ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมงานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคม  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

หลักสูตรท้องถิ่น กับการปฏิรูปการศึกษาไทย แนวทางกระจายอำนาจให้โรงเรียนได้ออกแบบ และมีส่วนร่วม


งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคม 5 ก.ย. 2567 (16:22 น.) เปิดอ่าน : 391 ครั้ง
Advertisement

หลักสูตรท้องถิ่น กับการปฏิรูปการศึกษาไทย แนวทางกระจายอำนาจให้โรงเรียนได้ออกแบบ และมีส่วนร่วม

Advertisement

หลักสูตรท้องถิ่น อยู่คู่กับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาเป็นเวลานานแล้ว ถือเป็นการกระจายอำนาจทางการศึกษา เพราะเปิดโอกาสให้โรงเรียนและชุมชนได้จัดทำควบคู่ไปกับหลักสูตรแกนกลางของ สพฐ. แต่ในปัจจุบันหลักสูตรฯ ดังกล่าว ได้ถูกลดความสำคัญลงไปมาก ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทางรายการ 1 ในพระราชดำริ สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 Mcot HD และมูลนิธิอานันทมหิดล ให้ความสนใจ เพราะการเปิดโอกาสให้โรงเรียนมีอิสระในความคิด ทั้งในเรื่องออกแบบหลักสูตรการศึกษาและบริหารจัดการ จะทำให้ทุกพื้นที่ได้มีคนเก่งที่เข้าใจในบริบทของสังคม เกิดการบริหารจัดการที่ใช้โรงเรียนเป็นฐาน อย่างแท้จริง
 
ดร.รัตนา แซ่เล้า ผู้รับพระราชทานทุนอานันทมหิดล แผนกธรรมศาสตร์ ประจำปี 2549 เปิดเผยว่า “ตั้งแต่มีการปฏิรูปการศึกษาปี พ.ศ.2542 ประเทศไทยได้พัฒนาการศึกษาโดยคาบเกี่ยวกับ 2 ปัจจัยหลักคือ 1)การตอบรับกับกระแสโลกาภิวัฒน์ ทำให้คนไทยสามารถเป็นส่วนหนึ่งของพลวัฒน์โลกได้ เช่น การแข่งขันทางเศรษฐกิจ หรือการเข้าร่วมกับการวัดผลประเมินผลระดับนานาชาติ 2)การรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งเป็นการศึกษาที่โรงเรียนหรือชุมชน ได้จัดทำควบคู่ไปกับหลักสูตรแกนกลางของ สพฐ. ที่เรียกกันว่าหลักสูตรท้องถิ่น เป็นการกระจายอำนาจหรือให้โอกาสกับชุมชน สามารถมีส่วนร่วมพัฒนาการศึกษาของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะบริบทของชุมชนในสังคมไทยนั้นต่างกัน ประเทศไทยควรจะเปิดโอกาสให้โรงเรียนได้เลือก ที่ผ่านมาหลักสูตรท้องถิ่นได้เข้าออกในระบบการศึกษาไทยมานานแล้ว ขึ้นอยู่กับผู้บริหารของภาครัฐว่าจะเห็นความสำคัญเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน ทุกวันนี้โรงเรียนขนาดใหญ่จะเน้นแต่เรื่องหลักสูตรแกนกลาง เพื่อนำผลการเรียนไปแข่งกับนานาประเทศ หลักสูตรท้องถิ่นกลายเป็นงานของโรงเรียนขนาดเล็กที่ขาดแคลนครู ทั้งที่ความจริงแล้วควรเป็นที่โรงเรียนและท้องถิ่นแข็งแรง ช่วยกันผลักดันให้เกิดหลักสูตรท้องถิ่นขึ้นมา ในเชิงนโยบายการศึกษาเรามีทิศทางว่าสอนหลักสูตรแกนกลาง 70% และหลักสูตรท้องถิ่น 30% ซึ่งเป็นทิศทางที่เหมาะสม แต่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น ทุกวันนี้เรามีหลักสูตรต่างๆ มากมายเกิดขึ้น เนื่องจากผู้บริหารภาครัฐได้เข้ามาแทรกแซงในรูปนโยบายต่างๆ ทางการศึกษา โดยอาศัยหลักสูตรเป็นเครื่องมือ เช่น การเพิ่มกิจกรรม การสลับปรับเปลี่ยนจำนวนชั่วโมง รวมทั้งการเพิ่มรายวิชา จนทำให้หลักสูตรท้องถิ่นกลายเป็นชั่วโมงที่ใส่อะไรก็ได้เข้ามา การที่ภาครัฐเปลี่ยนแปลงนโยบายตลอดเวลา ทำให้หลักสูตรไม่มีเสถียรภาพ เกิดความสั่นคลอน จนหลักสูตรท้องถิ่นไม่ได้เป็นประเด็นของการศึกษาไทย”  
    
ดร.สุกรี นาคแย้ม อาจารย์วิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งมีประสบการณ์เคยเป็นครู และผู้อำนวยการในโรงเรียนขนาดเล็กใน จ.มหาสารคาม มานานหลายปี ได้ให้ความเห็นว่า “คำถามสำคัญคือในนามการปฏิรูปและกระจายอำนาจด้านการศึกษา เกิดอะไรขึ้นกับความสัมพันธ์หว่างหน่วยงานทางการศึกษาระดับบน และโรงเรียนซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติล่างหรือเล็กสุด ในที่นี้ขอยก 2 แนวคิดเกี่ยวกับสถานภาพของโรงเรียน มาเทียบเคียงเพื่อให้เห็นคำตอบเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น คือการมีสถานภาพเป็นผู้บริโภค (Consumers) หรือเป็นผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholders) คำตอบในเรื่องนี้พิจารณาได้จาก 2 ลักษณะของการออกแบบโครงสร้างทางการบริหารและโครงสร้างหลักสูตรแกนกลาง คือ 1)โครงสร้างแนวตั้ง เป็นโครงสร้างที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการถ่ายทอดคำสั่ง กฎ ระเบียบและการตัดสินใจจากระดับบนลงสู่ระดับล่าง ภายใต้โครงสร้างนี้ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานในระดับต่างๆ ที่ระดับหรือความมีอำนาจในการตัดสินใจแตกต่างกัน โดยลดหลั่นกันตามสายการบังคับบัญชา ลักษณะเช่นนี้ทำให้หน่วยงานที่อยู่ล่างสุดหรือปลายสุดของเส้นทางเดินอำนาจ เช่น โรงเรียน ถูกกำกับควบคุมอย่างเข้มงวด สถานภาพจึงเป็นได้เพียงผู้บริโภค
 
2)โครงสร้างแนวราบ เกิดขึ้นภายใต้แนวคิดที่พยายามหาทางออกให้กับปัญหา หรือข้อจำกัดที่เกิดจากโครงสร้างแบบแนวตั้ง หรือพูดง่าย ๆ ก็คือลดจำนวนหน่วยงานราชการตามสายการบังคับบัญชาแบบเป็นทางการ เพื่อเน้นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ แม้ว่ายังคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์ตามสายการบังคับบัญชาที่เป็นทางการหรือตามตัวบทกฎหมายก็ตาม แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเครือข่ายที่อยู่นอกสายการบังคับบัญชาแบบเป็นทางการ ประกอบกับสายการบังคับบัญชาแบบเป็นทางการที่สั้นลง ทำให้ความสัมพันธ์ภายใต้โครงสร้างนี้มีความยืดหยุ่นและหลากหลายรูปแบบ ดังนั้นระดับหรืออำนาจในการตัดสินใจของหน่วยงานระดับปฏิบัติ อย่างโรงเรียนจึงเพิ่มขึ้น ทำให้มีสภาพเป็นผู้มีส่วนได้เสีย
                   
โดยตลอด 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา พบว่าโครงสร้างทางการบริหารและโครงสร้างหลักสูตรแกนกลางของการศึกษาขั้นพื้นฐาน ยังเป็นโครงสร้างแบบแนวตั้งเหมือนเดิม ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงเพราะการที่หน่วยงานระดับบนใส่อะไรลงไปบนโครงสร้าง โดยไม่คำนึงถึงศักยภาพหรือความสามารถของโรงเรียนในการแบกรับ จะทำให้โรงเรียนโดยเฉพาะโรงเรียนขนาดเล็กเจ็บป่วยและอ่อนแอลงเรื่อยๆ และยังสะท้อนถึงความเหลื่อมล้ำด้านทรัพยากรระหว่างสถานศึกษา  ในโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีทรัพยากรพร้อมนั้นสามารถพัฒนาหลักสูตรได้โดยไม่ยากเย็น แต่การปฏิบัติที่เกิดขึ้นในโรงเรียนขนาดเล็กซึ่งขาดแคลนทรัพยากรอาจไม่ใช่ “การพัฒนา” แต่อาจมีลักษณะเป็น “การหามา” หรือ “ทำให้มี” เป็นต้น
 
ดร.สุกรี ยังได้กล่าวต่อไปว่า “อย่างไรก็ตามภายใต้โครงสร้างแบบนี้ ก็ยังมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้น นั่นคือการที่โรงเรียนขนาดเล็กสามารถจัดหลักสูตรท้องถิ่นให้กับผู้เรียนในพื้นที่มานานแล้ว ทั้งที่มีข้อจำกัดด้านบุคลากร ครูไม่ครบชั้นเรียน รวมถึงการไม่มีครูที่มีความเชี่ยวชาญในเนื้อหาและการสอนครบทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ที่เป็นเช่นนี้เพราะหลังจากทุ่มเทการเรียนการสอนกับกลุ่มสาระที่ตนเองถนัดหรือจบมาแล้ว ในเวลาที่เหลือครูจึงจัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียนในลักษณะต่างๆ ตามดุลพินิจและบริบท โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมที่ได้ลงมือปฏิบัติจริง เช่น จักสาน เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ ตัดผม ปลูกต้นไม้ ร้องเพลง เล่นเกม หรือเล่นกีฬา”
 

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถชมคลิปการสัมภาษณ์เพิ่มเติม ได้ในรายการ 1 ในพระราชดำริ ตอนความฝันอันสูงสุด กระจายอำนาจ กระจายโอกาส ซึ่งทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 Mcot HD ได้ร่วมกับมูลนิธิอานันทมหิดล ได้จัดทำขึ้น โดยสามารถคลิกไปที่ https://www.youtube.com/watch?v=4-PbGMf3HrA&t=413s ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 

คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ

หลักสูตรท้องถิ่น กับการปฏิรูปการศึกษาไทย แนวทางกระจายอำนาจให้โรงเรียนได้ออกแบบ และมีส่วนร่วมหลักสูตรท้องถิ่นกับการปฏิรูปการศึกษาไทยแนวทางกระจายอำนาจให้โรงเรียนได้ออกแบบและมีส่วนร่วม

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ศธ.จ.ชัยภูมิ เรียกบรรจุครูผู้ช่วยรอบ 2 จำนวน 202 ราย รายงานตัววันที่ 18 ตค.59

ศธ.จ.ชัยภูมิ เรียกบรรจุครูผู้ช่วยรอบ 2 จำนวน 202 ราย รายงานตัววันที่ 18 ตค.59

เปิดอ่าน 25,782 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 ประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน จำนวน 3 อัตรา
สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 ประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน จำนวน 3 อัตรา
เปิดอ่าน 703 ☕ คลิกอ่านเลย

"สหพัฒน์แอดมิชชั่น" ครั้งที่ 27 พร้อมแล้ว "ติวสด" 12 วิชา 6 วันติด 7-12 ตค. นี้ ทั้งแบบออนไซต์และออนไลน์
"สหพัฒน์แอดมิชชั่น" ครั้งที่ 27 พร้อมแล้ว "ติวสด" 12 วิชา 6 วันติด 7-12 ตค. นี้ ทั้งแบบออนไซต์และออนไลน์
เปิดอ่าน 311 ☕ คลิกอ่านเลย

สพป.สกลนคร เขต 1 ประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อสรรหาพนักงานราชการ ตำแหน่งครูผู้สอน 1 อัตรา 1 วิชาเอก
สพป.สกลนคร เขต 1 ประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อสรรหาพนักงานราชการ ตำแหน่งครูผู้สอน 1 อัตรา 1 วิชาเอก
เปิดอ่าน 1,841 ☕ คลิกอ่านเลย

สพฐ. จับมือ EduPLOYS ลงนาม MOU หนุนจัดแข่งขัน บอร์ดเกมเพื่อการศึกษา ส่งเสริมกีฬาทางปัญญา
สพฐ. จับมือ EduPLOYS ลงนาม MOU หนุนจัดแข่งขัน บอร์ดเกมเพื่อการศึกษา ส่งเสริมกีฬาทางปัญญา
เปิดอ่าน 695 ☕ คลิกอ่านเลย

ประชาสัมพันธ์โครงการการแข่งขันเลขคณิตคิดเร็วด้วยเวทคณิต ครั้งที่ 3
ประชาสัมพันธ์โครงการการแข่งขันเลขคณิตคิดเร็วด้วยเวทคณิต ครั้งที่ 3
เปิดอ่าน 695 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

กระทรวงศึกษาธิการ ปลดล็อคการศึกษาไทย พลิกฟื้นวิกฤติด้วยนโยบาย "ซ่อม สร้าง ป้องกัน"
กระทรวงศึกษาธิการ ปลดล็อคการศึกษาไทย พลิกฟื้นวิกฤติด้วยนโยบาย "ซ่อม สร้าง ป้องกัน"
เปิดอ่าน 3,552 ครั้ง

ย้อนดูโปรแกรมแชท 22 ปีที่แล้ว จนถึงอวสาน "MSN"
ย้อนดูโปรแกรมแชท 22 ปีที่แล้ว จนถึงอวสาน "MSN"
เปิดอ่าน 18,702 ครั้ง

17 วิธี Refresh สุขภาพแบบฮอต ฮอต
17 วิธี Refresh สุขภาพแบบฮอต ฮอต
เปิดอ่าน 8,683 ครั้ง

5 พฤติกรรมทำร้ายดวงตา
5 พฤติกรรมทำร้ายดวงตา
เปิดอ่าน 11,807 ครั้ง

ออกกำลังกายตามอารมณ์
ออกกำลังกายตามอารมณ์
เปิดอ่าน 9,535 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ