เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2567 ที่ ณ ห้องประชุมบุณยเกตุ ชั้น 1 อาคารหอประชุมคุรุสภา สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานอนุกรรมการจัดงานวันครู พ.ศ. 2567 และ ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา ร่วมแถลงข่าวการจัดงานวันครู ครั้งที่ 68 พ.ศ. 2567 โดยมี นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ นายนพ ชีวานันท์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)ผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ร่วมงานแถลงข่าว โดย
พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า ศธ.ดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ขับเคลื่อนเพื่อร่วมกันยกระดับคุณภาพการศึกษาเต็มกำลังความสามารถอย่างเป็นกัลยาณมิตรต่อกัน ภายใต้แนวทางการทำงาน “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” “ทำดี ทำได้ ทำทันที” และใช้สำนวนที่เข้าใจง่ายคือ “เรียนดี มีความสุข” เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาไปด้วยกัน เพราะการเรียนการสอนจำเป็นต้องเริ่มจากความสุขทั้งผู้เรียน ผู้สอน รวมถึงผู้ปกครอง และเมื่อทุกคนมีความสุขจะส่งผลให้การเรียนดีขึ้น เมื่อการเรียนดีขึ้นจะส่งผลกลับไปทำให้มีความสุขมากยิ่งขึ้น ซึ่ง ศธ.ได้ให้ความสำคัญต่อครูและวิชาชีพครู ด้วยการเร่งดำเนินการตามนโยบาย ลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา 4 ด้าน ได้แก่
1) ปรับวิธีการประเมินวิทยฐานะครูและบุคลากรทางการศึกษา ลดขั้นตอนมุ่งผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน
2) ครูและบุคลากรทางการศึกษาคืนถิ่น สามารถโยกย้ายกลับภูมิลำเนาด้วยความโปร่งใส ไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง พร้อมสำรวจครูขาดแคลนในแต่ละพื้นที่ตามภูมิลำเนาเดิม
3) แก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ด้วยการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในการวางแผนการใช้เงินและการเก็บออมเงิน น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำรงชีพ และ
4) จัดหาอุปกรณ์การสอนและสวัสดิการ 1 ครู 1 Tablet ด้วยการสนับสนุน จัดหาอุปกรณ์ ในการช่วยจัดการเรียนการสอนต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพ สามารถเชื่อมโยงระบบออนไลน์รองรับการใช้งานให้เพียงพอกับจำนวนครูผู้สอน
“ที่ผ่านมามีการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างส่วนราชการหลัก และองค์กรในกำกับ รวมทั้งหน่วยงานสังกัด ศธ.ในส่วนภูมิภาค ให้ปฏิบัติงานร่วมกันได้อย่างคล่องตัว ร่วมกันกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการพัฒนาวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยมีความมุ่งหวังให้ผู้ประกอบวิชาชีพครูมีจิตวิญาณความเป็นครู และมีความรู้ความสามารถที่แท้จริง ตามมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ ในการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน ตามความคาดหวังของสังคม รวมทั้งวิชาชีพครูได้รับการยอมรับจากสังคม” รมว.ศึกษาธิการ กล่าวและว่า สำหรับการจัดงานวันครูในปีนี้ จัดพร้อมกันทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ ในรูปแบบผสมผสานทั้ง Onsite และ Online ภายใต้แนวคิด “ครูดีสอนดี ศิษย์ดีเรียนดี มีความสุข” โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มอบคำขวัญวันครู ครั้งที่ 68 พ.ศ. 2567 ว่า “ครูวางฐานคิด ส่งเสริมศิษย์สร้างสรรค์” และสารวันครู และ มอบหมายให้ท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานงานวันครู ครั้งที่ 68 พ.ศ. 2567 ในวันที่ 16 มกราคม 2567 ณ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ
พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวอีกว่า ที่สำคัญ ศธ.ได้เตรียมของขวัญวันครู เพื่อที่จะมอบให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาจากหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เช่น ร่วมกับ AIS academy และ Google เปิดหลักสูตรความรู้พื้นฐานด้านดิจิทัลคอนเทนต์ Learning Contents หลักสูตรความปลอดภัยในโลกอินเทอร์เน็ต เป็นต้น ฟรีค่าลงทะเบียนกว่า 3,000 บาท เปิดใช้ระบบจับคู่ครูคืนถิ่น (TMS) และหลักสูตรพัฒนาครู เพื่ออํานวยความสะดวกในการย้ายให้กับครู เติมความรู้ ครูยุคใหม่ ก้าวไปด้วยกัน จัดเต็ม 8 หลักสูตร ให้ครูโรงเรียนเอกชน เรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา “Anywhere Anytime” กับหลักสูตรE – learning การปรับหลักเกณฑ์และย้ายครูคืนถิ่น โลกสวย ตาใส ข้าราชการครูไทย ไร้ต้อกระจก เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีผลสำรวจของของสวนดุสิตโพล ที่ระบุว่า ของขวัญที่ครูอยากได้ อันดับ 1 คือ เรื่องการลดภาระครู รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า เรื่องนี้มีอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องการลดภาระการประเมินวิทยฐานะ ทำให้เป็นระบบดิจิทัล เพื่อลดระยะเวลาในการประเมิน ทราบผลการประเมินได้เร็วขึ้น แต่มาตรฐานการประเมินเหมือนเดิมเพียงลดภาระเรื่องวิธีการทำเอกสารลง เรื่องของครูคืนถิ่นเพื่อให้ครูได้กลับไปทำงานในภูมิลำเนาซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของครอบครัวได้ แล้วยังมีเรื่องการแก้ปัญหาหนี้สินครูที่มี รมช.ศึกษาธิการ เป็นประธานคณะงาน รวมถึงเรื่องของอุปกรณ์การสอน และการคืนครูสู่ห้องเรียนโดยคืนนักการภารโรงสู่โรงเรียน นอกจากนี้ยังมีเรื่องของโครงการอาหารกลางวันที่จะมีการประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการประกอบอาหารเลี้ยงนักเรียนเพื่อลดภาระของครูจะได้มีเวลาให้กับการเรียนการสอนมากขึ้น โดย ศธ.กำลังดำเนินการขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป
ดร.สุเทพ กล่าวว่า การจัดงานวันครู พ.ศ. 2567 นี้ ภายใต้แนวคิด “ครูดีสอนดี ศิษย์ดีเรียนดี มีความสุข” เป็นการสะท้อนถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างครูกับศิษย์ เมื่อมีครูดีสอนดี ย่อมส่งผลดีต่อศิษย์ ทำให้ศิษย์เรียนดี มีความรู้มีความสามารถ และมีความสุขในการเรียน ซึ่ง ศธ.ให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษา มีการผลักดันให้การจัดการศึกษามีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายสูงสุดที่มุ่งหวังให้ผู้เรียนทุกช่วงวัยจะได้รับการพัฒนาในทุกมิติ ทั้งในด้านโอกาส ความเท่าเทียม ความเสมอภาค ความปลอดภัย และมีการศึกษาที่เป็นเลิศอันจะสามารถสร้างความมั่นคงของชีวิตได้ โดยการจัดงานวันครูปีนี้ กำหนดจัดงานพร้อมกันทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยวันที่ 16 มกราคม 2567 ณ บริเวณหอประชุมคุรุสภาและบริเวณกระทรวงศึกษาธิการ นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ นายอนุทิน เป็นประธานในพิธี สำหรับส่วนภูมิภาคกำหนดเป็นสัปดาห์วันครูระหว่างวันที่ 11-17 มกราคม โดยมีสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดและสำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร เป็นหน่วยจัดงานวันครูส่วนภูมิภาค และสามารถเพิ่มสถานที่จัดงานวันครูในระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา หรือสถานที่ที่มีความพร้อมได้ตามความเหมาะสม
ปลัด ศธ.กล่าวต่อไปว่า กิจกรรมหลักของการงานวันครู ปีนี้ ในภาพรวมประกอบด้วยกิจกรรมสำคัญ ได้แก่ พิธีทำบุญตักบาตร พระสงฆ์ จำนวน 69 รูป ณ บริเวณสนามหญ้ากระทรวงศึกษาธิการ การพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศแด่ครูผู้วายชนม์ ณ หอประชุมคุรุสภา พิธีทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล ณ หอประชุมคุรุสภา พิธีบูชาบูรพาจารย์และระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ ณ หอประชุมคุรุสภา โดยปลัด ศธ. เป็นผู้อ่านโองการอัญเชิญบูรพาจารย์ ครูอาวุโสนอกประจำการ นายอำนาจ วิชยานุวัติ อดีตเลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวนำสวดฉันท์ระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ และ ครูอาวุโสในประจำการ นางกัลยา มาลัย ผู้ได้รับรางวัลคุรุสภา ปี พ.ศ.2566 นำกล่าวคำปฏิญาณตนของครูและบุคลากรทางการศึกษา จากนั้นเป็นพิธีคารวะครูอาวุโสของ รมว.ศึกษาธิการ(คุณครูอรพรรณ หนูราช สมัยที่เรียนโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย) และ พิธีมอบรางวัลและประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ที่ได้รับรางวัลของคุรุสภา และของหน่วยงานอื่นๆในสังกัด ศธ.รวมทั้งสิ้น 1,105 คน นอกจากนี้มีการจัดกิจกรรมทางวิชาการเนื่องในงานวันครู ครั้งที่ 68 พ.ศ. 2567 ณ หอประชุมคุรุสภา และผ่าน Platform www.wankru.ksp.or.th ด้วย
ด้าน ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า กิจกรรมการจัดงานวันครู ที่ส่วนกลางในปีนี้ มีการประกาศเกียรติคุณและการมอบรางวัลระดับประเทศที่สำคัญ ของหน่วยงานต่าง ๆ จำนวน 10 รางวัล มีผู้ได้รับรางวัล รวมทั้งสิ้น 1,105 คน ประกอบด้วย รางวัลครูภาษาไทยดีเด่น เพื่อรับเข็มเชิดชูเกียรติจารึกพระนามาภิไธยย่อ สธ รางวัลครูภาษาฝรั่งเศสดีเด่น เพื่อรับเข็มเชิดชูเกียรติจารึกพระนามาภิไธย รางวัลผู้มีคุณูปการต่อการศึกษาของชาติ ประจำปี 2567 รางวัลคุรุสภา ประจำปี 2566 รางวัล “พระพฤหัสบดี” ระดับประเทศ ประจำปี พ.ศ. 2566 รางวัล “ครูดีในดวงใจ” เป็นต้น เพื่อส่งเสริมและยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่มาตรฐานและจรรยาบรรณของวิชาชีพดีเด่น ให้เป็นแบบอย่างที่ดี รวมทั้ง มีผลงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานให้เกิดการพัฒนาตนเอง และเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาคุณภาพการปฏิบัติหน้าที่
เลขาธิการคุรุสภา กล่าวอีกว่า ในโอกาสวันครู ปีนี้ คุรุสภาขอเชิญชวน ครู นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ร่วมกิจกรรมวันครูและร่วมระลึกถึงพระคุณครู ภายใต้แนวคิด “นึกถึงพระคุณครู กลับไปคารวะครู” ผ่านช่องทาง Online ต่าง ๆ เข้าร่วมกิจกรรมงานวันครู ร่วมชมนิทรรศการการแสดงผลงานทางวิชาการและวิชาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา รวมถึงร่วมทำความดี เป็นจิตอาสา และร่วมแชร์ความรู้สึกดีๆ ต่อครูใน Facebook แฟนเพจ “คุรุสภา” (@Khurusaphaofficial) และติดแฮชแท็ก #วันครู2567 #ครูดีสอนดีศิษย์ดีเรียนดีมีความสุข ส่งบัตรคาราวะครูออนไลน์ ร่วมดาวน์โหลดสติกเกอร์ไลน์ “Teachers’ Day” ซึ่งจัดทำขึ้นเนื่องในโอกาสวันครู เพื่อนำรายได้สมทบทุนมูลนิธิช่วยครูอาวุโส ในพระบรมราชูปถัมภ์ รวมถึงร่วมระลึกถึงพระคุณครู และแชร์ความรู้สึกดีๆ ต่อครูผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของคุรุสภา https://padlet.com/napashbie/16-n2ljziywlcy1s1ma ผู้สนใจดูรายละเอียดการจัดงานวันครูได้ที่เว็บไซต์ของคุรุสภา http://wankru.ksp.or.th และรับชมการถ่ายทอดสด การจัดงานวันครู ได้ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยและถ่ายทอดสดออนไลน์ผ่านทาง Facebook FanPage และ YouTube Channel “khurusapha” โดยมีล่ามภาษามือด้วย ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก FOCUSNEWS วันที่ 11 มกราคม 2567