กรมประมงพัฒนาสายพันธุ์ปลาการ์ตูนใช้เทคนิคผสมข้ามระหว่างสายพันธุ์เพาะ“ปลาการ์ตูนโกลด์ครอสทันเดอร์” เล็งกระตุ้นตลาดปลาสวยงามไทย สร้างความหลากหลายด้วยลวดลายแปลกใหม่ให้เหล่านักเลงปลาตู้ได้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
จากนโยบายของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มอบหมายให้กรมประมงพัฒนาศักยภาพเกษตรกรไทยในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลกทั้งในเรื่องคุณภาพและมาตรฐานให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์และโครงการสำคัญภายใต้นโยบายพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและอุตสาหกรรมต่อเนื่องพ.ศ. 2564 -2570 เนื่องด้วยสัตว์น้ำสวยงามเป็นสินค้าที่มีแนวโน้มการขยายตัวของตลาดอย่างรวดเร็วอีกทั้งช่องทางการตลาดที่ไม่มีความยุ่งยาก ตลอดจนเกษตรกรไทยมีศักยภาพการผลิตสัตว์น้ำสวยงามที่โดดเด่น แปลกใหม่และมีคุณภาพมาตรฐานตามที่ผู้ซื้อต้องการ ทางกรมประมงได้กำหนดแผนส่งเสริมศักยภาพการผลิตของเกษตรกรอย่างต่อเนื่องด้วยการสร้างองค์ความรู้ใหม่ด้านการเพาะเลี้ยงเพื่อมุ่งเน้นการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่เกษตรกร เพื่อให้สามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาต่อยอดนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน อันจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจสัตว์น้ำสวยงามที่ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ด้วยการลดปริมาณการจับจากแหล่งน้ำธรรมชาติ
นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า “ปลาการ์ตูนโกลด์ครอสทันเดอร์” (Gold x thunder maroon) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Premnas biaculeatus เป็นปลาที่กรมประมงใช้วิธีการปรับปรุงพันธุ์ตามหลักพันธุศาสตร์ปลาสวยงามด้วยการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง ปลาการ์ตูนทองโกลด์นักเก็ตกับปลาการ์ตูนแดงทันเดอร์ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ไม่พบในธรรมชาติแต่เกิดขึ้นจากการปรับปรุงพันธุ์จากโรงเพาะฟัก โดยลูกพันธุ์ปลาที่ได้มีลักษณะลวดลายแปลกใหม่แตกต่างไปจากพ่อและแม่พันธุ์จึงเรียกลักษณะนี้ว่า “โกลด์ครอสทันเดอร์” โดยปลาสายพันธุ์นี้เป็นปลาที่ถูกพัฒนาสายพันธุ์เพื่อกระตุ้นศักยภาพการผลิตปลาสวยงามเท่านั้น กรมประมงไม่มีนโยบายปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติโดยเด็ดขาด
นายสามารถ เดชสถิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาและอนุรักษ์พันธุ์ปู ป่าทุ่งทะเลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดกระบี่ กล่าวเพิ่มเติมว่า เบื้องต้นได้ศึกษาวิจัยการเพาะพันธุ์ปลาการ์ตูนโกลด์ครอสทันเดอร์ ตั้งแต่ปี 2563 และในปีงบประมาณ 2565 โดยได้รับงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เพื่อศึกษาวิจัยตามหลักพันธุศาสตร์จนประสบความสำเร็จ ซึ่งความท้าทายของการเพาะพันธุ์ปลาสายพันธุ์นี้ คือ จำเป็นต้องศึกษาจนทราบรูปแบบการถ่ายทอดลักษณะโกลด์นักเก็ต และลักษณะแดงทันเดอร์ เพื่อให้ได้มาซึ่งปลาสายพันธุ์แท้ หรืออย่างน้อยต้องทราบลักษณะทางพันธุกรรมของปลาแต่ละตัว หลังจากนั้นจึงนำปลาที่มีลักษณะทั้ง 2มาผสมกันเพื่อให้ลักษณะทั้งสองปรากฏอยู่ด้วยกันและถ่ายทอดให้มีการแสดงลักษณะใหม่ออกมา ซึ่งจากการวิจัยพบว่า ลักษณะโกลด์ครอสทันเดอร์ เกิดจากปฏิกิริยาร่วมแบบสะสมของยีนต่างตำแหน่งระหว่างยีนควบคุมลักษณะตัวสีทองจากปลาการ์ตูนทองโกลด์นักเก็ตกับยีนควบคุมลักษณะลายพื้นขาวจากปลาการ์ตูนแดงทันเดอร์ ซึ่งปลานี้ได้เกิดขึ้นจากการผสมข้ามระหว่างสายพันธุ์ให้เกิดลักษณะแปลกใหม่ ไม่ได้เป็นการดัดแปลงพันธุกรรมแต่อย่างใด สำหรับปลาการ์ตูนโกลด์ครอสทันเดอร์ ลักษณะเด่นจะอยู่ที่ลักษณะรูพรุนและความพลิ้วไหวของลายสีขาวบนพื้นลำตัวสีแดงซึ่งแตกต่างไปจากปลาการ์ตูนทั่วไปที่เคยมี โดยที่มาของชื่อเกิดจากการรวมชื่อของสายพันธุ์พ่อและแม่ปลา
Gold = gold nugget maroon = ชื่อของปลาการ์ตูนแก้มหนามที่มีลักษณะลายตัวสีทอง
X = cross = การผสมข้าม
Thunder = thunder maroon = ชื่อของปลาการ์ตูนแก้มหนามที่มีลักษณะลายพื้นขาว
ปลาสายพันธุ์นี้มีชีววิทยาเหมือนปลาการ์ตูนแก้มหนามทั่วไป คือ ความยาวสูงสุดประมาณ 17 ซม. ปลาเพศผู้เจริญพันธุ์เมื่อมีอายุประมาณ 6 เดือน ในขณะที่เพศเมียเจริญพันธุ์เมื่อมีอายุประมาณ 18 เดือน โดยมีลักษณะเป็นปลากะเทย นั่นคือ ปลาเพศผู้สามารถเปลี่ยนเพศเป็นเพศเมียได้ แต่เพศเมียไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเพศผู้ได้ อายุขัยเฉลี่ยทั่วไปประมาณ 15 ปี ปัจจุบันปลาดังกล่าวเริ่มได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการและอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ต้นทุนเพื่อขอเสนอจำหน่ายกับสำนักงานเงินทุนหมุมเวียนของกรมประมง และมีแผนถ่ายทอดเทคนิควิธีการเพาะเลี้ยงไปยังเกษตรกร เพื่อให้สามารถเพาะเลี้ยงและจำหน่ายสู่ตลาดปลาทะเลสวยงามของไทยให้เกิดความหลากหลายต่อไปในอนาคต
อธิบดีฯ กล่าวในตอนท้ายว่า “ปลาการ์ตูนโกลด์ครอสทันเดอร์” นับเป็นปลาสวยงามอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ปรับปรุงพันธุ์ขึ้นมาจากโรงเพาะฟักสามารถเลี้ยงร่วมกับปลาทะเลสวยงามอื่น ๆ ในตู้ปลาได้ตามปกติ แต่ไม่ควรเลี้ยงร่วมกับปลาที่เป็นนักล่า และที่สำคัญปลาที่กรมประมงเพาะขยายพันธุ์ได้ทางนักวิชาการจะปรับพฤติกรรมการกินตั้งแต่ขั้นตอนอนุบาลให้สามารถกินอาหารเม็ดสำเร็จรูปได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้อาหารสดจึงสะดวกสำหรับผู้เลี้ยงมากยิ่งขึ้น ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งกระบี่ 141 ม.6 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ เบอร์โทรศัพท์ 075-662059-60
ที่มา กรมประมง