“คุรุสภา” เร่งเดินเครื่องนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” พร้อมใช้อิเล็กทรอนิกส์อำนวยความสะดวก ด้วยบริการที่ครอบคลุมหลากหลายให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพครู เพื่อลดภาระงานค่าใช้จ่ายและดำเนินการได้ทุกที่ ทุกเวลา
เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภามีการดำเนินการตามนโยบาย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ “เรียนดี มีความสุข” ที่มุ่งเน้นการลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ได้รับบริการด้วยความสะดวก ทุกที่ ทุกเวลา (Anywhere Anytime) โดยมีเป้าหมายให้ผู้ประกอบวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษา มีจิตวิญญาณความเป็นครู มีความรู้ ความสามารถ ตามมาตรฐานและจรรยาบรรณของวิชาชีพ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนตามนโยบายการบริหารงานของคณะกรรมการคุรุสภา ปีงบประมาณ 2567 ที่เน้น 5 นโยบายที่สำคัญ คือนโยบายที่ 1 พัฒนาระบบห้องเรียนเสมือนจริงสำหรับฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู นโยบายที่ 2 สร้างครูต้นแบบด้านพฤติกรรมตามจรรยาบรรณวิชาชีพ และการพัฒนาศักยภาพตามพหุปัญญา นโยบายที่ 3 พัฒนาการเรียนรู้สำหรับวิถีชีวิตครูในศตวรรษที่ 21 นโยบายที่ 4 ยกระดับการให้บริการงานตามภารกิจของคุรุสภาสู่ความเป็นเลิศ และนโยบายที่ 5 ‘คุรุสภา’ สภาของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา เพื่อสังคมและวิชาชีพทางการศึกษา รวมทั้งจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม
ผศ.ดร.อมลวรรณ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมา คุรุสภาได้ดำเนินงานสนองนโยบาย รมว.ศธ. ไปหลายส่วนแล้ว ทั้งนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ที่คุรุสภามีกระบวนการผลิตครูคุณภาพ โดยเน้นการรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรทางการศึกษาตามมาตรฐานวิชาชีพ และสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาให้แก่ผู้รับบริการและสังคม ขณะเดียวกันได้ลดภาระงานของครูและบุคลากรทางการศึกษาและผู้เตรียมเข้าสู่วิชาชีพด้วยการจัดการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ด้านความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ตามมาตรฐานวิชาชีพครู ใน 16 ศูนย์สอบครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ มีผู้เข้าทดสอบทั้งประเทศ จำนวน 59,679 คน นอกจากนี้คุรุสภาช่วยลดภาระงานของครูและบุคลากรทางการศึกษา ลดภาระค่าใช้จ่าย ด้วยการเปิดให้บริการใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้การดำเนินงานมีความรวดเร็วมากขึ้น มีการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาระหว่างหน่วยงานผ่านระบบบูรณาการฐานข้อมูลประชาชนและการบริการภาครัฐ (Linkage Center) รวมถึงการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาด้วยเทคโนโลยีผ่านบริการ Web Service กับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ผ่านระบบ KSP Self-service และ KSP School และมีรูปแบบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะเป็นการลดขั้นตอนที่ยุ่งยากของการต่อและขอใบอนุญาตฯ ได้ ซึ่งผู้รับบริการและผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลปริญญาที่คุรุสภารับรองและข้อมูลจำนวนผู้ถือใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแยกตามประเภทและสังกัด ได้ทางแดชบอร์ด (Dashboard) ที่นำเสนอในเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
ผศ.ดร.อมลวรรณ กล่าวอีกว่า คุรุสภายังมีบทบาทในการจัดกิจกรรมส่งเสริมและกระตุ้นการพัฒนาวิชาชีพ สร้างครูดีสอนดี ศิษย์ดีเรียนดี ด้วยการอบรมหลักสูตรมาตรฐานความรู้วิชาชีพครู สำหรับผู้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพควบคุมเป็นการชั่วคราว (KSP 7 Module) ทั้งครูชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีอยู่ในระบบกว่า 50,000 คน ได้เข้าสู่กระบวนการพัฒนาตนเองให้มีคุณสมบัติตามมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชีพครู ด้วยการเปิดให้ลงทะเบียนและเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา Anywhere Anytime พร้อม เป็นการอบรมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ https://ksp-7module.one.th/ นอกจากนี้ การดำเนินงานของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ได้นำเทคโนโลยีให้เข้ามามีบทบาทกับงานของคุรุสภามากขึ้น ได้มีการใช้ระบบ Virtual Private Network (VPN) เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค สามารถปฏิบัติงานจากที่บ้านได้ จัดให้หน่วยงานระดับจังหวัดช่วยกรองงานเรื่องการขอและต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูก่อนส่งต่อให้คุรุสภาอนุมัติ โดยทำงานผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างราบรื่น ช่วยลดขั้นตอนการดำเนินงาน ลดการใช้กระดาษ ใช้ระบบการประชุมออนไลน์ (Online) ผ่านระบบแอปพลิเคชัน Zoom Cloud Meetings และระบบ e-Meeting เพื่อประสิทธิภาพในการประชุม รวมถึงพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานเพื่อยกระดับการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567