ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 7/2567 วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 โดยมี พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุม และมี รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการ ก.ค.ศ. เป็นเลขานุการการประชุม ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและมีมติที่สำคัญ ดังนี้
1. เห็นชอบการกำหนดชื่อตำแหน่งและวิทยฐานะ มาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะ การเข้าสู่ตำแหน่ง และการขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา ในหน่วยงานการศึกษา สังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้
สืบเนื่องจากมติ ก.ค.ศ. ในคราวประชุมครั้งที่ 6/2567 เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2567 มีมติให้กรมส่งเสริมการเรียนรู้ ดำเนินการจัดทำประกาศหน่วยงานการศึกษาและสถานศึกษา และกำหนดตำแหน่งและกรอบอัตรากำลัง ในหน่วยงานการศึกษาหรือสถานศึกษา รวมถึงให้ใช้มาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาม ว 3/2564 เพื่อประโยชน์ในการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไปพลางก่อน และได้มีประกาศกระทรวงศึกษาธิการกำหนดให้สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ ประจำจังหวัด สถาบันส่งเสริมการเรียนรู้ภาค ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้กลุ่มเป้าหมายพิเศษ และสถาบันการศึกษา และพัฒนาต่อเนื่องสิรินธร มีสถานะเป็นหน่วยงานการศึกษา
กรมส่งเสริมการเรียนรู้จึงได้จัดทำ (ร่าง) มาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะของตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา ในหน่วยงานการศึกษาที่ตั้งใหม่ทั้ง 4 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัด สถาบันส่งเสริมการเรียนรู้ภาค ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้กลุ่มเป้าหมายพิเศษ และสถาบันการศึกษา และพัฒนาต่อเนื่องสิรินธร สังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ โดยที่ประชุม ก.ค.ศ. มีมติ ดังนี้
1) กำหนดให้ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา สังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ เป็นตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา 38 ข. (5) และกำหนดตำแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นตามที่ ก.ค.ศ. กำหนดให้มีวิทยฐานะตามมาตรา 39 จ.
2) กำหนดมาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะผู้บริหารการศึกษา สังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตำแหน่งรองผู้อำนวยการและผู้อำนวยการสำนักงาน/สถาบัน/ศูนย์ โดยมีรายละเอียดหน้าที่และความรับผิดชอบ ลักษณะงานที่ปฏิบัติ วินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง
3) การเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา
3.1 กำหนดให้ผู้ที่ดำรงตำแหน่งและวิทยฐานะ ตำแหน่งรองผู้อำนวยการและตำแหน่งผู้อำนวยการ สำนักงาน กศน.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณี อยู่เดิม เข้าสู่ตำแหน่งและวิทยฐานะ ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการและตำแหน่งผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัด/กรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณี
3.2 ให้นำบัญชีรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งผู้อํานวยการสํานักงาน กศน.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร สังกัดสํานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย พ.ศ. 2565 ของ อ.ก.ค.ศ. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ที่ยังไม่ครบอายุการขึ้นบัญชี มาใช้ในการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารการศึกษาที่กำหนดใหม่
3.3 ให้นำระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง/วิทยฐานะ ตำแหน่งรองผู้อำนวยการหรือตำแหน่ง ผู้อำนวยการ สำนักงาน กศน.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณี มาใช้เป็นคุณสมบัติหรือนับรวมต่อเนื่อง กับระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง/วิทยฐานะ ในตำแหน่งที่กำหนดใหม่ เพื่อเป็นคุณสมบัติในการเข้าสู่ตำแหน่ง ผู้บริหารการศึกษาได้
4) การขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ
4.1 ให้นำระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง/วิทยฐานะ ตำแหน่งรองผู้อำนวยการหรือตำแหน่ง ผู้อำนวยการ สำนักงาน กศน.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณี มาใช้เป็นคุณสมบัติหรือนับรวมต่อเนื่องกับระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง/วิทยฐานะ ในตำแหน่ง/วิทยฐานะที่กำหนดใหม่ เพื่อเป็นคุณสมบัติในการขอมี หรือเลื่อนวิทยฐานะได้ ทั้งนี้ ให้รวมถึงผลการพัฒนางานตามข้อตกลง (PA) ด้วย
4.2 สาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา สังกัดสำนักงาน กศน. (เดิม) และ สาระสำคัญเกี่ยวกับการจัดการศึกษาที่ปรากฏในหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.4/ว 12 ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 และ ที่ ศธ 0206.3/ว 22 ลงวันที่ 3 กันยายน 2564 ให้หมายความรวมถึงตำแหน่งผู้บริหารการศึกษาที่กำหนดใหม่และการจัดการเรียนรู้ ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 ด้วย
2. เห็นชอบ การกำหนดขนาดสถานศึกษา รายละเอียดตัวชี้วัดและคะแนนในการประเมินตามองค์ประกอบการประเมินศักยภาพของผู้ประสงค์ขอย้าย (กรณีปกติ) ปฏิทินการย้าย ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ประจำปี พ.ศ. 2567 และกำหนดให้คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ของสถานศึกษา ปฏิบัติหน้าที่เป็นคณะกรรมการสถานศึกษา
ตามที่ ก.ค.ศ. ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 9/2567 โดยให้ส่วนราชการอื่นกำหนดขนาดของสถานศึกษาได้ตามความเหมาะสมและในการย้ายกรณีปกติและให้ส่วนราชการกำหนดรายละเอียดตัวชี้วัดและคะแนนในการประเมินตามองค์ประกอบการประเมินศักยภาพ เสนอ ก.ค.ศ. พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ซึ่งกรมส่งเสริมการเรียนรู้ไม่ได้เสนอให้พิจารณาการกำหนดขนาดสถานศึกษา เนื่องจากสถานศึกษามีรูปแบบในการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย และจำนวนนักศึกษาและผู้รับบริการในแต่ละรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ขึ้นอยู่กับความพร้อมและความสนใจของกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ ก.ค.ศ. จึงได้มีมติ
1) เห็นชอบการกำหนดรายละเอียดตัวชี้วัดและคะแนนในการประเมินตามองค์ประกอบการประเมินศักยภาพของผู้ประสงค์ขอย้าย (กรณีปกติ) ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ประจำปี พ.ศ. 2567
ซึ่งรายละเอียดตัวชี้วัดและคะแนนในการประเมินดังกล่าวเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการฯ ที่ ก.ค.ศ. กำหนด
2) เห็นชอบการกำหนดปฏิทินการย้าย ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ประจำปี พ.ศ. 2567 โดยขอเปลี่ยนแปลงการยื่นคำร้องขอย้าย จากเดิมวันที่ 1 – 15 กรกฎาคม 2567 เป็นวันที่ 1 – 15 สิงหาคม 2567 เนื่องจากกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ได้รับความเห็นชอบให้กำหนดตำแหน่งและกรอบอัตรากำลังในหน่วยงาน การศึกษาหรือสถานศึกษา สังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา
3) เห็นชอบกำหนดให้การพิจารณาย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ปี 2567 ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด
3. อนุมัติให้ นายหงษ์ดี ศรีเสน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาวิทยฐานะผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ โรงเรียนวิสุทธรังษี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาญจนบุรี เลื่อนเป็นวิทยฐานะผู้อำนวยการเชี่ยวชาญพิเศษ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2567
4. อนุมัติ แต่งตั้งอนุกรรมการ ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา รวมทั้งสิ้นจำนวน 11 เขต รวม 12 ตำแหน่ง
ขอบคุณที่มาจาก สำนักงาน ก.ค.ศ.