เมื่อวันที่ 18 ก.ย. นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตามที่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้ตนกำกับดูแลการปฏิบัติราชการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) นั้น ตนจะยึดการบริหารจัดการตามแนวทางของ รมว.ศธ. และนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายใดที่ทำไว้ดีอยู่แล้วก็ให้ดำเนินการสานต่อ หรือนโยบายใดที่ไม่ประสบความสำเร็จก็ต้องมาทบทวนและปรับปรุงแก้ไขต่อไป ซึ่งสิ่งสำคัญจะต้องยึดประโยชน์ของผู้เรียน พร้อมกับจัดลำดับความสำคัญของนโยบาย เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติให้เห็นผลสำเร็จโดยเร็ว
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ได้ฝากให้ตนตรวจสอบความโปร่งใสและสร้างหลักธรรมาภิบาลให้เกิดขึ้นในหน่วยงานที่กำกับดูแล โดยเฉพาะการซื้อขายตำแหน่ง การโยกย้ายข้าราชการ การจัดสอบครูผู้ช่วยที่มีการร้องเรียนถึงความไม่ชอบมาพากลทุกครั้งที่มีการจัดสอบเกิดขึ้น ดังนั้นเรื่องต่างๆ เหล่านี้จะต้องไม่มีการทุจริตเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด เพราะหากตรวจสอบพบตนไม่ปล่อยไว้แน่นอนจะต้องถูกดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุด ซึ่งในวงการวิชาชีพครูและการศึกษาจะต้องไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เด็กและเยาวชน ส่วนการคัดเลือกบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เพื่อทดแทนอัตราเกษียณของนายอัมพร พินะสา เลขาธิการ กพฐ. ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย. นั้น ตนจะต้องหารือกับ รมว.ศธ. ก่อน ขณะที่การสรรหาเลขาธิการ สกสค. ตัวจริง ก็จะต้องหารือกับ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ด้วยเช่นกันว่าจะมีทิศทางในการคัดเลือกบุคคลอย่างไร นอกจากนี้ยังมีเดินหน้านโยบายแก้ไขหนี้สินครู ซึ่งเร็วๆ นี้ จะมีการตั้งคณะกรรมการแก้ไขหนี้สินครูขึ้น เพื่อวางแผนแก้หนี้ครูให้เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบต่อไป.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันที่ 18 กันยายน 2566