เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2566 นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศึกษาธิการ) เปิดเผยว่า ตามที่พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ มอบหมายให้ตนกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และ 5 หน่วยงานในกำกับ คือ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) นั้น เนื่องจาก สพฐ. เป็นหน่วยงานที่สำคัญ ในการปูพื้นฐานการเรียนรู้ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งนโยบายหลายเรื่องของ เสมา 1 และรัฐบาล ก็เกี่ยวข้องกับสพฐ. ซึ่งเบื้องต้นตนก็ได้มีการหารือกับข้าราชการในสพฐ. ทั้งอดีตและปัจจุบัน เพื่อดูแนวทางการทำงานแล้ว
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า สำหรับเรื่องการแต่งตั้ง โยกย้ายข้าราชการระดับสูง ใน สพฐ. นั้น ในวันที่ 30 กันยายนนี้ ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) จะเกษียณอายุราชการ ก็คงต้องอาศัยรองเลขาธิการกพฐ. ทั้ง 3 คน คือ นายพัฒนะ พัฒนทวีดล ,นายธีร์ ภวังคนันท์ ,และ ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช เข้ามาช่วยขับเคลื่อนงาน และทั้ง 3 คนก็ถือเป็นแคนดิเดตที่จะได้มีโอกาสได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการกพฐ.เช่นกัน แต่ทั้งนี้อยู่ที่การพิจารณาของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ซึ่งได้ประกาศไว้แล้วว่า ขอดูการทำงานของแต่ละคนก่อน ยังไม่รีบร้อน หากดูแล้วใครมีความเหมาะสม ก็คงจะได้รับการพิจารณา ส่วนจะมีการแต่งตั้งภายในเดือนกันยายนนี้หรือไม่นั้น ไม่สามารถตอบได้ อย่างไรก็ตามส่วนตัวไม่กังวลกับการทำงาน เพราะมั่นใจกับทีมงาน แม้ตนจะไม่ใช่บุคลากรทางการศึกษาโดยตรง แต่ก็มีมิติที่บุคลากรทางการศึกษาอาจมองไม่เห็น เพราะฉะนั้น ทั้งข้าราชการศธ.และทีมงานของตนก็จะมาช่วยเติมเต็ม พัฒนาการจัดการศึกษาร่วมกันไปได้ด้วยดี
“เรื่องการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงของ ศธ.ผมและท่านพล.ต.อ.เพิ่มพูน จะต้องมีการหารือ เพื่อพิจารณาผู้ที่เหมาะสมร่วมกัน โดยผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งนี้อย่างน้อยต้องทำงานได้ ทั้งกับผมและพล.ต.อ.เพิ่มพูน ไม่ใช่ทำงานให้กับคนใดคนหนึ่งเพียงคนเดียว แล้วทำงานร่วมกับผมไม่ได้ ก็อาจเป็นอุปสรรคในการบริหารจัดการ ถือเป็นโชคดีที่ผมไม่เคยใกล้ชิดใครมาก่อน จึงไม่ได้สนใจว่า จะต้องเลือกจากลูกหม้อก่อนหรือไม่ การตัดสินใจก็ขอดูที่ผลการทำงานเป็นสำคัญ ส่วนที่มีกระแสว่า มีเด็กฝากจากทางพรรคภูมิใจไทย ให้นั่งในตำแหน่งเลขาธิการกพฐ.นั้น ก็ไม่เป็นเรื่องจริง ไม่มีเรื่องเด็กฝากอย่างแน่นอน ” นายสุรศักดิ์ กล่าวและว่า ส่วนการจัดสอบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสอบครูผู้ช่วย การสอบผู้อำนวยการโรงเรียน การสอบผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ (สพท.) หรือการสอบบุคลากรต่าง ๆ จะต้องมีความเป็นธรรม และจะต้องไม่มีการซื้อขายตำแหน่งอย่างเด็ดขาด เรื่องนี้ทั้งตนและพล.ต.อ.เพิ่มพูน รวมถึงรัฐบาลเอง ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก อีกทั้งส่วนตัวเป็นคนตรง จะไม่ยอมให้เกิดเรื่องการซื้อขายตำแหน่งเกิดขึ้นแน่นอน
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก FOCUSNEWS วันที่ 18 กันยายน 2566