วันที่ 19 ธันวาคม 2566 นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่ารัฐบาล ให้ความสำคัญกับการแก้ไขหนี้สินให้กับประชาชน ทั้งหนี้นอกระบบ และหนี้ในระบบ เป็นวาระแห่งาติ โดย นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้จัดทำมาตรการแก้หนี้และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
และให้ธนาคารออมสินชะลอกระบวนการดำเนินคดีตามกฎหมายกับลูกหนี้สถานะ NPLs ด้วยมาตรการ "4 ไม่" คือ ไม่ฟ้อง ไม่ยึดทรัพย์ ไม่ขายทอดตลาด และไม่ฟ้องล้มละลาย แล้วแต่กรณีว่าสถานะคดีของลูกหนี้แต่ละรายอยู่ในขั้นตอนใด โดยในการปรับโครงสร้างหนี้ธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ
นอกจากนี้มาตรการ “แก้ไขหนี้ลูกหนี้ NPLs” ของสินเชื่อรายย่อยไม่มีหลักประกัน วงเงินกู้ไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยจะยกเว้นดอกเบี้ยค้างชำระ ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายอื่นให้ทั้งหมดในวันที่ลูกหนี้ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้
ส่วนยอดหนี้ที่เหลือธนาคารจะปรับลดเงินงวดผ่อนชำระเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ โดยการลดอัตราดอกเบี้ยในปีแรกลงเหลือ 0% ต่อปี แล้วนำเงินงวดที่ลูกหนี้จ่ายชำระไปตัดยอดเงินต้นทั้งจำนวน จากนั้นในปีที่ 2 เป็นต้นไป คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา ซึ่งจะช่วยให้ลูกหนี้มีเงินคงเหลือเพียงพอเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ และยังคงสถานะหนี้ชั้นปกติ ไม่เสียประวัติเครดิต
"ขอเชิญชวนประชาชนที่เป็นลูกหนี้กับธนาคารออมสินที่มีสถานะ NPLs ลงทะเบียนแก้หนี้ ซึ่งรัฐบาลเข้าใจความเดือดร้อนของประชาชนที่เป็นหนี้อย่างดี และนโยบายของธนาคารออมสินที่ออกมานั้น จะทำให้ในอนาคตยังสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้
ดังนั้นขอให้ประชาชนสบายใจและเชื่อมั่นในรัฐบาลว่าจะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้ในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ทั้งในระบบ และนอกระบบ เพื่อให้ประชาชนสามารถมีเงินเหลือใช้ นำไปประกอบอาชีพ อื่นๆได้อีกด้วย"รัดเกล้า กล่าว
สำหรับประชาชนที่เป็นหนี้ในระบบกับธนาคารออมสิน ทางธนาคารจะจัดส่ง Notification ผ่าน MyMo / SMS และจดหมายเชิญลูกหนี้เข้าร่วมมาตรการ โดยลงทะเบียนได้ทางเว็บไซต์ www.gsb.or.th และที่แอป MyMo ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.66 ถึง 28 ก.พ.67 และทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ภายในวันที่ 31 มี.ค.67
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เว็บไซต์รัฐบาลไทย วันที่ 19 ธันวาคม 2566