ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

สมศ. เผยสถานศึกษาขอรับการประเมินปี 67 เกินเป้า 20% พร้อมเปิดโอกาสสถานศึกษาร่วมสะท้อน ฟีดแบ็กได้ในทุกขั้นตอน


ข่าวการศึกษา 24 ก.ค. 2567 (23:19 น.) เปิดอ่าน : 2,390 ครั้ง
Advertisement

สมศ. เผยสถานศึกษาขอรับการประเมินปี 67 เกินเป้า 20% พร้อมเปิดโอกาสสถานศึกษาร่วมสะท้อน ฟีดแบ็กได้ในทุกขั้นตอน

Advertisement

เปิดความร่วมมือ สมศ. จับมือหน่วยงานต้นสังกัดร่วมกันกำหนดเกณฑ์ประเมิน พาการศึกษาไทยพัฒนาไปด้วยกัน พร้อมเจาะปัจจัย ดึงสถานศึกษาท้องถิ่นสมัครใจเข้ารับการประเมินกว่า 80%

กรุงเทพฯ 24 กรกฎาคม 2567 – สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ. เผยประเมินคุณภาพภายนอกปี 2567 ผลตอบรับดีเกินคาด ต้นสังกัดให้ความร่วมมือส่งสถานศึกษาเข้าร่วมรับการประเมินถึง 5,134 แห่ง สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้กว่า 20% โดยมีปัจจัยที่สำคัญจากรูปแบบการประเมินรูปแบบใหม่ที่เน้นประเมินเพื่อพัฒนา มุ่งลดภาระสถานศึกษาได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังเผยถึงความร่วมมือระหว่าง สมศ. และหน่วยงานต้นสังกัดต่างๆ ที่ได้ร่วมกันพัฒนาเกณฑ์การประเมินคุณภาพภายนอกและพัฒนารูปแบบการประเมินซึ่งมีความเชื่อมโยงและสอดคล้องกับการประกันคุณภาพภายในที่สถานศึกษาทุกแห่งต้องดำเนินการอยู่แล้ว พร้อมช่วยให้คุณภาพการศึกษาถูกยกระดับ สอดคล้องกับนโยบายจับมือไว้แล้วไปด้วยกันของพลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

ดร.นันทา หงวนตัด รักษาการผู้อำนวยการ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) กล่าวว่า ขณะนี้การประเมินคุณภาพภายนอกของปีงบประมาณ 2567 ได้เริ่มขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการ โดยปีนี้มีความล่าช้ากว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากต้องรอให้การประกาศเกณฑ์การประเมินคุณภาพภายนอกครบ 1 ปี ตามข้อบังคับของ สมศ. โดยผู้ประเมินภายนอก ได้มีการวิเคราะห์ SAR เสร็จสิ้นเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา และได้เริ่มลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานศึกษาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งหลังจากที่ สมศ. ได้ปรับกรอบแนวทางการประเมินคุณภาพภายนอก โดยยึด 3 ประเด็นหลัก คือ ให้ความสำคัญกับการประกันคุณภาพภายนอกเพื่อการพัฒนาและยกระดับคุณภาพ (Quality Improvement) เน้นลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา และนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้สนับสนุนการประเมินตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ ปรากฏว่าได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี มีสถานศึกษาแจ้งความประสงค์ขอเข้ารับการประเมินคุณภาพภายนอกเข้ามาถึง 5,134 แห่ง สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ประมาณ 4,220 แห่ง โดยมีการประกาศรายชื่อสถานศึกษาที่เข้ารับการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและรายชื่อผู้ประเมินภายนอกอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ผ่านทางเว็บไซต์ของ สมศ. https://www.onesqa.or.th/th/contentdownload/905/

ดร.นันทา กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้การประเมินคุณภาพภายนอกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องตามนโยบายของพลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ สมศ. เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา สมศ. ได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมอีกครั้งก่อนลงพื้นที่จริงโดยเป็นการประชุมชี้แจงผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Facebook Live) ให้กับสถานศึกษาและผู้ประเมินภายนอกเพื่อให้รับทราบร่วมกันเกี่ยวกับ การลงพื้นที่ ว่าสถานศึกษาต้องดำเนินการอย่างไร ผู้ประเมินต้องปฏิบัติอย่างไร เพื่อให้สถานศึกษาและผู้ประเมินภายนอกมีความเข้าใจที่ตรงกันและปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง และที่สำคัญเพื่อให้สถานศึกษาได้ทราบข้อมูลและมีความเข้าใจที่ตรงกันกับผู้ประเมิน หากพบเห็นผู้ประเมินภายนอกปฏิบัติตนหรือเรียกร้องอะไรนอกเหนือจากที่ สมศ. แจ้งไป สถานศึกษาสามารถแจ้งเข้ามาที่ สมศ. ได้ทันที นอกจากนี้ สมศ.จะมีการสุ่มเข้าไปสังเกตการณ์การประเมินภายนอกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าให้ทราบด้วย และในกรณีที่สถานศึกษาเห็นว่า ผู้ประเมินภายนอกเคยมีประเด็นกับสถานศึกษาหรือมีผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflict of interest)กับสถานศึกษา ก็สามารถแจ้งมายัง สมศ. เพื่อขอเปลี่ยนแปลงผู้ประเมินภายนอกได้และ สมศ.จะปรับเปลี่ยนผู้ประเมินให้ตามหลักเกณฑ์ที่ สมศ.กำหนดไว้
“การประเมินคุณภาพภายนอกในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 นี้ เดิม สมศ. กำหนดเป้าหมายอยู่ที่ประมาณ 4,220 แห่ง สำหรับโรงเรียนที่ครบรอบการประเมิน 5 ปี และโรงเรียนขนาดเล็กหรือโรงเรียนขยายโอกาสที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน แต่ปรากฏว่ามีสถานศึกษาที่แจ้งความประสงค์ผ่านหน่วยงานต้นสังกัดเพื่อขอรับการประเมินคุณภาพภายนอกเข้ามาถึง 5,134 แห่ง หรือเพิ่มขึ้นราว 20% ครอบคลุมทั้งการศึกษาปฐมวัย (ศูนย์พัฒนาเด็ก) การศึกษาขั้นพื้นฐาน และด้านการอาชีวศึกษา โดยมีกำหนดการประเมินแล้วเสร็จภายในกลางเดือนกันยายน 2567 เพื่อให้สถานศึกษาสามารถนำผลการประเมินคุณภาพภายนอกไปปรับใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุง แก้ไข หรือวางแผนการพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพสถานศึกษาและคุณภาพของผู้เรียน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาไทยในภาพรวม” ดร.นันทา กล่าว
ด้าน ดร.มธุรส ประภาจันทร์ ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาระบบการประกันคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักทดสอบทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กล่าวว่า การประเมินครั้งนี้นี้ถือเป็นมิติใหม่ของการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานต้นสังกัดต่างๆ และ สมศ. โดย สพฐ.ได้มีส่วนร่วมทำเกณฑ์การประเมินคุณภาพภายนอกและพัฒนารูปแบบการประเมิน โดยได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ระดับนโยบาย ซึ่งในฐานะหน่วยงานที่ดูแลเรื่องการทำเกณฑ์หรือการประกาศมาตรฐานการประกันคุณภาพภายใน เห็นได้ชัดว่ากรอบแนวทางการประเมินคุณภาพภายนอกของ สมศ. นั้นเชื่อมโยงและสอดคล้องกับการประกันคุณภาพภายในที่สถานศึกษาทุกแห่งต้องทำอยู่แล้วจริงๆ ซึ่ง สพฐ. ได้พยายามชี้แจง สร้างความเข้าใจกับสถานศึกษาให้ปรับเปลี่ยนมุมมอง เลิกมองว่าการประเมินคุณภาพภายนอกเป็นภาระ เพราะสถานศึกษาไม่ต้องทำอะไรเพิ่มจากงานที่ต้องทำอยู่แล้ว เพียงแต่มีหน่วยงานภายนอกเข้ามาช่วยดูว่างานที่ทำเป็นอย่างไร เปรียบเหมือนมีกระจกอีกบานมาช่วยสะท้อนให้สถานศึกษาเห็นภาพการทำงานของตนเอง

“หลังจากที่ สมศ. ได้ปรับเปลี่ยนแนวทางการประเมินคุณภาพภายนอกเป็นการประเมินเพื่อพัฒนาไม่ใช่ประเมินเพื่อจับผิดหรือตัดสิน สถานศึกษาต่างๆ ก็ค่อยๆ ปรับมายด์เซ็ตที่มีต่อการประเมินคุณภาพภายนอก ส่งผลให้ทัศนคติของสถานศึกษาในปัจจุบันเปลี่ยนไปมาก เริ่มเข้าใจและมองเห็นประโยชน์ของการประเมินคุณภาพภายนอกมากขึ้น ซึ่งเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าหากทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกัน โดย สมศ. เป็นกระจกคอยสะท้อนว่าอะไรที่ยังขาด สถานศึกษาคอยเป็นผู้เติม และเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพฐ. เป็นพี่เลี้ยงคอยช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุนจะช่วยยกระดับและพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป” ดร.มธุรส กล่าว

ด้านนางสาวชลิดา ยุตราวรรณ์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการจัดการศึกษาปฐมวัยและศูนย์เด็กเล็กกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท.มีโรงเรียนในสังกัดกว่า 1,700 แห่ง มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอีกกว่า 18,000 แห่ง รวมสถานศึกษาในสังกัด อปท. กว่า 19,000 แห่ง สำหรับการประเมินในรอบปัจจุบัน อปท. ได้มีการแจ้งไปยังสถานศึกษาที่ครบกำหนดเข้ารับการประเมิน และพบว่ามีสถานศึกษาที่สมัครใจและพร้อมเข้ารับการประเมินกว่า 80% จากจำนวนที่แจ้งไปซึ่งนับเป็นเรื่องน่ายินดีที่สถานศึกษาจำนวนมาก มองเห็นประโยชน์และความสำคัญของการประเมินคุณภาพภายนอก ซึ่งคาดว่ามาจาก 2 สาเหตุหลักๆ โดยสาเหตุแรกมาจากการที่ สมศ. ได้ใช้วิธีการประเมินรูปแบบใหม่ที่มุ่งลดภาระสถานศึกษา ไม่ต้องมีพิธีต้อนรับ เน้นประเมินเพื่อพัฒนาไม่ใช่ประเมินเพื่อจับผิดหรือตัดสิน อปท. จึงได้มีการสื่อสารให้สถานศึกษารับทราบ และให้เตรียมความพร้อมเข้ารับการประเมิน อีกทั้งสถานศึกษาที่เคยเข้ารับการประเมินรูปแบบใหม่แล้วยังช่วยกันบอกปากต่อปากด้วยว่า สมศ. เปลี่ยนไปแล้ว สมศ. ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ทำให้สถานศึกษาผ่อนคลายความวิตกกังวล

ส่วนอีกหนึ่งสาเหตุ คือ ที่ผ่านมา สถานศึกษาในสังกัดกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นมักถูกมองว่ามาตรฐานและคุณภาพการศึกษาต่ำกว่าสถานศึกษาในสังกัดอื่น ทำให้ผู้ปกครองไม่ค่อยมั่นใจที่จะส่งลูกหลานมาเรียน จำนวนนักเรียนเข้าใหม่จึงลดลงอย่างต่อเนื่อง ทางสถานศึกษาจึงเล็งเห็นความจำเป็นและต้องการเข้ารับการประเมินคุณภาพภายนอก เนื่องจากเชื่อว่าหากได้รับการประเมินและรับรองคุณภาพจากหน่วยงานที่มีมาตรฐาน เป็นกลางและเชื่อถือได้อย่าง สมศ. จะทำให้ผู้ปกครองเกิดความมั่นใจและไว้วางใจที่ส่งบุตรหลานเข้ามาศึกษาเล่าเรียนเพิ่มมากขึ้น

“อยากฝากถึงคุณครูและสถานศึกษาในสังกัดกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ให้มีกำลังใจที่จะทำงานต่อไปเพื่อลูกหลานของเราในอนาคต ทางเครือข่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สมศ. หรือภาคีในระดับนโยบายและระดับพื้นที่ต่างเป็นพี่เลี้ยงและเป็นกำลังใจให้กับสถานศึกษาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นท่านไม่ต้องวิตกกังวล ท่านสามารถสื่อสาร ขอคำแนะนำ หรือขอความช่วยเหลือเข้ามาที่ส่วนกลางหรือส่วนภูมิภาคที่เป็นพี่เลี้ยงของท่านได้ โดยเฉพาะกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นที่เป็นพี่เลี้ยงและดูแลท่านมาโดยตลอด เพราะเราจะอยู่เคียงข้างท้องถิ่นและไม่ทิ้งกันแน่นอน” นางสาวชลิดา กล่าวทิ้งท้าย 


สมศ. เผยสถานศึกษาขอรับการประเมินปี 67 เกินเป้า 20% พร้อมเปิดโอกาสสถานศึกษาร่วมสะท้อน ฟีดแบ็กได้ในทุกขั้นตอนสมศ.เผยสถานศึกษาขอรับการประเมินปี67เกินเป้า20%พร้อมเปิดโอกาสสถานศึกษาร่วมสะท้อนฟีดแบ็กได้ในทุกขั้นตอน

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 13 ราย เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 13 ราย เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567

เปิดอ่าน 26,438 ☕ 24 ต.ค. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม"  ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม" ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
เปิดอ่าน 487 ☕ 19 พ.ย. 2567

คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
เปิดอ่าน 659 ☕ 15 พ.ย. 2567

"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
เปิดอ่าน 750 ☕ 15 พ.ย. 2567

ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
เปิดอ่าน 3,341 ☕ 13 พ.ย. 2567

ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกระดับชาติเพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ประจำปี 2567
ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกระดับชาติเพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ประจำปี 2567
เปิดอ่าน 2,041 ☕ 13 พ.ย. 2567

สพฐ.แจ้งแนวทางการอนุญาตให้บุคลากรในสังกัดทำหน้าที่ผู้ประเมินคุณภาพภายนอก
สพฐ.แจ้งแนวทางการอนุญาตให้บุคลากรในสังกัดทำหน้าที่ผู้ประเมินคุณภาพภายนอก
เปิดอ่าน 942 ☕ 13 พ.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

จะให้ลูกเล่นกีฬาให้เก่ง ต้องฝึกทักษะควบคุมวัตถุ ตั้งแต่ตอน10 ขวบ
จะให้ลูกเล่นกีฬาให้เก่ง ต้องฝึกทักษะควบคุมวัตถุ ตั้งแต่ตอน10 ขวบ
เปิดอ่าน 11,308 ครั้ง

เลเซอร์รักแร้ IPL vs YAG เลือกยังไงให้เหมาะกับผิวและได้ผลดีในระยาว
เลเซอร์รักแร้ IPL vs YAG เลือกยังไงให้เหมาะกับผิวและได้ผลดีในระยาว
เปิดอ่าน 2,425 ครั้ง

กลิ่นหอมทำให้นอนหลับฝันดี
กลิ่นหอมทำให้นอนหลับฝันดี
เปิดอ่าน 12,174 ครั้ง

แนวทางการแก้ปัญหาผลกระทบภาวะถดถอยทางการเรียน ด้านการอ่านการเขียนภาษาไทย
แนวทางการแก้ปัญหาผลกระทบภาวะถดถอยทางการเรียน ด้านการอ่านการเขียนภาษาไทย
เปิดอ่าน 8,349 ครั้ง

เข้าทางใครบางคนแน่ๆ นักวิจัยเผย "มนุษย์ชอบทำห้องรก" ยิ่งวางของเกะกะยิ่งฉลาด
เข้าทางใครบางคนแน่ๆ นักวิจัยเผย "มนุษย์ชอบทำห้องรก" ยิ่งวางของเกะกะยิ่งฉลาด
เปิดอ่าน 31,451 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ