ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 13/2566 เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2566


ข่าวการศึกษา 28 ธ.ค. 2566 (15:39 น.) เปิดอ่าน : 24,153 ครั้ง
Advertisement

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 13/2566 เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2566

Advertisement

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 13/2566 วันพฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม 2566 โดยมี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุม และมี รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการ ก.ค.ศ. เป็นเลขานุการการประชุม ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและมีมติที่สำคัญ ดังนี้

1. เห็นชอบ (ร่าง) แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการย้ายสับเปลี่ยนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

สืบเนื่องจากที่ ก.ค.ศ. ในคราวประชุมครั้งที่ 12/2566 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ได้มีมติเห็นชอบในหลักการและกรอบแนวคิดในการจัดทำ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยให้สำนักงาน ก.ค.ศ. เป็นผู้จัดทำระบบการย้ายทางอิเล็กทรอนิกส์ นั้น

ในระยะเริ่มต้น สำนักงาน ก.ค.ศ. ได้ดำเนินการพัฒนาระบบฯ ให้รองรับเฉพาะการย้ายกรณีปกติก่อนโดยจัดทำระบบการย้ายสับเปลี่ยนที่เรียกว่า “ระบบจับคู่ครูคืนถิ่น Teacher Matching System (TMS)” ขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือในการอำนวยความสะดวกในการดำเนินการย้ายให้กับข้าราชการครูฯ และเพื่อให้การใช้งานระบบดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้จัดทำแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการย้ายสับเปลี่ยนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้ข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา ส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบแนวทางและวิธีดำเนินการย้ายผ่านระบบดิจิทัลในรูปแบบใหม่ซึ่งการย้ายสับเปลี่ยนผ่านระบบ TMS หมายถึง การย้ายสับเปลี่ยนกับตำแหน่งที่มีคนครอง ซึ่งเป็นการย้ายผู้ดำรงตำแหน่งครูด้วยกัน ที่ทำการสอนในสาขาวิชาหรือกลุ่มวิชาหลักตรงกัน เพื่อไปดำรงตำแหน่งเดิมในต่างสถานศึกษาที่เป็นภูมิลำเนาของผู้ขอย้ายสับเปลี่ยน ภูมิลำเนาของบิดาและหรือมารดา หรือภูมิลำเนาของคู่สมรส และเป็นการย้ายในส่วนราชการเดิม ผ่านระบบ TMS โดยภูมิลำเนาของผู้ขอย้ายสับเปลี่ยนต้องเป็นที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของผู้ขอย้ายสับเปลี่ยน รวมถึงที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของบิดาและหรือมารดาของผู้ขอย้ายสับเปลี่ยน หรือ ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของคู่สมรสของผู้ขอย้ายสับเปลี่ยนเท่านั้น และสถานศึกษารับย้ายต้องมีอัตรากำลังสายงานการสอนในภาพรวมไม่เกินเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กำหนด

ทั้งนี้ การจัดทำระบบย้ายสับเปลี่ยนข้าราชการครูฯ ถือเป็นการดำเนินการตามนโยบายของ พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง “ครูและบุคลากรทางการศึกษาคืนถิ่น” ซึ่งต้องการให้ครูสามารถโยกย้ายกลับภูมิลำเนาด้วยกระบวนการที่โปร่งใส เป็นธรรม ไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง เพื่อให้ทุกโรงเรียนได้มีบุคลากรซึ่งเป็นคนในพื้นที่เข้ามาทำการสอน โรงเรียนได้ครูครบชั้น และครูมีความสุขกับการสอน โดยทางกระทรวงศึกษาธิการเตรียมเปิดตัว ระบบจับคู่ครูคืนถิ่น Teacher Matching System (TMS) มอบเป็นของขวัญวันครู ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และจะเปิดให้ใช้งานระบบได้ในที่ 16 มกราคม 2567 ที่จะถึงนี้

2. เห็นชอบ (ร่าง) แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดทำปฏิทินการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

ตามที่ ก.ค.ศ. ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยในหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกฯ หลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันฯ และหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายฯ ได้กำหนดให้ส่วนราชการเป็นผู้กำหนดปฏิทินการดำเนินการ ซึ่งจากการดำเนินการที่ผ่านมาพบว่า ปฏิทินการดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของส่วนราชการไม่เชื่อมโยงและสัมพันธ์กัน เช่น การย้ายรอบที่ 1 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กำหนดให้พิจารณาย้าย ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ - 30 เมษายน 2566 ซึ่งเมื่อการพิจารณาย้ายแล้วเสร็จพบว่าสถานศึกษาหลายแห่งมีข้าราชการครูย้ายออก แต่ไม่สามารถย้ายข้าราชการครูหรือบรรจุและแต่งตั้งผู้สอบแข่งขันได้หรือผู้ได้รับการคัดเลือกเข้าทดแทนได้ก่อนเปิดภาคเรียน ส่งผลให้สถานศึกษาขาดข้าราชการครูที่จะปฏิบัติหน้าที่ในการจัดการเรียนการสอนได้ทันก่อนเปิดภาคเรียน และเกิดผลกระทบกับผู้เรียน

ดังนั้น เพื่อให้เป้าหมายในการบริหารงานบุคคลของส่วนราชการในแต่ละปีงบประมาณบรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ จึงควรมีกรอบแนวทางในการให้ได้มาซึ่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา โดยในวันเปิดภาคเรียนสถานศึกษาต้องมีผู้บริหารสถานศึกษาและข้าราชการครูที่พร้อมจะปฏิบัติหน้าที่ในการบริหารและจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด ก.ค.ศ. จึงได้เห็นชอบกำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดทำปฏิทินการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งแนวปฏิบัติดังกล่าว มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

1. กำหนดให้ส่วนราชการกำหนดปฏิทินการบริหารงานบุคคลในภาพรวม ประกอบด้วยปฏิทินการย้าย ปฏิทินการสอบแข่งขัน ปฏิทินการคัดเลือก และการขอใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ประจำปีงบประมาณให้มีความสอดคล้องและสัมพันธ์กัน โดยกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องดังต่อไปนี้

1.1 วันเปิด-ปิด ภาคเรียนของปีการศึกษาที่อยู่ในปีงบประมาณนั้น

1.2 ช่วงระยะเวลาการย้ายของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาและตำแหน่งครู

1.3 ช่วงระยะเวลาการสอบแข่งขันหรือคัดเลือกตำแหน่งครูผู้ช่วย การขอใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ การคัดเลือกตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา รวมทั้งวันบรรจุและแต่งตั้ง
1.4 ช่วงระยะเวลาการรับโอน (ถ้ามี)

โดยต้องคำนึงว่าเมื่อมีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาย้ายออกจากสถานศึกษาใดสถานศึกษาหนึ่ง ต้องมีการพิจารณาย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้าทดแทน หรือบรรจุและแต่งตั้งผู้สอบแข่งขันได้หรือผู้ได้รับการคัดเลือก ขอใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ หรือรับโอน (ถ้ามี) ทดแทนได้โดยทันที ทั้งนี้ ในวันเปิดภาคเรียนสถานศึกษาต้องมีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่พร้อมจะปฏิบัติหน้าที่ในสถานศึกษานั้น เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการจัดการเรียนการสอนและให้คำนึงถึงประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับเป็นสำคัญ

2. ให้ส่วนราชการประกาศปฏิทินการบริหารงานบุคคลประจำปีงบประมาณ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับทราบโดยทั่วกันก่อนวันเริ่มต้นปีงบประมาณ และกำกับ ติดตาม เร่งรัดการดำเนินการให้เป็นไปตามปฏิทินการบริหารงานบุคคลที่กำหนดต่อไป

3. เห็นชอบ (ร่าง) แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการสรรหาบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย

เพื่อให้การดำเนินการสรรหาฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย ภายใต้หลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด เป็นมาตรฐานเดียวกัน สามารถสรรหาบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ มีศักยภาพ ตรงตามความต้องการจำเป็นของสถานศึกษา โดยยึดถือระบบคุณธรรม ความเสมอภาค ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นไปตามมาตรฐานวิชาเอก ที่ ก.ค.ศ. กำหนด และยังคงหลักการเพื่อให้ได้ครูที่เป็นคนเก่ง คนดี มีศักยภาพและมีประสบการณ์ในการสอน ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน รวมทั้งประโยชน์ต่อส่วนราชการและหน่วยงานการศึกษา จึงได้มีมติให้กำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการสรรหาฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

1. ให้ส่วนราชการดำเนินการบริหารจัดการเกี่ยวกับการออกข้อสอบ ภาค ก และ ภาค ข โดยยังคงให้ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ.ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง แล้วแต่กรณี เป็นผู้ดำเนินการคัดเลือก เพื่อให้การสอบเป็นมาตรฐานเดียวกัน

2. กำหนดรายละเอียดองค์ประกอบการประเมิน ภาค ค ความเหมาะสมกับตำแหน่งและวิชาชีพ เพิ่มเติม โดยคงองค์ประกอบตามหลักสูตรแนบท้ายหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด เพื่อให้การประเมินดำเนินการภายใต้องค์ประกอบเดียวกัน ลดการใช้ดุลยพินิจในการประเมิน และให้เพิ่มการประเมินเรื่องความเข้าใจเรื่องประวัติศาสตร์ชาติไทย จิตสำนึกเรื่องการรักชาติ รักประเทศ จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และคุณธรรมจริยธรรม ไว้ด้วย

3. กรณีที่ได้ผู้ได้รับการคัดเลือกไม่ครบตามจำนวนตำแหน่งว่างที่ประกาศรับสมัครไว้ ให้ส่วนราชการบริหารจัดการตำแหน่งว่างดังกล่าวได้ตามความเหมาะสมโดยให้คำนึงถึงประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารจัดการตำแหน่งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการขาดแคลนครูในสถานศึกษา และประหยัดงบประมาณในการดำเนินการสอบคัดเลือก

4. การกำหนดสาขาวิชาเอกเพื่อใช้ในการคัดเลือก สำหรับสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้คำนึงถึงเกณฑ์มาตรฐานวิชาเอก ที่ ก.ค.ศ. กำหนด

ทั้งนี้ (ร่าง) แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการสรรหาฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย นี้ ให้ใช้กับทุกส่วนราชการ เพื่อให้สามารถดำเนินการในปี พ.ศ. 2567 ได้ทันตามแผนการดำเนินการของส่วนราชการ

4. เห็นชอบ การปรับปรุงรายละเอียดหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ว 14/2566)

สืบเนื่องจากการดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยใช้หลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันฯ ตาม ว 14/2566 ซึ่งกำหนดให้ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. สำนักบริหารการศึกษาพิเศษเป็นผู้บริหารจัดการเกี่ยวกับการออกข้อสอบภาค ก และภาค ข พบว่า การดำเนินการในปี พ.ศ. 2566 การออกข้อสอบ ภาค ก และ ภาค ข ในแต่ละเขตพื้นที่การศึกษาไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ส่งผลให้เกิดความเหลื่อมล้ำในการดำเนินการ

ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการบริหารจัดการเกี่ยวกับการออกข้อสอบเป็นมาตรฐานเดียวกัน และได้บุคคลที่มีความรู้ ความสามารถภายใต้การดำเนินการที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ก.ค.ศ. จึงมีมติยกเลิกข้อ 9 อนุ 9.1 ตาม ว 14/2566 ที่กำหนดให้ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา และ อ.ก.ค.ศ. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นผู้บริหารจัดการเกี่ยวกับการออกข้อสอบ ภาค ก ความรู้ความสามารถทั่วไป และ ภาค ข มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ และให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นผู้บริหารจัดการเกี่ยวกับการออกข้อสอบ ภาค ก ความรู้ความสามารถทั่วไป และ ภาค ข มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ตามแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการสรรหาฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย

ทั้งนี้ เพื่อให้ได้บุคคลที่มีความรู้ ความสามารถภายใต้การดำเนินการที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยยึดถือระบบ คุณธรรมความเสมอภาค ความโปร่งใส และตรวจสอบได้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการที่ต้องการสร้างหลักธรรมาภิบาลให้เกิดขึ้นในการสอบแข่งขันและคัดเลือกครู

5. เห็นชอบ แก้ไขเพิ่มเติมการตั้ง อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา

ตามที่ ก.ค.ศ. ได้ประกาศคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เรื่อง ตั้ง อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และเรื่อง ตั้ง อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาแล้ว เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 โดย อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 245 เขต มีวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี ซึ่งจะครบวาระฯ ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 นั้น

ขณะนี้มีประธานอนุกรรมการและอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 25 เขต พ้นจากการเป็นคณะอนุกรรมการฯ เนื่องจากเป็นผู้มีอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ เกษียณอายุราชการ และลาออกจากตำแหน่งทำให้ตำแหน่งว่างลงก่อนครบวาระ ดังนั้น ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้ดำเนินการสรรหาคณะอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. เพื่อให้ ก.ค.ศ. พิจารณาแต่งตั้ง ซึ่ง ก.ค.ศ. ได้พิจารณาแล้วว่า ผู้ได้รับการเสนอรายชื่อทั้งหมดเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด จึงเห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมการตั้ง

อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา โดยแก้ไขเพิ่มเติมรายชื่อประธานอนุกรรมการและอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 25 เขต ให้ถูกต้อง พร้อมทั้งแจ้งส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานด้านการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในส่วนภูมิภาคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลสูงสุด

6. เรื่องร้องเรียนการทุจริตการสอบบรรจุครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ

สืบเนื่องจากการที่มีการร้องเรียนประธานและอนุกรรมการข้าราชการครู ใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาว่าร่วมกันทุจริตในการคัดเลือกครูผู้ช่วย ปี พ.ศ. 2566 ซึ่งต่อมาสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงในกรณีที่มีการร้องเรียนดังกล่าวแล้ว และได้นำส่งผลการสืบสวนมายังสำนักงาน ก.ค.ศ. โดย ก.ค.ศ. พิจารณาแล้วเห็นว่าเรื่องดังกล่าวส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ดังนั้น จึงมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อทำการสอบสวนการปฏิบัติหน้าที่ของประธานและอนุกรรมการข้าราชการครูใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา และยับยั้งการปฏิบัติหน้าที่ของประธานและอนุกรรมการข้าราชการครูใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษานั้น เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ ก.ค.ศ. มีมติ จนกว่า ก.ค.ศ. จะมีมติเป็นอย่างอื่น

ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับทางราชการ และเพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ดำเนินต่อไปได้ จึงให้ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา พิจารณาเลือกผู้แทนในคณะอนุกรรมการปฏิบัติหน้าที่ประธานไปพลางก่อน เพื่อให้องค์ประกอบครบตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ที่ ก.ค.ศ. กำหนด

 

ที่มา สำนักงาน ก.ค.ศ.

หนาวแล้ว ออกแคมป์กันเถอะ! ⛺ เตาแก๊สปิคนิค พกพาสะดวก ออก Outdoor ได้สบายๆ รุ่น KJ-101 แถมฟรี!!กล่องเก็บเตา ในราคา ฿244

https://s.shopee.co.th/7fJQKGPCjr?share_channel_code=6


ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 13/2566 เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2566ผลการประชุม ก.ค.ศ.ผลประชุม ก.ค.ศ.ประชุม ก.ค.ศ.ผลการประชุม กคศผลประชุม กคศ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 12/2567 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 12/2567 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เปิดอ่าน 10,241 ☕ 28 พ.ย. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ผลการคัดเลือกโรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำ รุ่นที่ 15
ผลการคัดเลือกโรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำ รุ่นที่ 15
เปิดอ่าน 162 ☕ 22 ธ.ค. 2567

สพฐ.สำรวจความต้องการขอรับจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ตำแหน่งครูผู้สอนเพิ่มเติม
สพฐ.สำรวจความต้องการขอรับจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ตำแหน่งครูผู้สอนเพิ่มเติม
เปิดอ่าน 130 ☕ 22 ธ.ค. 2567

เกียรติบัตรสำหรับสถานศึกษาที่เข้าร่วมการประกวดคลิปวีดิทัศน์ "Meditation Clip Contest"
เกียรติบัตรสำหรับสถานศึกษาที่เข้าร่วมการประกวดคลิปวีดิทัศน์ "Meditation Clip Contest"
เปิดอ่าน 418 ☕ 20 ธ.ค. 2567

ชื่อเต็ม ชื่อย่อ ของหน่วยงานและผู้บริหารระดับสูง ในสังกัด สพฐ.
ชื่อเต็ม ชื่อย่อ ของหน่วยงานและผู้บริหารระดับสูง ในสังกัด สพฐ.
เปิดอ่าน 795 ☕ 19 ธ.ค. 2567

ประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัล "ครูดีในดวงใจ" ครั้งที่ 22 ประจำปี พ.ศ. 2568
ประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัล "ครูดีในดวงใจ" ครั้งที่ 22 ประจำปี พ.ศ. 2568
เปิดอ่าน 1,806 ☕ 19 ธ.ค. 2567

ศธ. เปิดตัวระบบTRS ย้ายครูออนไลน์ทุกกรณี แก้ปัญหาทุจริตโยกย้ายไม่เป็นธรรม
ศธ. เปิดตัวระบบTRS ย้ายครูออนไลน์ทุกกรณี แก้ปัญหาทุจริตโยกย้ายไม่เป็นธรรม
เปิดอ่าน 715 ☕ 17 ธ.ค. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เรื่องของวันหยุดยาวในเดือนเมษายน กับการเปิด-ปิดเทอมของมหาวิทยาลัย
เรื่องของวันหยุดยาวในเดือนเมษายน กับการเปิด-ปิดเทอมของมหาวิทยาลัย
เปิดอ่าน 14,244 ครั้ง

คำพ่อสอน เรื่อง "การทำงาน" ให้ประสบความสำเร็จ
คำพ่อสอน เรื่อง "การทำงาน" ให้ประสบความสำเร็จ
เปิดอ่าน 20,184 ครั้ง

โมกบ้าน
โมกบ้าน
เปิดอ่าน 17,585 ครั้ง

พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560
เปิดอ่าน 22,517 ครั้ง

สื่อเผย ดิกชันนารีฯ อาจไร้คนสนใจในอนาคต
สื่อเผย ดิกชันนารีฯ อาจไร้คนสนใจในอนาคต
เปิดอ่าน 9,297 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ