ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมความรู้ทั่วไป  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

น้ำมันปลาและน้ำมันตับปลาต่างกันอย่างไร


ความรู้ทั่วไป 27 พ.ย. 2566 (05:24 น.) เปิดอ่าน : 4,000 ครั้ง
Advertisement

น้ำมันปลาและน้ำมันตับปลาต่างกันอย่างไร

Advertisement

หลายคนคงสงสัยว่าน้ำมันปลาและน้ำมันตับปลาแตกต่างกันอย่างไร เนื่องจากน้ำมันทั้งสองชนิดนี้มีชื่อเรียกที่ใกล้เคียงกัน บางคนอาจคิดว่าเป็นน้ำมันชนิดเดียวกัน แต่รู้หรือไม่ว่าน้ำมันทั้งสองชนิดมีแหล่งที่มา สารอาหารและคุณประโยชน์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

น้ำมันปลา (Fish Oil) คือ น้ำมันที่ได้จากกระบวนการสกัดเอาน้ำมันออกมาจากส่วนต่างๆ ของปลา เช่น เนื้อปลา หนังปลา หางปลา หัวปลา โดยปลาทะเลที่นำมาสกัดนั้นเป็นปลาที่อยู่ในทะเลน้ำลึกเขตหนาวเย็น ซึ่งมีกรดไขมันโอเมก้า-3 (Omega-3) ปริมาณมากกว่าปลาน้ำจืด อาทิ ปลาแองโซวี่
ปลาแมคเคอเรล หรือปลาทูน่ามีไขมัน เป็นต้น

สารอาหารสำคัญของน้ำมันปลา น้ำมันปลาอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Polyunsaturated Fatty acid) ชนิดโอเมก้า-3 อยู่มาก ประกอบด้วยกรดไขมันสำคัญ 2 ชนิด ก็คือ EPA (Eicosapentaenoic Acid) และ DHA (Docosahexaenoic Acid) ซึ่งร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้จึงจำเป็นต้องรับจากอาหารเท่านั้น

EPA มีชื่อเต็มว่า EICOSAPANTAENOIC ACID เป็นกรมไขมันเชิงซ้อนไม่อิ่มตัว จัดอยู่ในกลุ่มกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีมวลโมเลกุลจัดเรียงกัน 20 ตัว กรดไขมัน EPA ยังช่วยลดการเกาะตัวเป็นก้อนของเม็ดเลือดหรือที่เรียกว่า ลิ่มเลือด ทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ลดการตีบตันของหลอดเลือดซึ่งเป็นที่มาของโรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดในสมองแตกเป็นอัมพฤต อัมพาต


DHA มีชื่อเต็มว่า DOCOSAHEXANOIC ACID เป็นหนึ่งในกรดไขมันโอเมก้า 3 โดยความยาวของคาร์บอนโมเลกุลเท่ากับ 22 DHA เป็นกรดไขมันเชิงซ้อนที่สำคัญต่อระบบประสาทโดยตรง โดยพบว่าในสมองของมนุษย์มีปริมาณ DHA สูงถึง 40% และในดวงตามี DHA 60% DHA ช่วยในการรักษาระดับของเหลวในเซลล์ประสาท ทำให้การนำพา Na+K+Ca++ เป็นไปได้ปกติซึ่งกรดไขมันโอเมก้า-3 ทั้ง 2 ชนิดนี้ (DHA และ EPA) พบได้ในปลาทะเลเขตน้ำเย็นชนิดต่างๆ อาทิ ซาดีน แม็คคาเรล แซลมอล และปลาทูน่า เป็นต้น ซึ่งจะพบมากในสัดส่วนระหว่าง 2 ถึง 8 กรัมในเนื้อปลา 200 กรัม โดยปกติ และจากการวิจัยพบว่าปลาทะเลไทยเช่น ปลาทู ปลากะพง ปลาเก๋า ปลาสำลี ปลาอินทรีย์ ปลาโอ มีกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่เหมาะสมเช่นกัน หากไม่มีปลาทะเลก็สามารถเลือกรับประทานปลาน้ำจืด เช่น ปลาช่อน ปลาบู่ เป็นต้น

น้ำมันปลาเหมาะกับใคร? เหมาะกับผู้ที่ต้องการบำรุงหัวใจ สมอง ป้องกันหลอดเลือดหัวใจ และสมองอุดตัน หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูงหรือต้องการลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ ลดอักเสบโรคข้อรูมาตอยด์ โรคซึมเศร้า และโรคสมองเสื่อม เป็นต้น

น้ำมันตับปลา (Cod liver oil) คือ น้ำมันตับปลาจะสกัดมาจากตับของปลาทะเลน้ำลึก โดยเฉพาะปลาคอด หรือที่หลายคนคุ้นหูกันในชื่อของ Cod liver oil

สารอาหารสำคัญของน้ำมันตับปลาจะมีกรดไขมัน EPAและ DHA ในปริมาณที่น้อยกว่าน้ำมันปลา แต่มีวิตามินเอและวิตามินดีสูง

น้ำมันตับปลาเหมาะกับใคร น้ำมันตับปลาเหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลในเรื่องของสายตาและกระดูก เนื่องจากวิตามินเอได้ชื่อว่าเป็นวิตามินสำหรับดวงตา เพราะมีประโยชน์ต่อสมรรถภาพในการมองเห็น ช่วยให้มองเห็นในที่ที่มีแสงสว่างน้อยได้ดีขึ้นในส่วนของวิตามินดีเองนั้นก็มีคุณสมบัติในการบำรุงกระดูก ป้องกันกระดูกพรุนและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง รวมถึงยังถูกนำมาใช้เสริมในผู้ป่วยที่มีภาวะขาดวิตามินเอและวิตามินดีอีกด้วย

 

ข้อควรระวังในการใช้น้ำมันปลา (Fish oil) เนื่องจากน้ำมันปลามีโอเมก้า-3 ปริมาณที่สูง ซึ่งโอเมก้า-3 มีคุณสมบัติในการต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด และทำให้เลือดหยุดไหลช้าลงได้ หากผู้ที่รับประทานเป็นประจำอาจทำให้เสี่ยงต่อการมีเลือดออก เช่น ผู้ที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัด ผู้ที่มีแผลในกระเพาะอาหาร ผู้ที่ดื่มสุรามากๆ หรือผู้ที่รับประทานยาจำพวกแอสไพริน หรือวอร์ฟาริน ที่มีคุณสมบัติลดการแข็งตัวของเลือด อาจจะต้องทานน้ำมันปลาอย่างระมัดระวัง

ข้อควรระวังในการใช้น้ำมันตับปลา (Cod liver oil) น้ำมันตับปลามีปริมาณของวิตามินเอและวิตามินดีสูงซึ่งวิตามินทั้งสองตัวนี้เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน หากได้รับในปริมาณที่มากเกินไปอาจเกิดการสะสมและก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ เช่น คลื่นไส้ เวียนศีรษะ อาหารไม่ย่อย ผิวหนังเป็นผื่น และนอนไม่หลับได้ในบางคน รวมถึงในหญิงตั้งครรภ์ควรระมัดระวังการรับประทานสารอาหารชนิดนี้เป็นพิเศษ เนื่องจากปริมาณวิตามินเอที่สูง อาจส่งผลให้ทารกในครรภ์เกิดความผิดปกติได้

สุพิชชา ปรีชาเรืองฤทธิ์
ศูนย์ความหลากหลายทางชีวภาพ
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) 

ที่มา www.naewna.com/sport/768643

🖼สำหรับคุณครูไว้ใส่เกียรติบัตรสวยและถูก🖼 กรอบป้ายอะคริลิคตั้งโต๊ะ A4 แนวนอน 30x21.5 cm อะคริลิคใส 1 หน้า ทรง L (A4L1P) ในราคา ฿129 คลิกเลย👇👇

https://s.shopee.co.th/1qLFIZVf4t?share_channel_code=6


น้ำมันปลาและน้ำมันตับปลาต่างกันอย่างไร

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ปรับฮวงจุ้ย รับหน้าฝน

ปรับฮวงจุ้ย รับหน้าฝน


เปิดอ่าน 9,163 ครั้ง
ของพรีเมี่ยมคืออะไร ?

ของพรีเมี่ยมคืออะไร ?


เปิดอ่าน 20,265 ครั้ง
ประโยชน์ของมะระ

ประโยชน์ของมะระ


เปิดอ่าน 21,791 ครั้ง
Windows 7 RC พร้อมให้ทดสอบแล้ว

Windows 7 RC พร้อมให้ทดสอบแล้ว


เปิดอ่าน 9,415 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

การออกกำลังกายเพิ่มภูมิต้านทานความเครียดให้กับสมอง

การออกกำลังกายเพิ่มภูมิต้านทานความเครียดให้กับสมอง

เปิดอ่าน 13,828 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
มหกรรมไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 17  :  29 ต.ค.-1 พ.ย. นี้
มหกรรมไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 17 : 29 ต.ค.-1 พ.ย. นี้
เปิดอ่าน 11,627 ☕ คลิกอ่านเลย

ผลการเลือกตั้ง 2554 อย่างไม่เป็นทางการ
ผลการเลือกตั้ง 2554 อย่างไม่เป็นทางการ
เปิดอ่าน 14,709 ☕ คลิกอ่านเลย

พบตะกั่วในลิปสติก มีปริมาณน้อยมากต่ำกว่า ระดับเป็นอันตราย
พบตะกั่วในลิปสติก มีปริมาณน้อยมากต่ำกว่า ระดับเป็นอันตราย
เปิดอ่าน 10,664 ☕ คลิกอ่านเลย

กล้วยตอนเช้า คุณประโยชน์เต็มเปี่ยม
กล้วยตอนเช้า คุณประโยชน์เต็มเปี่ยม
เปิดอ่าน 29,347 ☕ คลิกอ่านเลย

ออกกำลังกายคลายเครียดในออฟฟิศ เหนื่อยนักก็พักหน่อย
ออกกำลังกายคลายเครียดในออฟฟิศ เหนื่อยนักก็พักหน่อย
เปิดอ่าน 11,681 ☕ คลิกอ่านเลย

น้ำสมุนไพร ปรับสมดุลธาตุ เวลาไหนควรดื่ม
น้ำสมุนไพร ปรับสมดุลธาตุ เวลาไหนควรดื่ม
เปิดอ่าน 20,968 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ภูมิปัญญา "การแพทย์แผนไทย" สู้ภัยร้อนจัดของประเทศ
ภูมิปัญญา "การแพทย์แผนไทย" สู้ภัยร้อนจัดของประเทศ
เปิดอ่าน 11,015 ครั้ง

พื้นที่ของรูปหลายเหลี่ยม
พื้นที่ของรูปหลายเหลี่ยม
เปิดอ่าน 76,517 ครั้ง

เอกสารแนวทางการดำเนินงานโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ.2559
เอกสารแนวทางการดำเนินงานโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ.2559
เปิดอ่าน 28,142 ครั้ง

กินไข่ไก่...อย่างไรให้ได้ประโยชน์
กินไข่ไก่...อย่างไรให้ได้ประโยชน์
เปิดอ่าน 25,117 ครั้ง

ผลวิจัย "ซุปไก่สกัด" มีผลดีต่อสมองและร่างกาย
ผลวิจัย "ซุปไก่สกัด" มีผลดีต่อสมองและร่างกาย
เปิดอ่าน 17,706 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ