ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

โฆษก ศธ.แจง ติด 0 ร มส ยังมีอยู่ ไม่เคยมีคำสั่งไม่ให้นักเรียนติด 0 แม้ว่าจะไม่เข้าเรียน


ข่าวการศึกษา 10 ม.ค. 2567 (14:37 น.) เปิดอ่าน : 22,149 ครั้ง
Advertisement

โฆษก ศธ.แจง ติด 0 ร มส ยังมีอยู่ ไม่เคยมีคำสั่งไม่ให้นักเรียนติด 0 แม้ว่าจะไม่เข้าเรียน

Advertisement

“ชัวร์ก่อนแชร์”ศธ.แจงชัด ไม่เคยมีคำสั่งไม่ให้นักเรียนติด 0 แม้ว่าจะไม่เข้าเรียน ยันประเมินตามมาตรฐาน เปิดทางให้ครูจัดการสอนและวัดผลด้วยเครื่องมือที่หลากหลาย เพื่อสร้างบุคลากรที่มี เข้ามาพัฒนาประเทศ

เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2567 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตามที่มีกระแสข่าวในสื่อออนไลน์แสดงความคิดเห็นว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีคำสั่งไม่ให้นักเรียนติด 0 นักเรียนไม่ต้องเข้าเรียน ไม่ส่งงาน ขอแค่มีตัวตน หากมาวันสอบแต่ไม่ส่งงานเลย ก็ต้องตัดเกรด 1 ให้นั้น เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน สร้างความเข้าใจผิดให้แก่สังคม ซึ่งกรณีดังกล่าวมาจากที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีหนังสือซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการวัดและประเมินผลการเรียนรู้และการสอนซ่อมเสริม ซึ่งเป็นการสื่อสารระหว่าง สพฐ.ส่วนกลาง ถึงผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขตพื้นที่ เพื่อกระตุ้นให้สถานศึกษาทำความเข้าใจให้ชัดเจนในการกำกับ ติดตาม ช่วยเหลือ สอนซ่อมเสริม ดำเนินการวัดและประเมินผลกรณีนักเรียนมีผลการเรียนไม่สมบูรณ์ (ติด 0 ร มส.) ให้มีผลการเรียนดีขึ้น ลดปัญหาของผู้เรียนในการติด 0 ร มส. และให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วประเทศ

“เจตนา ของ สพฐ.ก็คือเพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย“เรียนดี มีความสุข” ของ ศธ.ในการยกระดับคุณภาพการศึกษาทั้งผู้เรียน ผู้สอน โดยซักซ้อมแนวทางการวัดและประเมินผลในชั้นเรียน ด้วยเครื่องมือและวิธีการที่หลากหลาย รายงานความก้าวหน้า จุดเด่น จุดที่ต้องปรับปรุงให้แก่ผู้เรียน วางแผนออกแบบการจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการตัดสินผลการเรียนตามบริบทแต่ละพื้นที่ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ข้อสอบเพียงอย่างเดียว อาจพิจารณาจากผลงาน ชิ้นงาน แฟ้มสะสมงาน การสอบปากเปล่า ผ่านซูม ไลน์ เฟสบุ๊ค หรือช่องทางอื่น ได้ตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงคุณภาพผู้เรียนเป็นสำคัญ”โฆษก ศธ.กล่าวและว่า ทั้งนี้การตัดสินผลการเรียนจะมาจาก 2 ส่วน คือ เวลาเรียน ต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 และ คะแนนการประเมินระหว่างเรียนและคะแนนปลายปี/ปลายภาค ซึ่งการประเมินผลการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่ม จะนำไปสู่การสรุปผลการเรียนรู้ของผู้เรียนตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดต่อไป ส่วนกรณีที่ผู้เรียนมีผลการเรียนที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด ต้องจัดสอนซ่อมเสริมเป็นกรณีพิเศษ เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนสามารถบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ โดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายและตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของผู้เรียนอย่างทันท่วงที ซึ่ง สพฐ.ได้กำหนดบทบาทการปฏิบัติของผู้ที่เกี่ยวข้องไว้ด้วย ทั้งด้านของสถานศึกษา ครู และผู้เรียน

นายสิริพงศ์ กล่าวต่อไปว่า ในอดีต อาจมีการติด 0 ร มส. ค้างเทอม ค้างปี ทำให้เด็กเสียโอกาส เป็นภาระผู้ปกครอง สถานศึกษาจึงควรติดตามอย่างใกล้ชิด ให้เด็กได้แก้ไขจนผ่านเกณฑ์ก่อนจบปีการศึกษา ดังนั้น การกล่าวว่า ศธ. สั่งไม่ให้นักเรียนติด 0 ร มส. จึงไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดยตนยืนยันว่า สถานศึกษาทุกแห่งมีมาตรฐาน มีเกณฑ์ ในการประเมินผู้เรียนอยู่แล้ว และสามารถให้เกรดผู้เรียนได้ตามปกติ เพียงแต่ ศธ. ต้องการกระตุ้นให้สถานศึกษาและครู ติดตามเด็กอย่างใกล้ชิด สามารถใช้เครื่องมือ วิธีการสอน สื่อการสอน การเก็บคะแนนที่มีความหลากหลายและทันสมัย เพื่อลดปัญหาของผู้เรียนในการติด 0 ร มส. ซึ่งหากสถานศึกษาทุกแห่งสามารถพัฒนาผู้เรียนให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดได้ ไม่มีผู้เรียนที่สอบตก หรือติด ร มส. ก็จะเป็นการยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยให้สูงขึ้น สร้างบุคลากรที่มีเข้ามาพัฒนาประเทศได้ต่อไป


ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก FOCUSNEWS วันที่ 10 มกราคม 2567 

ร่มรถ ร่มติดรถยนต์ ร่มกันแดดรถยนต์ ม่านบังแดด ผ้าคลุมหลังคารถพับเก็บได้ กันแดดกันสาด กันขี้นก Car Sunclose

฿479 - ฿1,439

https://s.shopee.co.th/8Kb790kwhT?share_channel_code=6


โฆษก ศธ.แจง ติด 0 ร มส ยังมีอยู่ ไม่เคยมีคำสั่งไม่ให้นักเรียนติด 0 แม้ว่าจะไม่เข้าเรียนโฆษกศธ.แจงติด0มสยังมีอยู่ไม่เคยมีคำสั่งไม่ให้นักเรียนติด0แม้ว่าจะไม่เข้าเรียน

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

เปิดอ่าน 1,826 ☕ 27 ก.พ. 2568

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ด่วนที่สุด สพฐ.ขยายเวลารับสมัครโรงเรียนที่พร้อมและสมัครใจใช้หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2568 สำหรับเด็กอายุ 3-6 ปี และหลักสูตรการศึกษาประถมศึกษาตอนต้น (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3) พุทธศักราช 2568
ด่วนที่สุด สพฐ.ขยายเวลารับสมัครโรงเรียนที่พร้อมและสมัครใจใช้หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2568 สำหรับเด็กอายุ 3-6 ปี และหลักสูตรการศึกษาประถมศึกษาตอนต้น (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3) พุทธศักราช 2568
เปิดอ่าน 170 ☕ 18 มี.ค. 2568

เปิดรับสมัครข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัด สพฐ. เข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมการเรียนรู้เทคโนโลยีเสมือนจริงและปัญญาดิษฐ์ ไปยังโรงเรียน
เปิดรับสมัครข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัด สพฐ. เข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมการเรียนรู้เทคโนโลยีเสมือนจริงและปัญญาดิษฐ์ ไปยังโรงเรียน
เปิดอ่าน 260 ☕ 18 มี.ค. 2568

โรงเรียนแห่ใช้หลักสูตรปฐมวัย เน้นเด็กเล็กอ่านออกเขียนได้แบบเข้าใจ
โรงเรียนแห่ใช้หลักสูตรปฐมวัย เน้นเด็กเล็กอ่านออกเขียนได้แบบเข้าใจ
เปิดอ่าน 293 ☕ 18 มี.ค. 2568

"เพิ่มพูน" กำชับ สลช.เร่งแก้ปัญหาเอกชนบุกรุกที่ดินค่ายลูกเสือ
"เพิ่มพูน" กำชับ สลช.เร่งแก้ปัญหาเอกชนบุกรุกที่ดินค่ายลูกเสือ
เปิดอ่าน 172 ☕ 18 มี.ค. 2568

ประชาสัมพันธ์ โครงการ "อายิโนะโมะโต๊ะ โภชนาการเพื่อเด็กไทย ก้าวไกลสร้างชาติ" ประจำปีการศึกษา 2568 (ปีที่ 5)
ประชาสัมพันธ์ โครงการ "อายิโนะโมะโต๊ะ โภชนาการเพื่อเด็กไทย ก้าวไกลสร้างชาติ" ประจำปีการศึกษา 2568 (ปีที่ 5)
เปิดอ่าน 1,334 ☕ 17 มี.ค. 2568

ศธ.เคลียร์ดราม่าประเด็นฟันโทษวินัยบุหรี่ไฟฟ้า ห่วงครูไม่ต้องรับจบทุกเรื่อง อย่าเข้าใจคลาดเคลื่อน พร้อมย้ำไม่เพิ่มภาระให้ครู แต่เป็นหน้าที่ปกติต้องดูแลเอาใจใส่นักเรียน
ศธ.เคลียร์ดราม่าประเด็นฟันโทษวินัยบุหรี่ไฟฟ้า ห่วงครูไม่ต้องรับจบทุกเรื่อง อย่าเข้าใจคลาดเคลื่อน พร้อมย้ำไม่เพิ่มภาระให้ครู แต่เป็นหน้าที่ปกติต้องดูแลเอาใจใส่นักเรียน
เปิดอ่าน 322 ☕ 17 มี.ค. 2568

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

12 เทคโนโลยี (ไม่) พร้อมใช้ใน Web 3.0
12 เทคโนโลยี (ไม่) พร้อมใช้ใน Web 3.0
เปิดอ่าน 24,942 ครั้ง

ถอดรหัสลับบิ๊ก "แอปเปิล" 6 สูตรสำเร็จที่ใคร ๆ อยากรู้ ?
ถอดรหัสลับบิ๊ก "แอปเปิล" 6 สูตรสำเร็จที่ใคร ๆ อยากรู้ ?
เปิดอ่าน 9,458 ครั้ง

มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กควรอยู่ในห้องเรียนหรือไม่? โดย : ทีปกร วุฒิพิทยามงคล
มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กควรอยู่ในห้องเรียนหรือไม่? โดย : ทีปกร วุฒิพิทยามงคล
เปิดอ่าน 20,430 ครั้ง

โกรธบ่อยโรคเพียบแน่ สุขภาพแย่ชัวร์ !
โกรธบ่อยโรคเพียบแน่ สุขภาพแย่ชัวร์ !
เปิดอ่าน 15,098 ครั้ง

มองโลกแบบวิกรม ตอน เจาะลึก การศึกษาไต้หวัน (1)
มองโลกแบบวิกรม ตอน เจาะลึก การศึกษาไต้หวัน (1)
เปิดอ่าน 10,301 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ