เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ (สพร.) ได้มีหนังสือถึงสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต เกี่ยวกับการดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคล เข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ความว่า
ตามที่คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคล เข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ ๐๒๐๖.๖/ ๑๔ ลงวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๓ และตามแนวปฏิบัติการบรรจุและแต่งตั้งบุคคล เข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (ยกเว้นสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ) ก.ค.ศ. มีมติให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา เขต ๑ หรือเขตเดียว มีหน้าที่ดูแล ควบคุม และประสานงานเกี่ยวกับการใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ในจังหวัด จนกว่าจะครบอายุการขึ้นบัญชีหรือบัญชีถูกยกเลิก ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ ๐๒๐๖.๖/ว ๙ ลงวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๖ นั้น
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานพิจารณาแล้ว เนื่องจากบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ บางกลุ่มวิชา หรือทาง หรือสาขา วิซาเอก ไม่มีผู้สอบแข่งชันได้ หรือมี แต่ไม่ครบตามจำนวนดำแหน่งว่าง จึงขอทราบว่าสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานี้ ประสงค์จะสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. ๒๕๖๖ หรือไม่ โดยขอให้จัดทำข้อมูล ตามแบบ ๑ สำหรับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต ๑ หรือเขตเดียว ซึ่งดูแลบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ขอให้จัดทำข้อมูลบัญชีคงเหลือ ตามแบบ ๒ โดยขอให้รายงานทุกครั้งที่มีการบรรจุด้วย
ทั้งนี้ ขอให้จัดส่งข้อมูลตามแบบดังกล่าว พร้อมรายชื่อผู้ประสานงานไปให้สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานทาง e-mail : bunju3@hotmail.com ภายในวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๖ ก่อนนำส่งทางไปรษณีย์
ที่มา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน