โฆษก ศธ. แจงกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ไม่ทำให้เด็กมั่วสุมเสพยา ชี้ โทษยังรุนแรงเช่นเดิม มั่นใจเด็กไทยป้องกันเพศสัมพันธ์มากขึ้น
เมื่อวันที่ 12 ก.พ. นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะโฆษก ศธ. เปิดเผยถึงการเฝ้าระวังเหตุและเสริมสร้างความปลอดภัยในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ว่า ขอฝากผู้ปกครองและครูได้ให้ความรู้ความเข้าใจกับบุตรหลานของตัวเองที่กำลังอยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็น เพื่อให้เด็กมีความเข้าใจเรื่องเพศศึกษาและการป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรมากขึ้น ซึ่งตนคิดว่าในปัจจุบันนี้เรื่องดังกล่าว สามารถเปิดใจพูดคุยหาทางออกร่วมกันได้ เพื่อที่จะได้รับฟังความเห็นของเด็ก เพราะการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรจะนำไปสู่การท้องไม่พร้อม หรือแม้กระทั่งโรคติดต่อที่มาจากเพศสัมพันธ์ ส่วนเรื่องการตั้งตู้กดถุงยางอนามัยในสถานศึกษานั้น กลับถูกมองว่าเป็นเรื่องของการส่งเสริมให้เด็กมีเพศสัมพันธ์นั้น ตนมองว่า ทุกวันนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว หากเป็นสมัยก่อนอาจอายที่ต้องไปหาซื้อถุงยางอนามัย หากเรามัวแต่อาย ปัญหาจะไม่ได้รับการแก้ไข แต่สิ่งที่ควรทำในตอนนี้ เรื่องเพศศึกษาเป็นเรื่องที่ครูและนักเรียน สามารถแลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้อยู่แล้ว
โฆษก ศธ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับประเด็นการออกกฎกระทรวงในการกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. 2567 ของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งสังคมมองว่าอาจเป็นการสนับสนุนให้มีการใช้ยาเสพติดกันง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชนนั้น เรื่องนี้ตนไม่อยากให้คิดเช่นนั้น และประเด็นดังกล่าวเป็นการออกกฎหมายเพื่อป้องกันการยัดยาเสพติด เพราะหากเป็นกฎหมายฉบับเก่ามีไว้ครอบครอง 1 เม็ด ก็อาจทำให้มีการยัดยาเสพติดเพิ่มเติมได้ ซึ่งหากมองภาพรวมแล้ว มาตรการและบทลงโทษในเรื่องยาเสพติดยังคงมีโทษสูงสุดเท่าเดิม ไม่มีการลดโทษให้แต่อย่างใด.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567