เปิดอ่าน 32,093 ครั้ง

ดร.ไพฑูรย์ ศรีฟ้า
ดร.ไพฑูรย์ ศรีฟ้า
เปิดอ่าน 32,209 ครั้ง

ทึ่ง! เจ้าหมูซูเปอร์ฮีโร่ช่วยชีวิตลูกแพะตกน้ำ
ทึ่ง! เจ้าหมูซูเปอร์ฮีโร่ช่วยชีวิตลูกแพะตกน้ำ
เปิดอ่าน 11,094 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ