Advertisement
สูตรเด็ด “น้ำมันมะพร้าว” งามตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า...
|
|
|
เชื่อหรือไม่ว่า “น้ำมันมะพร้าว” ช่วยลดน้ำหนัก เชื่อหรือไม่ว่า “น้ำมันมะพร้าว” ช่วยบำรุงหนังศีรษะ ป้องกันรังแค ทำให้เส้นผมดกดำ แล้วเชื่อหรือไม่ว่า “น้ำมันมะพร้าว” ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึงลดรอยเหี่ยวย่น และรอยตีนกา
เมื่อกล่าวถึง “น้ำมันมะพร้าว” หลายคนคงนึกถึงคอเลสเตอรอล ศัตรูตัวร้ายของสาวๆ ทำให้น้ำมันมะพร้าวเป็นเรื่องต้องห้ามของสุขภาพร่างกาย แต่แท้ที่จริงแล้วน้ำมันมะพร้าวเป็นไขมันอิ่มตัวที่แตกต่างจากไขมันอื่นๆ ซึ่งไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
ลลิตา อัตนาโถ นักวิชาการ 6 สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) บอกว่า ในอดีตคนไทยใช้ประโยชน์จากมะพร้าวได้อย่างคุ้มค่าทุกสัดส่วน โดยเฉพาะ “น้ำมันมะพร้าว” ซึ่งเป็นของคู่ครัวที่เกิดจากภูมิปัญญาของชาวบ้าน ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2501 หรือเมื่อ 40 กว่าปีที่แล้วมีผลวิจัยของนักวิชาการออกมาระบุว่าน้ำมันไขมันอิ่มตัวส่งผลให้เกิดคอเลสเตอรอลและเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
กระแสข่าวนั้นทำให้คนหันไปใช้น้ำมันถั่วเหลืองมากขึ้น ตั้งแต่นั้นมาน้ำมันที่มีไขมันอิ่มตัวก็เสื่อมความนิยม แม้แต่ในสังคมไทยก็ค่อยเลือนหายไป
|
ลลิตากล่าวต่อว่า จนกระทั่งบริษัทน้ำมันมะพร้าวในมาเลเซียทนไม่ไหว เพราะสงสัยว่าไขมันอิ่มตัวไม่ดีจริงหรือ? จึงตัดสินใจจ้างมหาวิทยาลัยชื่อดังในสหรัฐอเมริกาทำวิจัย ซึ่งผลการวิจัยชิ้นนี้ปรากฏว่าขนาดโมเลกุลของไขมันอิ่มตัวจากน้ำมันมะพร้าวซึ่งมีขนาดกลาง มีผลดีกับร่างกายมากกว่าผลเสีย เนื่องจากสามารถเผาผลาญแล้วนำไปใช้ได้ทันที โดยไม่เกิดปัญหาการสะสมไขมัน นอกจากนั้นยังกระตุ้นการเผาพลาญอาหารให้ดีขึ้น และสามารถใช้ความร้อนละลายไขมันส่วนอื่นๆ เพื่อช่วยลดความอ้วนด้วย
ขณะที่ปานเพชร โมบัณฑิตย์ เจ้าของผลิตภัณฑ์จากน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ภูริน เล่าประสบการณ์ในช่วงวัยเด็กให้ฟังว่า สมัยก่อนพอถึงฤดูหนาว อากาศก็จะแห้ง ทำให้ผิวแตก คุณยายก็จะนำ “น้ำมันมะพร้าว” ที่ทำกันเองมาทาให้ กรรมวิธีการการทำน้ำมันมะพร้าวสมัยก่อนนั้นก็จะเป็นแบบลูกทุ่งๆ เป็นแบบธรรมชาติ
“ส่วนน้ำกะทิกับน้ำมันมะพร้าวเป็นคนละส่วนกัน ซึ่งน้ำมันก็มาจากกะทิแต่ต้องผ่านกระบวนการคัดแยกน้ำมันออกจากน้ำ อย่างไรก็ดีกะทิถือว่ามีสารอาหารที่เป็นคุณประโยชน์มากกว่า แต่จะต้องทานในปริมาณที่เหมาะสม ออกกำลังกายนิดหน่อย นอกจากนี้ไขมันยังทำหน้าที่ละลายวิตามินหลายชนิดทั้งวิตามินเอ ดี อี เค ซึ่งหากไม่ได้ไขมันเป็นตัวทำลาลายก็จะทำให้เป็นคนขาดวิตามินไป”
ลลิตาเสริมว่า กระบวนการทำน้ำมันมะพร้าวมีหลายวิธี ส่วนมากบ้านเราใช้วิธีการสกัดร้อน ซึ่งการสกัดร้อนจะได้น้ำมันมะพร้าวดิบที่ไม่สะอาด และต้องเอามาฟอกใหม่โดยใช้สารเคมี โดยเฉพาะการผลิตจำนวนมากๆ ก็จะต้องนำเข้าระบบโรงกลั่นน้ำมันใช้เครื่องจักขนาดใหญ่ เพื่อกำจัดสีและกลิ่น ซึ่งต้องมีค่ามาตรฐานของกรด (Acid value) ไม่เกิน 4.0 มิลลิกรัมถ้านำไปบริโภค ส่วนกรรมวิธีของชาวบ้านอาจใช้การนำกะทิไปหมักเอาไว้จุลินทรีย์ตามธรรมชาติก็จะย่อยสลายเหลือแต่น้ำมัน โดยชาวบ้านจะตักส่วนที่เป็นน้ำมันแยกออกจากส่วนที่เป็นน้ำ แต่ถ้าทิ้งไว้นานๆ จะเกิดแบคทีเรียและมีกลิ่น
อีกวิธีที่จะได้น้ำมันมะพร้าวที่มีความบริสุทธิ์ 100% คือการผ่านกรรมวิธีสกัดเย็นด้วยระบบเซ็นติฟิวส์ (Extract Virgin Coconut Oil) โดยการผ่านการกรอง 2 ชั้น ซึ่งออยล์ที่ได้จะมีความบริสุทธิ์มาก น้ำมันมะพร้าวจะมีคุณภาพดี มีลักษณะใส ไม่มีสี มีกลิ่นหอมของมะพร้าวตามธรรมชาติ มีกรดไขมันอิสระน้อยกว่า 0.1% และมีส่วนประกอบกรดไขมันในอัตราส่วนที่ดีกว่าการสกัดด้วยความร้อนซึ่งจะทำให้คุณค่าลดลง ดังนั้นจึงเป็นที่นิยมอย่างมากในต่างประเทศ จึงทำให้ “น้ำมันมะพร้าว” มีราคาแพง และนิยมใช้ในกิจการนวด และสปา
ปานเพชรบอกด้วยว่า ด้วยคุณสมบัติคล้ายมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ ดังนั้นจึงกลายมาเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลบำรุงผิวหลายชนิด ซึ่งช่วยให้ผิวพรรณนุ่มนวล เต่งตึง ลดรอยเหี่ยวย่น รอยตีนกา บำรุงเส้นผมให้นุ่มสลวย ดกดำเงางาม และช่วยขจัดรังแค
“ก่อนสระผมนำน้ำมันมะพร้าวมานวดคลึงศีรษะและหมักไว้ จากนั้นสระผมล้างออก เช็ดให้แห้ง แล้วจึงนำน้ำมันมะพร้าวลูกเส้นผมอีกครั้ง ก็จะทำให้ผมแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย และยับยั้งการเกิดผมขาวด้วย”
นอกจากที่กล่าวมาแล้ว น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ยังช่วยบำบัดโรคบางชนิด คือ ปรับสมดุลของระดับคอเลสเตอรอลในเลือด มีกรดลอริกมากจึงช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยเสริมระบบการทำงานของไธรอยด์ มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา ช่วยปรับปรุงระบบย่อยให้เป็นปรกติ และเป็นยาเคลือบกระเพาะด้วย
|
|
ขอบคุณข้อมูลจาก ผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 7 พ.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,147 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,149 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,202 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,146 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,164 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,177 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 30,658 ครั้ง |
เปิดอ่าน 26,265 ครั้ง |
เปิดอ่าน 9,567 ครั้ง |
เปิดอ่าน 19,722 ครั้ง |
เปิดอ่าน 13,674 ครั้ง |
|
|