เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 ที่ สวนนงนุชพัทยา จ.ชลบุรี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มอบนโยบายในการประชุมผู้อำนวยการ และรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ รวมถึงเปิดงาน 2 ทศวรรษ “สานต่อพื้นฐานการศึกษา พัฒนาอนาคตเด็กไทย โดยมีผู้บริหารศธ. และบุคลากรทางการศึกษาเข้าร่วมกว่า 1,000 คน โดย พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า ตนรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มาพบกับผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกคนในวันนี้ หลังจากที่ได้พบและพูดคุยผ่านระบบออนไลน์ในการมอบนโยบาย เมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา นับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้สื่อสารนโยบายของ ศธ.แก่ทุกคนอีกครั้ง ซึ่งถือว่าทุกคนเป็นผู้นำทางการศึกษาในพื้นที่ และถือเป็นโซ่ข้อกลางที่สำคัญ ในการเชื่อมต่อนโยบายสู่การปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม ทำให้เกิดคุณภาพทางการศึกษา สู่สถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยมีเป้าหมายสำคัญสูงสุด คือ ตัวผู้เรียน ในการทำอย่างไรให้ “เรียนดี มีความสุข”
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ศธ.กำหนดนโยบายเพื่อขับเคลื่อนการศึกษาขั้นพื้นฐาน ใน 3 ด้าน ได้แก่ 1. ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง สามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา (Anywhere Anytime) มีระบบหรือแพลตฟอร์มการเรียนรู้ โดยผู้เรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา (1 นักเรียน 1 Tablet) 2. มุ่งเน้นเรื่องโรงเรียนคุณภาพ ตั้งเป้าที่ 1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพ โดยทำให้โรงเรียนมีคุณภาพเท่าเทียมกัน เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้กับเด็กในชนบทได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพเท่าเทียมกับเด็กในเมือง และ 3. ระบบแนะแนวการเรียน (Coaching) และเป้าหมายชีวิต ทำอย่างไรให้เด็กนักเรียนรู้จักตนเอง ในที่นี้หมายถึง รู้จักความถนัดและความสามารถของตน เพื่อจะนำไปสู่การเลือกเรียนในสาขาวิชาต่าง ๆ อย่างเหมาะสม นำพาไปสู่การมีงานทำ มีอาชีพ มีรายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัวในอนาคต ส่งเสริมการมีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงานทำ (Learn to Earn) โดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่อาจจะไม่มีความถนัดทางด้านวิชาการ แต่มีความสามารถและความถนัดทางด้านวิชาชีพ คหกรรม โดยส่งเสริม สนับสนุน ให้สามารถสร้างงาน สร้างอาชีพได้ด้วยตนเอง โดยมีครูผู้สอนเป็นโค้ชแนะแนวทาง พร้อมกับการสร้างเครือข่ายในชุมชนและท้องถิ่น เพื่อแสวงหาพื้นที่ในการประกอบอาชีพหรือหารายได้ระหว่างเรียนให้กับผู้เรียน
“ผมอยากเน้นย้ำนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ทั้งความสุขของนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนผู้ปกครองและชุมชน ซึ่งไม่ใช่แค่ความสุขในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังหมายถึงความสุขในอนาคต ดังนั้นขอฝากผู้บริหารทุกระดับให้นำนโยบายไปคิดว่า ในภาระหน้าที่ของตนเองจะร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวอย่างไร ทั้งนี้ในการทำงาน ผมเสมอว่า เมื่อมาเป็นเสมา1 แล้ว จะต้องไม่เพิ่มภาระให้ใคร แต่จะต้องเข้ามาช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น เบาขึ้น ผมและทีมงานจะไม่มาสร้างภาระให้ทุกคน อย่างแน่นอน ทั้งนี้จากการดูกิจกรรมภายในงาน พบว่าปัจจัยความสำเร็จ คือต้องมีหัวใจ ที่จะทำงาน ซึ่งอยากให้ทุกคนไปขับเคลื่อนให้ครูและนักเรียน มีหัวใจที่จะทำงานสอนและรักที่จะเรียน”พล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าว
ด้าน ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า พล.ต.อ.เพิ่มพูนได้เยี่ยมชม นิทรรศการสรุปผลงาน 20 ปีของ สพฐ. โดยเฉพาะนโยบายเดิมที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ทำเมื่อปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัย โอกาสทางการศึกษา รวมถึงเรื่องคุณภาพ ประสิทธิภาพ ใน4 ด้าน ซึ่งรมว.ศึกษาธิการ ได้ชื่นชมและขอให้ สพฐ.ไปจัดทำสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อจะได้วิเคราะห์และเผยแพร่ให้คนเห็นได้ง่าย นอกจากนี้ยังย้ำนโยบายลดภาระครู นักเรียนและผู้ปกครอง รวมถึงย้ำว่า สิ่งสำคัญ คือ กระบวนการที่จะนำไปสู่การปฏิบัติ โดยได้ยกประเด็นของ อริยสัจ4 ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เน้นในเรื่องของ เหตุ โดยให้ดูว่าเกิดจากอะไร เมื่อรู้สาเหตุแล้วจะมีวิธีแก้อย่างไร ซึ่งจะต้องเรียบง่ายและประหยัด โดยยกตัวอย่างเรื่องความปลอดภัย อาจไม่จำเป็นต้องติดกล้องวงจรปิด แค่รณรงค์ให้เด็ก ไม่เดินคนเดียว ไปไหนมาไหน ไปกับเพื่อน ก็จะเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้นได้ เป็นต้น
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก FOCUSNEWS วันที่ 19 กันยายน 2566