เมื่อวันที่ 13 พ.ย. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุพื้นห้องเรียนของโรงเรียนใน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี พังถล่มลงมา และยังมีเหตุการณ์อาคารเก่าโรงเรียนอนุบาลบ้านแพ้ว เสาระเบิดจนเห็นเหล็กด้านในกว่า 40 ต้น จนต้องปิดการใช้งานชั่วคราว และอพยพนักเรียนไปใช้พื้นที่อื่นในการเรียนแทน กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีความห่วงใยความปลอดภัยของนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง โดยก่อนหน้านี้ได้มีการส่งหนังสือแจ้งมาตรการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนที่ 2/2566 ให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ดำเนินการแจ้งสถานศึกษาในสังกัดทราบ ซึ่งในมาตรการได้กำหนดให้สถานศึกษา เตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยของสถานศึกษา เรื่องการจัดสภาพแวดล้อมให้นักเรียนปลอดภัย ขจัดมุมอับและจุดเสี่ยงที่เป็นอันตรายต่อนักเรียน
รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้เชื่อว่าทุกโรงเรียนได้ดำเนินการตามมาตรการฯ อยู่แล้ว แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น อาจเป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่มีใครอยากให้เกิด จึงขอกำชับเรื่องการตรวจสอบอาคาร ซ่อมแซมบำรุงรักษาจุดที่มีความเสี่ยงอย่างเข้มข้น เพราะหากเกิดเหตุความไม่ปลอดภัยจากตัวอาคารเรียนขึ้น จะสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างได้ โดยอาจขอความร่วมมือกับสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด หรือองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ร่วมสำรวจโดยผู้ที่มีความชำนาญ รวมทั้งต้องมีการตรวจสอบอายุการใช้งานของอาคารด้วย หากเป็นอาคารที่อายุการใช้งานไม่นาน แต่มีความชำรุดเสียหาย แตกร้าว สุ่มเสี่ยงต่อการพังถล่ม นอกจากต้องปฏิบัติตามแนวทางแก้ไขปัญหา โดยรายงานไปต้นสังกัด เตรียมแผนรองรับเรื่องการเรียน เช่น ใช้ห้องอื่นมาจัดเป็นห้องเรียนชั่วคราว หรืออาจต้องประสานขอใช้พื้นที่โรงเรียนใกล้เคียงเพื่อให้นักเรียนปลอดภัยที่สุดแล้ว ยังต้องตรวจสอบหาสาเหตุการชำรุดเสียหายของอาคารที่ใช้งานมาไม่นาน ว่าเกิดจากความผิดพลาดจุดใด อาจจะเป็นเรื่องของการก่อสร้าง ภูมิประเทศ ความแข็งแรงของวัสดุต่างๆ เพื่อป้องกันเหตุอันตรายเพิ่มเติมด้วย” พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2566