เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2567 พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดพิมพ์หนังสือแบบเรียนองค์การค้า ของสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.)ว่า ในเรื่องการพิมพ์หนังสือแบบเรียนที่ผ่านมาได้มีการจัดทำแผนการพิมพ์ไว้แล้ว แต่มีบริษัทหนึ่งมีปัญหาในการส่งล่าช้ากำลังอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาว่าจะทำอย่างไร ทั้งนี้ตนได้ให้นโยบายไปแล้วว่า การพิมพ์หนังสือเรียนปีต่อไปจะให้แบ่งเป็นขั้นตอน เพราะที่ผ่านมาเป็นการจ้างทำของอย่างเดียวและไปดูผลสรุปขั้นตอนสุดท้ายอย่างเดียวจะแก้ปัญหาไม่ทัน ดังนั้นจะต้องมาวางทามไลน์การกำกับดูแลตั้งแต่แรกเลยว่าเมื่อเซ็นสัญญาจัดซื้อจัดจ้างแล้วสำนักพิมพ์ได้ลงมือทำอะไรไปบ้าง ถ้าขั้นตอนที่1 ดูแล้วยังไม่ได้ทำอะไรเลยก็ต้องยกเลิกสัญญา มิฉะนั้นจะเกิดความเสียหายตามมา ส่วนที่หลายคนมีความกังวลว่าปีนี้จะส่งหนังสือเรียนไม่ทัน ก็ต้องมาดูว่าจะทำอย่างไร ถ้าไม่ทันจริง ๆ ต้องมีการยกเลิกแล้วจัดหาผู้ประกอบการรายใหม่มาพิมพ์หนังสือแทนรายที่ไม่มีความพร้อมในการดำเนินการ แต่ทั้งนี้ตนเชื่อว่าองค์การค้าฯได้มีการติดตามเร่งรัดไม่ได้ปล่อยไปตามสภาพ อย่างไรก็ตามภาพรวมส่วนใหญ่ส่งหนังสือได้ทันตามกำหนดมีบางบริษัทเท่านั้นที่ทำไม่ทัน ซึ่งปีนี้ประกอบด้วยหลายอย่าง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ก็มีการปรับหลักสูตร ซึ่งตนก็พยายามให้นโยบายไปแล้วว่า การปรับหลักสูตรต่าง ๆ ก็ควรต้องดูภาพรวม เรื่องเล็กบางอย่างต้องทิ้ง เอาภาพรวมไว้ก่อน ไม่ให้เกิดความเสียหาย และเป็นอุปสรรคในการดำเนินการ
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ในการประชุมประสานภารกิจผู้บริหารศธ.วันนี้ ที่ประชุมได้รายงานความคืบหน้าการขับเคลื่อน การยกระดับ PISA และคะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต ซึ่งก็มีความคืบหน้าไปมาก โดยในส่วนของโอเน็ต ยังคงให้เป็นไปตามความสมัครใจ แต่ขอให้สร้างแรงจูงใจ เกิดความท้าทายอยากมาทดสอบ เพื่อให้เด็กรู้ว่า ตัวเองมีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร และที่ประชุมยังหารือ กันว่า การสอบโอเน็ต อาจไม่จำเป็นต้องทำในช่วงปิดเทอม และขอให้ไปดูว่าจะทำอย่างไรให้มีการทดสอบทุกสาระวิชา รวมถึงให้บทบาทหน้าที่ สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เพิ่มเติมในการเป็นแหล่งเรียนรู้ และทดสอบผู้บริหาร เพื่อเพิ่มสมรรถนะผู้บริหาร เชื่อว่าการจัดการศึกษา จะสามารถลดปัญหาความเหลื่อมล้ำได้ดีขึ้น ขณะเดียวกันสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ยังรายงานความคืบหน้าเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ซึ่งอยู่ระหว่างการอบรมให้ความรู้ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีหนี้สิน เพื่อหากรณีศึกษา เป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหาต่อไป รวมถึงมีการหารือ ปรับลดดอกเบี้ยกับสหกรณ์ออมทรัพย์ต่าง ๆ ซึ่งก็เป็นไปในทิศทางที่ดี เป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ ยังติดตามเรื่องการปรับเพิ่มเงินเดือนตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ได้กำชับให้เร่งดำเนินการ และอาจจะมีปัญหาอยู่บ้างในส่วนของผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาโท ซึ่งอาจจะยังไม่เรียบร้อยในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) ดังนั้น ส่วนใดที่เรียบร้อยแล้วก็ขอให้เร่งดำเนินการไปก่อน ไม่ต้องรอ เพราะไม่อยากให้มีเรื่องตกเบิกย้อนหลัง โดยขอให้ดำเนินการให้ทันภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งแต่ละหน่วยงานก็มีการดำเนินการขับเคลื่อนเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันยังมีการรายงานความคืบหน้าการขับเคลื่อนสุขาดี มีความสุข ซึ่งสพฐ.จะเข้าไปดูแลภายใต้นโยบายเรียบง่ายประหยัด
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก FOCUSNEWS วันที่ 8 พฤษภาคม 2567