ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

เรื่องควรรู้เกี่ยวกับประกันสังคม..


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 6,391 ครั้ง
เรื่องควรรู้เกี่ยวกับประกันสังคม..

Advertisement

>>ประกันสังคม

คู่มือประกันสังคม
สิทธิประโยชน์จากกองทุนประกันสังคม  7  กรณี
1. กรณีเจ็บป่วยหรือประสบอันตรายที่ไม่เกี่ยวกับการทำงาน
2.กรณีคลอดบุตร
3.กรณีทุพพลภาพ
4.กรณีตาย
5.กรณีสงเคราะห์บุตร
6.กรณีชราภาพ
7.กรณีว่างงาน
สิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย

คู่มือประกันสังคม
สิทธิประโยชน์จากกองทุนประกันสังคม 7 กรณี
 
 
 

1. กรณีเจ็บป่วยหรือประสบอันตรายที่ไม่เกี่ยวกับการทำงาน

2. กรณีสงเคราะห์บุตร

3. กรณีทุพพลภาพ

4. กรณีตาย

5. กรณีสงเคราะห์บุตร

6. กรณีชราภาพ

7. กรณีว่างงาน

สิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทนกรณีเจ็บป่วยหรือประสบอันตรายทุพพลภาพตาย เนื่องจากการทำงาน
 
คำแนะนำสำหรับผู้ประกันตนกรณีเจ็บป่วยหรือประสบอันตรายที่ไม่เกี่ยวกับการทำงาน
กรณีเจ็บป่วยหรือประสบอันตรายที่ไม่เกี่ยวกับการทำงาน
- ได้รับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลที่ท่านเลือกตามบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาลโดยไม่เสีย ค่าใช้จ่าย
-ได้รับเงินทดแทนกรณีขาดรายได้ในระหว่างที่หยุดพักรักษาตัวตามคำสั่งแพทย์จำนวนครึ่งหนึ่งของค่าจ้างตามจำนวนวันที่หยุดจริงไม่เกินครั้งละ 90 วัน และไม่เกิน 180 วันในหนึ่งปี หากเจ็บป่วยเรื้อรัง จะได้รับเงินทดแทนไม่เกิน 365 วัน
กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือเกิดอุบัติเหตุและไม่สามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิฯได้ เนื่องจากมีความจำเป็นต้องรักษาพยาบาลโดยเร่งด่วน มิฉะนั้นอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
***ท่านสามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด***
โดยผู้ประกันตนหรือญาติหรือผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องรีบแจ้งให้โรงพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิฯ ทราบโดยด่วนเพื่อจะได้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลต่อไป
      สำหรับค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นก่อนการแจ้งให้โรงพยาบาลตามบัตร รับรองสิทธิฯทราบ สำนักงานประกันสังคมจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายภายใน 3 วัน (72 ชั่วโมง) ดังนี้
กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน ใช้สิทธิได้ปีละไม่เกิน 2 ครั้ง
ผู้ป่วยนอก
- ค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 300 บาท/ครั้ง
- ค่าตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ เช่น การตรวจเลือด การตรวจหาเชื้อโรค จ่ายเพิ่มค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 200 บาท/ครั้ง
- ค่าหัตถการจากการแพทย์ เช่น การเย็บแผล การทำแผลจ่ายเพิ่มจากค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 200 บาท/ครั้ง
ผู้ป่วยใน
- ค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 1,500 บาท
- ค่าห้อง ค่าอาหารไม่เกินวันละ 700 บาท
- ค่ารักษาพยาบาลเพิ่มกรณีที่ต้องรักษาในห้อง ICU ไม่เกินวันละ 2,000 บาท
- กรณีผ่าตัดใหญ่ไม่เกิน 2 ชั่วโมง จ่ายตามจำนวนจ่ายจริงไม่เกิน 8,000 บาท ถ้าเกิน 2 ชั่วโมง จ่ายตามจำนวนจ่ายจริงไม่เกิน 14,000 บาท ต่อการเจ็บป่วยแต่ละครั้ง
- ค่า X-RAY ระบบ CT SCAN หรือ MRI ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดจ่ายตามจำนวนจริง ไม่เกิน 4,000 บาท ต่อการเจ็บป่วยแต่ละครั้ง
กรณีอุบัติเหตุ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
- เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของรัฐ สำนักงานประกันสังคมจ่ายให้เท่าที่จ่ายจริง ยกเว้นค่าห้อง ค่าอาหาร ไม่เกินวันละ 700 บาท
- เข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชน สำนักงานประกันสังคมจ่ายตามหลักเกณฑ์เดียวกับการเจ็บป่วยกรณีฉุกเฉิน
หลักเกณฑ์ที่ต้องใช้ในการยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทน
- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม (สปส.2 - 01)
- ใบเสร็จรับเงิน
- ใบรับรองแพทย์
บัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล
คือ บัตรที่สำนักงานประกันสังคม ออกให้แก่ผู้ประกันตน เพื่อเป็นหลักฐานในการรักษาตัว ณ โรงพยาบาลที่ท่านเลือก โดยท่านจะได้รับบัตรเมื่อจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมครบ 3 เดือน บัตรนี้สามารถแจ้งเปลี่ยนสถานพยาบาลทุกสิ้นปี หรือในกรณีที่ท่านย้ายที่ทำงาน
โรคและบริการที่ไม่สามารถใช้สิทธิจากกองทุนประกันสังคมได้
- โรคจิต ยกเว้นกรณีเฉียบพลันซึ่งต้องรักษาในทันที และระยะการรักษาไม่เกิน 15 วัน
- โรคหรือประสบอันตรายอันเนื่องมาจาก การใช้สารเสพติดตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติด
- โรคเดียวกันที่ต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาตัวในโรงพยาบาลประเภทคนไข้ในเกิน 180 วันในหนึ่งปี
- การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ยกเว้น
      (ก) กรณีไตวายเฉียบพลันที่มีระยะเวลาการรักษาไม่เกิน 60 วัน ให้มีสิทธิได้รับบริการทางการแพทย์
      (ข) กรณีเจ็บป่วยด้วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ให้มีสิทธิได้รับบริการทางการแพทย์โดยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขและอัตรากำหนดในประกาศสำนักงานประกันสังคม
- การกระทำใดๆ เพื่อรักษาความสวยงามโดยไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
- การรักษาที่ยังอยู่ระหว่างการค้นคว้าทดลอง
- การรักษาภาวะมีบุตรยาก
- การตรวจเนื้อเยื่อเพื่อการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ ยกเว้น การปลูกถ่ายไขกระดูก
- การตรวจใดๆ ที่เกินความจำเป็นในการรักษาโรคนั้น
- การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ ยกเว้นการปลูกถ่ายไขกระดูกตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
- การเปลี่ยนเพศ
- การผสมเทียม
- การบริการระหว่างรักษาตัวแบบพักฟื้น
- ทันตกรรม ยกเว้น ถอนฟัน อุดฟัน และขูดหินปูน
- แว่นตา
การรักษาพยาบาลในกรณีอื่นๆ
ค่าบริการทางการแพทย์กรณีทันตกรรม
      ผู้ประกันตนมีสิทธิเบิกค่าบริการทางแพทย์ กรณีทันตกรรมเฉพาะกรณีถอนฟัน อุดฟัน และขูดหินปูนได้ครั้งละไม่เกิน 200 บาท ปีละไม่เกิน 400 บาท
หลักฐานที่ต้องใช้ในการยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีทันตกรรม
- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีทันตกรรม (สปส.2-16) พร้อมใบรับรองแพทย์
- ใบเสร็จรับเงิน
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ประเภทออมทรัพย์หน้าแรก ซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชี (กรณีขอรับเงินทางธนาคาร)
ค่าบริการทางการแพทย์กรณีฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม
ผู้ประกันตนที่เจ็บป่วยด้วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่มีสิทธิได้รับบริการทางการแพทย์ โดยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมตามหลักเกณฑ์เงื่อนไข และอัตราการบริการทางการแพทย์ โดยสำนักงานประกันสังคมจ่ายค่าบริการทางการแพทย์โดยการฟอกเลือดด้วยเครื่งไตเทียมให้แก่สถานพยาลในความตกลงและให้บริการฟอกเลือดแก่ผู้ประกันตนในอัตราไม่เกิน 1,500 บาท ต่อครั้ง และไม่เกิน 3,000 บาทต่อสัปดาห์
หลักฐานในการยื่นคำขอรับการฟอกเลือด
- แบบคำขอรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (สปส.2 -18)
- สำเนาเวชระเบียนในส่วนที่เกี่ยวข้อง
- ผลการตรวจไตตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขฯ แนบท้ายประกาศสำนักงานประกันสังคม เรื่อง หลักเกณฑ์ และอัตราสำหรับประโยชน์ทดทแนในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการทำงาน (ฉบับที่ 8)
- สำเนาบัตรประชาชน
ขั้นตอนการรับประโยชน์ทดแทน
- ผู้ประกันตนต้องการกรอกแบบ สปส.2 -18 พร้อมลงลายมือชื่อและนำมายื่นที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/ จังหวัดทั่วประเทศ หรือยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนทางไปรษณีย์หรือขอรับประโยชน์ทดแทนทางโทรศัพท์
- เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหลักฐานเสนอคณะกรรมาการแพทย์
- สำนักงานประกันสังคมมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณา
ค่าบริการทางการแพทย์ กรณีปลูกถ่ายไขกระดูก
      สำนักงานประกันสังคมจะจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่สถานพยาบาลใน ความตกลงที่ให้ผู้ประกันตนจนสิ้นสุดการรักษาในวงเงิน 750,000 บาท
ขั้นตอนการขอรับประโยชน์ทดแทน
- ผู้ประกันตนจะต้องเข้าโรงพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิฯก่อนหากแพทย์ลงความเห็นว่าต้องรักษาด้วยวิธีปลูก ถ่ายไขกระดูก ผู้ประกันตน ต้องยื่นเรื่องให้สำนักงานประกันสังคม เพื่อให้คณะกรรมการการแพทย์วินิจฉัยถึง ความเหมาะสมอีกครั้ง ทั้งนี้ในการพิจารณาจะคำนึงถึงเหตุผลความจำเป็น และสภาพทั่วไปของผู้
      ประกันตนโดยสำนักงานฯ จะส่งตัวผู้ประกันตนไปรักษายังโรงพยาบาล ที่อยู่ในความตกลงซึ่งมีอยู่ 4 แห่ง คือ ร.พ.ศิริราช,จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,รามาธิบดี และพระมงกุฎเกล้า
ในกรณีที่ท่านเกิดปัญหาในการเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาล ตามบัตรรับรองสิทธิฯ โทรแจ้งสำนักงานประกันสังคมทุกแห่ง หรือโทรสายด่วน 1506
คำเตือน: โปรดพกพาบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาลติดตัวไว้ตลอดเวลา
คำแนะนำสำหรับผู้ประกันตนกรณีคลอดบุตร
หลักเกณฑ์ที่ท่านได้รับสิทธิ
ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 7 เดือน ก่อนวันคลอดบุตร
สิทธิที่ท่านได้รับ
ผู้ประกันตนหญิง
- เงินค่าคลอดบุตรเหมาจ่าย 6,000 บาท /ครั้ง
- เงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรเหมาจ่ายในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ยเป็นระยะเวลา 90 วัน
ผู้ประกันตนชาย
      เงินค่าคลอดบุตรเหมาจ่าย 6,000 บาท/ครั้ง สำหรับภรรยาที่ จดทะเบียนสมรสทางกฎหมายหรืหญิงที่อยู่กินกันฉันสามีภรรยา แต่มิได้จดทะเบียน
หมายเหตุ: ถ้าสามีและภรรยาเป็นผู้ประกันตนทั้งคู่ ให้ใช้สิทธิในการเบิกค่าคลอดบุตรไม่เกิน 4 ครั้ง โดยบุตรที่นำมาใช้สิทธิเบิกค่าคลอดบุตรแล้วไม่สามารถนำมาขอรับค่าคลอดบุตรได้อีก
ผู้ประกันตนจะไปรับบริการทางการแพทย์ที่ไหน
      การรับบริการทางการแพทย์กรณีคลอดบุตร สำนักงานประกันสังคม ไม่ได้กำหนดสถานพยาบาลผู้ประกันตนสามารถเลือกใช้สถานพยาบาลสำหรับการคลอดบุตรได้เองตามความสะดวก
หลักฐานที่ต้องใช้ในการยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทน
- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม (สปส. 2-01)
- สำเนาสูติบัตรของบุตร (กรณีคลอดบุตรแฝดให้แนบสำเนาสูติบัตรแฝดด้วย
- สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีภรรยาของผู้ประกันตนคลอดบุตร)หากไม่มีทะเบียนสมรส ให้แนบหนังสือรับรอง ของผู้ประกันตนกรณีไม่มีทะเบียนสมรส
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยาหรือธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ประเภทออมทรัพย์ หน้าแรกซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชี
 
คำแนะนำสำหรับผู้ประกันตนกรณีทุพพลภาพ
หลักเกณฑ์ที่ทำให้ท่านได้รับสิทธิ
      ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน ก่อนวันที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดให้เป็นผู้ทุพพลภาพ
สิทธิที่ท่านได้รับ
ค่ารักษาพยาบาล
      จ่ายเท่าที่จ่ายจริงไม่เกินเดือนละ 2,000 บาท
จ่ายเท่าที่จ่ายจริงไม่เกินเดือนละ 2,000 บาท
      ได้รับอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างตลอดชีวิต
ค่าอวัยวะเทียม / อุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรค
       ผู้ทุพพลภาพมีสิทธิได้รับค่าอวัยวะเทียมและอุปกรณ์ฯ ตามประกาศของสำนักงานประกันสังคม เรื่อง ประเภทและอัตราค่าอวัยวะเทียมและอุปกรณ์ในการบำบัด รักษาโรคกรณีทุพพลภาพ
ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพ
       ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกาย จิตใจและอาชีพเท่าที่จ่ายจริง ตามความจำเป็นไม่เกิน 40,000 บาทต่อราย ทั้งนี้ให้จ่ายตามประกาศสำนักงานประกันสังคม เรื่อง กำหนด หลักเกณฑ์อัตราค่าฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ทุพพลภาพ
ค่าทำศพ
       กรณีผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพถึงแก่ความตาย ผู้จัดการ ศพมีสิทธิได้รับค่าทำศพ 30,000 บาท
เงินสงเคราะห์บุตร
       กรณีผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพถึงแก่ความตาย ผู้มีสิทธิ ได้รับเงินสงเคราะห์ดังนี้
- ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป แต่ไม่ถึง 10 ปี ก่อนเป็นผู้ทุพพลภาพ ให้ได้ รับเงินสงเคราะห์เท่ากับค่าจ้างเฉลี่ยหนึ่งเดือนครึ่ง
- ผู้ประกันตนจ่ายเงินตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปก่อนเป็นผู้ทุพพลภาพให้ได้รับเงินสงเคราะห์เท่ากับค่าเฉลี่ย 5 เดือน
หมายเหตุ: เงินค่าทำศพและเงินสงเคราะห์จะมีสิทธิเฉพาะผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2538 เป็นต้นมา
หลักฐานที่ต้องใช้ในการยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทน
- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม (สปส.2-01)/DD>
- ใบเสร็จรับเงิน (กรณีขอรับเงินทดแทนการขาดรายได้และกรณีขอรับค่าอวัยวะเทียม/อุปกรณ์ฯ ให้แพทย์ระบุประเภทอวัยวะเทียม//อุปกรณ์ฯ ให้แพทย์ระบุประเภทอวัยวะเทียม/อุปกรณ์ฯที่ใช้)
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยาหรือธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ประเภทออมทรัพย์ หน้าแรกซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชี (กรณีขอรับเงินผ่านธนาคาร)
 
คำแนะนำสำหรับผู้ประกันตนกรณีตาย
หลักเกณฑ์ที่ทำให้ท่านได้รับสิทธิ
       ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 เดือน ก่อนวันถึงแก่ความตาย
สิทธิที่ท่านจะได้รับ
1. ผู้จัดการศพมีสิทธิได้รับค่าทำศพ 30,000 บาท
2. ผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินสงเคราะห์กรณีตายดังนี้
- ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปแต่ไม่ถึง 10 ปีให้ได้รับเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปแต่ไม่ถึง 10 ปี ให้ได้รับเงินสงเคราะห์เท่ากับค่าจ้างโดยเฉลี่ย 1 เดือนครึ่ง
- ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปให้ได้รับเงินสงเคราะห์เท่ากับค่าจ้างโดยเฉลี่ย 5 เดือนี้
ใครคือผู้จัดการศพ
- บุคคลซึ่งผู้ประกันตนทำหนังสือให้เป็นผู้จัดการงานศพและได้เป็นผู้จัดการศพผู้ประกันตน
- คู่สมรส บิดา มารดา หรือบุตรของผู้ประกันตนที่มีหลักฐานแสดงว่าเป็นผู้จัดการศพผู้ประกันตน
- บุคคลอื่นที่มีหลักฐานแสดงว่าเป็นผู้จัดการศพผู้ประกันตน
ผู้มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์กรณีที่ผู้ประกันตนถึงแก่ความตาย ได้แก่
- บุคคลซึ่งผู้ประกันตนทำหนังสือระบุให้เป็นผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ หากผู้ประกันตนมิได้มีหนังสือระบุไว้ ผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ คือ
      1. สามี หรือภริยา ที่จดทะเบียนแก่ผู้ประกันตน
      2. บิดา มารดา
      3. บุตร ชอบด้วยกฎหมายผู้ประกันตน
หลักฐานที่ต้องใช้ในการยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทน
กรณีขอรับค่าทำศพ
- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม (สปส.2-01)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้จัดการศพ
- หลักฐานจากฌาปณสถานหรือมัสยิดที่แสดงว่าเป็นผู้จัดการศพ
- สำเนาใบมรณบัตร
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยาหรือธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ประเภทออมทรัพย์ หน้าแรกซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้จัดการศพกรณีขอรับเงินผ่านธนาคาร
กรณีขอรับเงินสงเคราะห์บุตร
- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม (สปส. 2-01)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์บุตร
- สำเนาทะเบียนสมรสของผู้ประกันตนและบิดา มารดา
- สำเนาสูติบัตรของบุตรหรือทะเบียนบ้านของบุตรกรณีไม่มีสูติบัตร
- หนังสือรับรองของนายจ้าง
- กรณีขอรับเงินผ่านธนาคาร ให้แนบสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยาหรือธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ประเภทออมทรัพย์หน้าแรกซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้มีสิทธิ
 
คำแนะนำสำหรับผู้ประกันตนกรณี สงเคราะห์บุตร
หลักเกณฑ์ที่ทำให้ท่านได้รับสิทธิ
      ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน
สิทธิที่ท่านได้รับ
      เงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายเดือนละ 200 บาทต่อบุตรหนึ่งคน
เงื่อนไขบุตรจะได้รับเงินสงเคราะห์
- เงินสงเคราะห์บุตรสำหรับบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมีอายุไม่เกิน 6 ปีบริบูรณ์ คราวละไม่เกิน 2 คน (บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวไม่รวมถึงบุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น)
หลักเกณฑ์การใช้สิทธิขอรับประโยชน์ทดแทน
1. ในกรณีที่บิดาและมารดาเป็นผู้ประกันตน
      - ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดทแนเพียงฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง
      - เมื่อมีการจดทะเบียนหย่าหรือแยกกันอยู่ลแะบุตรอยู่ในความอุปการะของ ผู้ประกันตนฝ่ายใด ให้ผู้ประกันตนฝ่าย นั้นมีสิทธิได้รับประโยชนทดแทน
2. ผู้ประกันตนมีสิทธิขอรับประโยชน์ทดแทนสำหรับบุตรคราวละไม่เกิน 2 คน โดยนับเรียงลำดับ การเกิดก่อนหลัง
3. ให้ผู้ประกันตน/ผู้มีสิทธิ แสดงหลักฐานการมีชีวิตอยู่ของบุตร ณ สำนักงานประกันสังคมที่ท่านได้ยื่นคำขอ รับประโยชน์ทดแทนไว้ปีละ 1 ครั้ง ระหว่างวันที่ 1-31 ตุลาคมของทุกปี
หลักฐานที่ต้องใช้ในการยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทน
- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม (สปส. 2-01)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรส
- สำเนาทะเบียนสมรสหรือทะเบียนหย่าของผู้ประกันตน(กรณีจดทะเบียนหย่า)
- สำเนาสูติบัตร
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรกซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้มีสิทธิ
 
คำแนะนำสำหรับผู้ประกันตนกรณีชราภาพ
หลักเกณฑ์ที่ทำให้ท่านได้รับสิทธิ
กรณีเงินบำนาญชราภาพ
- ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 180 เดือนไม่ว่าระยะเวลา 180 เดือน จะติดต่อกันหรือไม่ก็ตาม และ
- ต้องมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และ
- ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
สิทธิที่ท่านได้รับ
เงินบำนาญชราภาพ
- กรณีจ่ายเงินสมทบครบ 180 เดือนให้ได้รับเงินบำนาญชราภาพในอัตราร้อยละ 15 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
- จ่ายเงินสมทบเกินกว่า 180 เดือน ให้ปรับเพิ่มอัตราเงินบำนาญชราภาพ ตามข้อ 1 จากอัตราร้อยละ 15 เพิ่มขึ้น อีกร้อยละ 1ต่อระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบครบ 12 เดือน
เงินบำเหน็จชราภาพ
1. กรณีจ่ายเงินสมทบต่ำกว่า 12 เดือน ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตน จ่ายสมทบเข้ากองทุน
2. กรณีจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ผู้ประกันตน และนายจ้างจ่ายสมทบเข้ากองทุนพร้อมผลประโยชน์?ตอบแทนตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด
3. กรณีผู้รับเงินบำนาญชราภาพหรือถึงแก่ความตายภายใน 60 เดือน นับแต่เดือนที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญ ชราภาพให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพจำนวน 10 เท่า ของเงินบำนาญชราภาพรายเดือนที่ได้รับคราวสุดท้ายก่อน ถึงแก่ความตาย
หลักฐานที่ต้องใช้ในการยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทน
- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม (สปส. 2-01)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ประกันตน
กรณีผู้ประกันตนถึงแก่ความตาย
- สำเนามรณบัตรของผู้ประกันตน
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของทายาทผู้มีสิทธิ
- สำเนาทะเบียนสมรสของผู้ประกันตนและของบิดา มารดา
- สำเนาสูติบัตรของบุตรหรือสำเนาทะเบียนบ้านของบุตรกรณีไม่มีสูติบัตร
- สำเนาทะเบียนบ้านของทายาทผู้มีสิทธิ
- กรณีขอรับเงินผ่านธนาคาร ให้แนบสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยาหรือธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ประเภทออมทรัพย์หน้าแรกซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้ได้รับประโยชน์ทดทแนด้วย
หมายเหตุ: เงินบำนาญชราภาพ จ่ายเป็นรายเดือน เงินบำเหน็จชราภาพ จ่ายครั้งเดียว
 
คำแนะนำสำหรับผู้ประกันตนกรณีว่างงาน
หลักเกณฑ์ที่ทำให้ท่านได้รับสิทธิ
       ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ก่อนการว่างงาน
เงื่อนไขการเกิดสิทธิ เมื่อถูกเลิกจ้างหรือลาออก
- ต้องขึ้นทะเบียนจัดหางานที่สำนักงานจัดหางานของรัฐ
- มีความสามารถในการทำงานและพร้อมที่จะทำงานเหมาะสมตามที่จัดหาให้
- ต้องไม่ปฏิเสธการฝึกงาน
- ต้องรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานจัดหางานไม่น้อยกว่าเดือนละ 1 ครั้ง
- ผู้ว่างงานต้องไม่ถูกเลิกจ้างเนื่องจากกรณี :
      1. ทุจริตต่อหน้าที่
      2. กระทำผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง
      3. จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย
      4. ฝ่าฝืนข้อบังคับหรือระเบียบที่เกี่ยวกับการทำงานหรือคำสั่งอันชอบ ด้วยกฏหมายกรณีร้ายแรง
      5. ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา 7 วันทำงานติดต่อกันโดยไม่มีเหตุผล อันสมควร
      6. ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหาย อย่างร้ายแรง
      7. ได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดเว้นแต่โทษสำหรับ ความผิดลหุโทษร้ายแรง
- ต้องมิใช่ผู้มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ
- มีสิทธิรับประโยชน์ทดแทนตั้งแต่วันที่ 8 นับแต่วันว่างเว้นจากการทำงานกับนายจ้างรายสุดท้าย
- ไม่เว้นเป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจตามมาตรา 39
สิทธิที่ท่านจะได้รับเงิน
กรณีถูกเลิกจ้าง
- ได้รับเงินทดแทนระหว่างว่างงานปีละไม่เกิน 180 วัน ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้าง
กรณีลาออก
- ได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานปีละไม่เกิน 90 วัน ในอัตราร้อยละ 30 ของค่าจ้าง
**หากใน 1 ปีปฏิทิน มีการยื่นขอรับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานทั้ง 2 กรณี ให้นับระยะเวลาการรับเงิน ทดแทนระหว่างว่างงานรวมไม่เกิน 180 วัน**
**เงินทดแทนการขาดรายได้จะจ่ายเป็นงวดเดือนโดยโอนผ่านธนาคารตามที่ผู้ประกันตนแจ้ง** หลักฐานที่ต้องใช้ในการยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทน
- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส.2 -01/7)
- บัตรประจำตัวประชาชน
- รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว 1 รูป
- หนังสือรับรองการออกจากงานหรือสำเนาแบบแจ้งการลาออกจากงาน (ถ้ามี)
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรกซึ่งมีชื่อและบัญชีของผู้ประกันตน
คำเตือน
      ผู้ประกันตนต้องยื่นเรื่องขอรับประโยชน์ทดแทนทุกกรณี ภายในระยะเวลา 1 ปีนับจากวันที่เกิดสิทธิ
      ผู้ประกันตนออกจากงานจะได้รับความคุ้มครองจากกองทุนประกันสังคมต่ออีก 6 เดือนใน 4 กรณีนบจากวันที่ออกจากงานได้แก่
      1. กรณีเจ็บป่วยหรือประสบอันตราย
      2. กรณีคลอดบุตร
      3. กรณีทุพพลภาพ
      4. กรณีตาย

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 3113 วันที่ 7 พ.ค. 2552


เรื่องควรรู้เกี่ยวกับประกันสังคม..

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

เพลงเทศ 2

เพลงเทศ 2


เปิดอ่าน 6,398 ครั้ง
การตั้งศาลพระภูมิ...

การตั้งศาลพระภูมิ...


เปิดอ่าน 6,425 ครั้ง
ใบหูที่หายไป...

ใบหูที่หายไป...


เปิดอ่าน 6,386 ครั้ง
น้ำอะไรก็ได้

น้ำอะไรก็ได้


เปิดอ่าน 6,400 ครั้ง
ถ้ารู้จักรัก

ถ้ารู้จักรัก


เปิดอ่าน 6,396 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

เพลง...ถ่านไฟเก่า   ถ่านไฟเก่า = ชายหญิงที่เคยรักใคร่หรือได้เสียกันมาก่อน

เพลง...ถ่านไฟเก่า ถ่านไฟเก่า = ชายหญิงที่เคยรักใคร่หรือได้เสียกันมาก่อน

เปิดอ่าน 6,419 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
หลากหลายวิธี.......จัดการกับอารมณ์โกรธ
หลากหลายวิธี.......จัดการกับอารมณ์โกรธ
เปิดอ่าน 6,398 ☕ คลิกอ่านเลย

อากาศเย็นเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
อากาศเย็นเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
เปิดอ่าน 6,392 ☕ คลิกอ่านเลย

คุ้นๆคล้ายๆ....???เออ..น่าจะใช่มั้ง!!
คุ้นๆคล้ายๆ....???เออ..น่าจะใช่มั้ง!!
เปิดอ่าน 6,392 ☕ คลิกอ่านเลย

เพลงเทศ 2
เพลงเทศ 2
เปิดอ่าน 6,398 ☕ คลิกอ่านเลย

ความรู้รอบตัว...... กับที่สุดในโลก  (ชุดที่ 1)
ความรู้รอบตัว...... กับที่สุดในโลก (ชุดที่ 1)
เปิดอ่าน 6,502 ☕ คลิกอ่านเลย

แพทย์เตือน..ดื่มนม"ไฮแคลเซียม"เปล่าประโยชน์ และสูญเงิน??
แพทย์เตือน..ดื่มนม"ไฮแคลเซียม"เปล่าประโยชน์ และสูญเงิน??
เปิดอ่าน 6,394 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูล
ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูล
เปิดอ่าน 176,006 ครั้ง

ความรู้เกี่ยวกับ "สี"
ความรู้เกี่ยวกับ "สี"
เปิดอ่าน 8,336 ครั้ง

การเคาะปอดเพื่อระบายเสมหะในเด็กเล็ก
การเคาะปอดเพื่อระบายเสมหะในเด็กเล็ก
เปิดอ่าน 45,904 ครั้ง

วิธีซักผ้าที่มีรอยเปื้อนชนิดต่าง ๆ
วิธีซักผ้าที่มีรอยเปื้อนชนิดต่าง ๆ
เปิดอ่าน 104,611 ครั้ง

ดังใหญ่! คลิปล้อ iron man 3 ของแก๊งเฟดเฟ่ ฮาแล้วทั่วโลก
ดังใหญ่! คลิปล้อ iron man 3 ของแก๊งเฟดเฟ่ ฮาแล้วทั่วโลก
เปิดอ่าน 15,290 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ