ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 13/2567 วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2567 โดยมี พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุม และมี รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสภาการศึกษา รักษาราชการแทนเลขาธิการ ก.ค.ศ. เป็นเลขานุการการประชุม ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและมีมติที่สำคัญ ดังนี้
1. เห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2)
ตามที่ ก.ค.ศ. ได้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคล เข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ตาม ว 27/2555 และ ว 4/2559 ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้ประกาศใช้มาเป็นเวลานาน จึงมีบางประเด็นที่ไม่สอดคล้องกับบริบทและกลไกการบริหารงานบุคคลของตําแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ดังนั้น เพื่อให้การบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตําแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) มีความสอดคล้องกับบริบทของกฎหมายและหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ที่เกี่ยวข้องในปัจจุบัน มีความชัดเจนในทางปฏิบัติ และหน่วยงานการศึกษาหรือส่วนราชการสามารถนําไปปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำนักงาน ก.ค.ศ. จึงได้ปรับปรุงและพัฒนาหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขฯ ให้สอดคล้องกับบริบทและกลไกการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากร ทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) โดย ก.ค.ศ. มีมติ เห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขฯ ดังกล่าว และมีมติให้ยกเลิกหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ตาม ว 27/2555 และ ว 4/2559
ทั้งนี้ การใดที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ว 27/2555 และ ว 4/2559 ให้ดำเนินการต่อไปจนแล้วเสร็จและให้นำเสนอ ก.ค.ศ. พิจารณาต่อไป
2. เห็นชอบ (ร่าง) การกำหนดตำแหน่งอย่างอื่นที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่า สำหรับตำแหน่ง บุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2)
ตามที่ ก.ค.ศ. ได้กำหนดตำแหน่งอย่างอื่นที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่า สำหรับตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) โดยกำหนดตำแหน่งในสำนักงาน กศน. จังหวัด/กรุงเทพมหานคร เป็นตำแหน่งอย่างอื่นที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่า สำหรับตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) (ว 30/2564) นั้น
ต่อมาพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 กำหนดให้มีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ และกำหนดให้ทุกจังหวัดมีสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัด โดยให้ยกเลิกพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 ทำให้สำนักงาน กศน. จังหวัด/กรุงเทพมหานคร ถูกยกเลิก ดังนั้น เพื่อให้การบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) สอดคล้องกับบริบทและสภาวการณ์ ของกระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป มีมาตรฐานเดียวกัน เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อประโยชน์ของทางราชการ ประกอบกับ ก.ค.ศ. ยังไม่ได้กำหนดตำแหน่งครูและตำแหน่งครูผู้ช่วย เป็นตำแหน่งอย่างอื่นที่เทียบเท่าตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค. (2) สำนักงาน ก.ค.ศ. จึงได้ปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งอย่างอื่นที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่าสำหรับตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) และ ก.ค.ศ. ได้มีมติเห็นชอบการกำหนดตำแหน่งฯ ดังกล่าว โดยให้ยกเลิกการกำหนดตำแหน่งอย่างอื่นที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่า สำหรับตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.5/ว 30 ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 ทั้งนี้ การใดที่อยู่ระหว่างการดำเนินการกำหนดตำแหน่งอย่างอื่น ที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่า สำหรับตำแหน่ง บุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) (ว 30/2564) ให้ดำเนินการต่อไปจนแล้วเสร็จ
3. การใช้งานระบบการบริหารอัตรากําลังข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา (School Capacity System : SCS) สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
สืบเนื่องจากที่ ก.ค.ศ. ได้กำหนดวิธีการบริหารอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาผ่านระบบบริหารอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (School Capacity System: SCS) โดยใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นมา โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้องจัดทำข้อมูลอัตรากำลังในระบบเพื่อเป็นการตรวจสอบสภาพอัตรากำลังของสถานศึกษาทุกแห่งในสังกัด โดยใช้ข้อมูลนักเรียนรายบุคคล จำนวน 2 รอบ ได้แก่ รอบที่ 1 ใช้ข้อมูลนักเรียนรายบุคคล ณ วันที่ 10 มิถุนายนของทุกปี โดยดำเนินการให้แล้วเสร็จเพื่อเสนอ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา พิจารณาภายในเดือนกรกฎาคมของปีเดียวกันและรอบที่ 2 ใช้ข้อมูลนักเรียนรายบุคคล ณ วันที่ 10 พฤศจิกายนของทุกปี โดยดำเนินการให้แล้วเสร็จเพื่อเสนอ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาพิจารณาภายในเดือนธันวาคมของปีเดียวกัน ทั้งนี้ หากข้อมูลอัตรากำลังในแต่ละรอบเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ให้ทำการแก้ไขปรับปรุงให้เป็นปัจจุบัน เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
ในการนี้ ก.ค.ศ. จึงได้มีมติให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในฐานะส่วนราชการต้นสังกัด กำกับและติดตามการดำเนินการบริหารอัตรากำลังข้าราชการครูฯ ในระบบ SCS ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของวิธีการบริหารอัตรากำลังฯ ที่ต้องการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการข้อมูลและประมวลอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ซึ่งจะช่วยลดการผิดพลาดคลาดเคลื่อนในการบริหารงานบุคคลในสถานศึกษา เพื่อให้การกำหนดอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา สังกัด สพฐ. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้อง ตามเกณฑ์อัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา และเกณฑ์มาตรฐานวิชาเอกที่กำหนดให้มีในสถานศึกษาตามที่ ก.ค.ศ. กำหนดและ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาสามารถวางแผนและบริหารอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา รวมทั้งสามารถเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อเป็นการรองรับการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ผ่านระบบการย้ายข้าราชการครู (Teacher Rotation System : TRS) ที่สำนักงาน ก.ค.ศ. เตรียมเปิดระบบให้ข้าราชการครูที่ประสงค์ขอย้าย ลงทะเบียนเพื่อยื่นคำร้องขอย้ายประจำปี 2568 รอบที่ 1 ในวันที่ 16 มกราคม 2568 ที่จะถึงนี้
4. อนุมัติ แต่งตั้งอนุกรรมการ ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา แทนตำแหน่งที่ว่าง รวมทั้งสิ้นจำนวน 34 ตำแหน่ง
5. อนุมัติย้ายและแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ให้ดำรงตำแหน่งและวิทยฐานะเดิม ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งใหม่ จำนวน 3 ราย
6. อนุมัติ บรรจุและแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ได้รับการคัดเลือกซึ่งขึ้นบัญชีรอการบรรจุให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 5 ราย
ที่มา สำนักงาน ก.ค.ศ.