เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดร.อรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรม “อาสาสมัครผู้สูงอายุกระทรวงศึกษาธิการ (อส.ศธ.)” ภายใต้โครงการการจัดและส่งเสริมการจัดการศึกษาตลอดชีวิต เพื่อคงสมรรถนะทางกาย จิต และสมองของผู้สูงอายุ
น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดแนวทางการขับเคลื่อนระยะสั้น ในช่วง 3 – 6 เดือน ข้างหน้าของปี 2566 เพื่อรับมือกับภาวะสังคมผู้สูงวัย ที่กำลังมีแนวโน้มจะกลายเป็นวิกฤตหนักของประเทศ ภายใต้แนวคิด “สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างคุณค่า” เพื่อสร้างความสุขให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ คือ ครูเกษียณอายุราชการ กลุ่มแรงงานไม่มีสวัสดิการ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางวิชาชีพ กลุ่มที่ต้องการอาชีพเสริม และกลุ่ม NEED โดยการขับเคลื่อนระยะสั้นจะเปิดรับสมัครอาสาสมัครผู้สูงอายุกระทรวงศึกษาธิการ (อส.ศธ.) ผ่านระบบออนไลน์ ตั้งเป้าหมายผู้สมัครกว่า 30,000 คน ซึ่งจะเป็นบุคลากรสำคัญในการดำเนินการร่วมกับกระทรวงแรงงาน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการช่วยพัฒนากำลังคน ทุกกลุ่มวัยในระดับพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อเตรียมคนในอนาคตและกลุ่มผู้สูงวัย
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า การดำเนินงานของ อส.ศธ. จะดึงผู้ที่มีประสบการณ์และความถนัดด้านต่าง ๆ มาช่วยงานการศึกษา เช่น ครูอาสาสมัครจิตอาสา โดยส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษาระหว่างสถานศึกษา ครู ผู้ปกครอง ชุมชน และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการศึกษา ฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนทุกระดับ และช่วยสนับสนุนในการพัฒนาศักยภาพเด็กที่อยู่ในวัยเรียนให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพและมีความสุข ทั้งในด้านอารมณ์ สังคม คุณธรรม จริยธรรม รวมถึงดูแลปกป้องคุ้มครองนักเรียนให้มีความปลอดภัยด้านร่างกายและจิตใจ มีพฤติกรรมที่เหมาะสม และมีโอกาสด้านการศึกษาอย่างเท่าเทียมด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย
สำหรับผู้สูงอายุที่สนใจและมีจิตอาสาเป็นอาสาสมัครผู้สูงอายุกระทรวงศึกษาธิการ (อส.ศธ) สามารถสมัครได้ที่เว็บไซด์ volunteers.moe.go.th หรือ www.moe.go.th หัวข้อ “ข่าวประชาสัมพันธ์” และสามารถขอรับใบสมัครได้ที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดทุกจังหวัด ในเวลาราชการ ทั้งนี้หลังจากปิดรับสมัครเรียบร้อยแล้ว สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จะดำเนินการจัดประชุมเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ ถึงบทบาทหน้าที่ของ อส.ศธ. และแบ่งพื้นที่ความรับผิดชอบในการทำงานก่อนลงพื้นที่ ประจำศูนย์การเรียนชุมชน ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี ” และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดในพื้นที่ 77 จังหวัด โดยจะแบ่งเป็น
1. กลุ่มสนับสนุนงานด้านการศึกษา ทำหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ และให้ความช่วยเหลือด้านสวัสดิภาพและความปลอดภัยให้กับเด็กที่อยู่ในวัยเรียน และผู้ที่มีความต้องการเรียนรู้ในพื้นที่ชุมชน
2. กลุ่มคลังภูมิปัญญาผู้สูงอายุ ทำหน้าที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ/ ทักษะชีวิตในการส่งเสริมการรู้หนังสือ สร้างอาชีพและเพิ่มรายได้จากการฝึกอาชีพทั้งหลักสูตรระยะสั้น และระยะยาวให้กับเด็กในวัยเรียน ประชาชน และผุ้สูงอายุในชุมชน ตลอดจนร่วมพัฒนาวิชาชีพชุมชนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
ทั้งนี้ สำหรับระยะต่อไป ศธ. จะเร่งดำเนินงานความร่วมมือกับภาคเอกชนในการมีส่วนร่วมสร้างอาชีพให้กับผู้สูงวัย ให้สามารถกลับเข้าสู่อาชีพตามความเหมาะสมกับช่วงวัย ต่อไป.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก FOCUSNEWS วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566