ปานปรีย์ ยืนยัน การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ยังไงต้องปรับแน่นอน คาดเร็วสุดภายในปีนี้ เร่งสรุปผลส่ง ครม.
กรณี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง สั่งให้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และเงินเดือนกลุ่มข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพราะไม่ได้ปรับขึ้นเป็นเวลานานแล้วนั้น
วันที่ 7 พ.ย.66 นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอข้อมูลจาก คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เกี่ยวกับข้อมูลการพิจารณา เกี่ยวกับการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ว่าจะปรับขึ้นหรือไม่ หรือจะปรับขึ้นในอัตราเท่าไหร่ หรือกับข้าราชการทั่วทุกคนหรือเฉพาะกลุ่ม ต้องศึกษาความเป็นไปได้และผลกระทบในหลายหลายด้าน
ขณะนี้ต้องยอมรับว่าประชาชนและข้าราชการและข้าราชการกำลังเดือดร้อน อย่างไรก็ตามจะได้ข้อสรุปภายในเดือนพ.ย. ตามสั่งการนายกฯ และนำเข้าสู่ที่ประชุมครม. พิจารณาต่อไป
“การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ยังไงต้องปรับแน่นอน คาดเร็วสุดภายในปีนี้” นายปานปรีย์ กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ข่าวสด วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566
นายกฯ สั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานดูแลเงินชดเชยให้แน่ใจว่าแรงงานจะได้รับเงินครบถ้วน รวดเร็ว พร้อมทั้งยืนยันการขึ้นเงินเดือนข้าราชการเป็นเพียงการศึกษา
วันนี้ (7 พฤศจิกายน 2566) เวลา 10.50 น. ณ บริเวณโถงกลาง ชั้น 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้มีการพูดคุยกันหลายเรื่อง เรื่องแรกคือ การจ่ายเงินชดเชยค่าแรงให้กับแรงงานที่เดินทางกลับมาจากอิสราเอล รวมถึงการเบิกค่าเครื่องบิน หลังมีข่าวความไม่พอใจ โดยได้สั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกำกับดูแลให้แน่ใจว่าแรงงานทุกคนจะได้รับเงินชดเชยครบถ้วนในเวลาที่รวดเร็ว เพราะไม่อยากให้มีปัญหาว่าถ้าเดินทางกลับจากอิสราเอลแล้วจะไม่ได้รับเงินชดเชยส่งผลให้ไม่อยากจะเดินทางกลับไทย นอกจากนั้น ยังได้สั่งการให้เร่งรัดดำเนินการนำเรื่องการสมรสเท่าเทียมเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในอาทิตย์หน้า
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่ติดตามเกี่ยวกับเรื่องของ EEC ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ที่มีการล่าช้าเกิดขึ้น ได้สั่งการให้ทางรัฐมนตรีกำกับดูแลไม่ให้เกิดความล่าช้า และให้เป็นไปตามสัญญาที่กำหนดไว้ พร้อมทั้ง เป็นข้อคิดให้กับรัฐมนตรีท่านอื่น ๆ ถ้าเกิดมีงานของรัฐล่าช้าให้ติดตามอย่างใกล้ชิด เร่งรัดผู้รับเหมาอย่าให้มีความล่าช้าเกิดขึ้น อย่าเข้าใจเขามากเกินไป เพราะเราเป็นผู้รักษาผลประโยชน์ของประชาชน ฉะนั้นความล่าช้าของงานส่งผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างยิ่งใหญ่ จึงจำเป็นที่จะต้องดูแลส่วนนี้ให้ดี นอกจากนั้น ยังมีการตั้งคณะกรรมการดูแลเรื่อง PM 2.5 ซึ่งขณะนี้ใกล้จะเข้าสู่ฤดูของ PM 2.5 โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธาน และยังได้แต่งตั้งคณะกรรมการย่อยเพื่อดูแลเรื่องของ EEC เพื่อเร่งรัดแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในพื้นที่ EEC โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เป็นเลขาฯ มีการสั่งการเรื่องเหมืองโปแตช ซึ่งโพแทสเซียมเป็นสารตั้งต้นของการทำปุ๋ยเคมี และประเทศไทยมีโปแตชมากเป็นอันดับสองของโลก รองจากประเทศแคนาคา ถ้าสามารถขุดเจาะออกมาแล้วสามารถนำไปขายได้ มีราคาดี ต่างประเทศมีความต้องการสูงที่ประเทศจีน ปัจจุบันนี้มีผู้ได้รับสัมปทานแล้ว 3 ราย แต่ยังไม่ดำเนินการเลย ฉะนั้นจะต้องเร่งรัดให้มีการดำเนินงานโดยเร็ว หากไม่สามารถดำเนินงานได้ก็ให้ประมูลหาผู้รับเหมารายใหม่มาดำเนินงาน
นายกรัฐมนตรียังกล่าวต่อว่า เรื่องของฮาลาล ซึ่งเป็นอาหารของประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลาม ตรงนี้เป็นหน่วยงานในกระทรวงอุตสาหกรรมและเป็นหน่วยงานที่เล็ก รัฐบาลตระหนักดีถึงความสำคัญของอาหารฮาลาลว่าจะเป็นอาหารเศรษฐกิจที่สามารถส่งออกไปได้ในพื้นที่ที่มีประชาชนชาวมุสลิมสูงไม่ว่าจะเป็นที่ตะวันออกกลางหรือแอฟริกา รัฐบาลจึงอยากจะยกระดับความสำคัญของหน่วยงานนี้ขึ้นมาให้เป็นกรม โดยได้สั่งการและพูดคุยกับ ก.พ. ให้ดูเรื่องของการยกระดับของหน่วยงานนี้ขึ้นมาให้เป็นกรม จะได้ให้ความสำคัญและพัฒนาต่อไปได้ ส่วนเรื่องของผู้เสพยาซึ่งมีข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะต้องมี 10 เม็ด แต่ตอนนี้มีการตกลงเป็น 5 เม็ด นอกจากนี้ยังได้กำชับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยช่วยกันกำกับดูแลเกี่ยวกับข่าวการแฮกบัญชีธนาคารและนำข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน 15 ล้านรายออกไปเผยแพร่ โดยในอาทิตย์หน้าคาดว่าจะมีการเสนอแผนงานเข้ามา
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันการขึ้นเงินเดือนข้าราชการเป็นเพียงการเสนอให้มีการศึกษาซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะมีการขึ้นทันที ส่วนข่าวการจับกุมผู้ที่โพสต์คุกคามตนนั้น ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย ยืนยันรัฐบาลต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชน หากมีคนไม่พอใจ ไม่สบายใจ มีคำแนะนำ เราต้องรับฟังแต่ขอให้ติชมอย่างสร้างสรรค์หากเป็นการคุกคามต้องดำเนินการตามกฎหมาย
ที่มา รัฐบาลไทย วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566