5 ขั้นตอนการทำ ICSI ที่ต้องรู้ ก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษา

ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) หรือ การฉีดอสุจิเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง เป็นหนึ่งในวิธีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ใช้สำหรับคู่รักที่ประสบปัญหาภาวะมีบุตรยาก โดยเฉพาะกรณีที่อสุจิของฝ่ายชายมีจำนวนหรือคุณภาพต่ำจนไม่สามารถปฏิสนธิได้ตามธรรมชาติ ในบทความนี้จะมาแนะนำถึง 5
ขั้นตอนการทำ ICSI ที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ
1. การตรวจสุขภาพเบื้องต้นของคู่สมรส
ก่อนเริ่มขั้นตอนการทำ ICSI แพทย์จะทำการตรวจสุขภาพของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงเพื่อประเมินความพร้อมของร่างกาย รวมถึงหาสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก ซึ่งอาจประกอบด้วย
- ฝ่ายหญิง: ตรวจระดับฮอร์โมน ตรวจอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ รวมถึงการตรวจความพร้อมของเยื่อบุโพรงมดลูก
- ฝ่ายชาย: ตรวจคุณภาพและปริมาณอสุจิ เพื่อพิจารณาว่าสามารถใช้เทคนิค ICSI ได้หรือไม่
หากพบปัญหาสุขภาพที่อาจกระทบต่อการทำ ICSI แพทย์จะแนะนำแนวทางการรักษาหรือการเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มกระบวนการ
2. การกระตุ้นไข่และติดตามการเจริญเติบโตของไข่
เมื่อตรวจสุขภาพเสร็จแล้ว หากฝ่ายหญิงมีความพร้อม แพทย์จะให้ฮอร์โมนฉีดเพื่อกระตุ้นรังไข่ให้ผลิตไข่หลายใบ มากกว่าปกติที่ร่างกายสร้างขึ้นในแต่ละรอบเดือน
- ในช่วงนี้ แพทย์จะทำการ อัลตราซาวด์ติดตามการเจริญเติบโตของไข่ และตรวจระดับฮอร์โมนในเลือดอย่างสม่ำเสมอ
- เมื่อไข่โตเต็มที่ (ประมาณ 10-14 วันหลังเริ่มฉีดยากระตุ้น) แพทย์จะฉีดยากระตุ้นให้ไข่สุก และนัดวันเจาะไข่ออกมา
3. การเก็บไข่และอสุจิ
การเก็บไข่
- ไข่จะถูกเก็บผ่านกระบวนการที่เรียกว่า "การเจาะเก็บไข่" โดยใช้เข็มขนาดเล็กดูดไข่ออกจากรังไข่ผ่านทางช่องคลอด โดยทำภายใต้การให้ยาชาหรือยาสลบ
- หลังเก็บไข่แล้ว แพทย์จะนำไข่ที่มีคุณภาพดีที่สุดมาใช้ในการปฏิสนธิ
การเก็บอสุจิ
- ฝ่ายชายจะต้องเก็บน้ำอสุจิในวันเดียวกับที่ฝ่ายหญิงเจาะเก็บไข่ หรือหากอสุจิมีน้อยมาก อาจต้องใช้วิธี TESE (Testicular Sperm Extraction) หรือการเจาะอัณฑะเพื่อดูดตัวอสุจิออกมาโดยตรง
4. การปฏิสนธิและเพาะเลี้ยงตัวอ่อน
ในขั้นตอนนี้ แพทย์จะใช้เทคนิค ICSI โดยเลือกตัวอสุจิที่แข็งแรงที่สุด ฉีดเข้าไปในไข่โดยตรงผ่านกล้องจุลทรรศน์ความละเอียดสูง จากนั้นนำไปเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการที่ควบคุมอุณหภูมิและสภาวะที่เหมาะสม
- การติดตามพัฒนาการของตัวอ่อน: ตัวอ่อนจะถูกเลี้ยงไว้ 3-5 วัน เพื่อให้พัฒนาเป็น ตัวอ่อนระยะบลาสโตซิสต์ (Blastocyst) ซึ่งเป็นระยะที่พร้อมสำหรับการฝังตัว
- หากมีตัวอ่อนคุณภาพดีหลายตัว สามารถเลือกแช่แข็งไว้เพื่อใช้ในอนาคตได้
5. การย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสู่โพรงมดลูก
เมื่อถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม ขั้นตอนการทำ ICSI ต่อไป แพทย์จะทำการย้ายตัวอ่อนที่สมบูรณ์ที่สุดกลับเข้าไปในโพรงมดลูกผ่านสายสวนขนาดเล็ก ขั้นตอนนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ยาชาและใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที หลังจากนั้นแพทย์จะให้ฮอร์โมนเสริมเพื่อช่วยให้ตัวอ่อนฝังตัวในมดลูกได้ดีขึ้น
- ประมาณ 10-14 วันหลังย้ายตัวอ่อน คู่สมรสจะต้องกลับมาตรวจเลือดเพื่อเช็กผลว่าตั้งครรภ์หรือไม่
- หากตั้งครรภ์ แพทย์จะให้การดูแลต่อเนื่องเพื่อป้องกันภาวะแท้งหรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
ขั้นตอนการทำ ICSI เป็นเทคนิคที่ช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์สำหรับคู่รักที่มีปัญหาภาวะมีบุตรยาก โดยมี 5 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ การตรวจสุขภาพเบื้องต้น, การกระตุ้นไข่, การเก็บไข่และอสุจิ, การปฏิสนธิและเพาะเลี้ยงตัวอ่อน, และการย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสู่โพรงมดลูก