ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 1/2566 วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 โดยมีนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุม และมี รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการ ก.ค.ศ. เป็นเลขานุการการประชุม ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและมีมติที่สำคัญ ดังนี้
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ขอให้พิจารณารายละเอียดการดำเนินการเกี่ยวกับการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา ตามหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกฯ ว16/2565 เนื่องจากปัจจุบัน สพฐ. ไม่มีบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือกฯ ประกอบกับจะต้องนำตำแหน่งว่างมากำหนดสัดส่วนเพื่อใช้ในการรับย้ายและสำหรับการคัดเลือกเพื่อให้การบริหารงานบุคคลเป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพ และได้ผู้บริหารสถานศึกษามาทำหน้าที่ในการบริหารการศึกษาโดยเร็ว ก.ค.ศ. จึงเห็นควรให้มีการดำเนินการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา และผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัด สพฐ. ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ที่ ก.ค.ศ. กำหนด (ว 16/2565) โดยได้ปรับปรุงรายละเอียด การดำเนินการเกี่ยวกับการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งฯ ในส่วนของหลักสูตรการคัดเลือก ให้สอดคล้องกับมาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา (ว 10/2564) โดยมีรายละเอียดสาระสำคัญ ดังนี้
ภาค ก ความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานในหน้าที่ โดยปรับเนื้อหาการประเมินให้สอดคล้องกับลักษณะงานที่ปฏิบัติของตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา ตามมาตรฐานตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ว 3/2564) ซึ่งต้องมีการบูรณาการงานทั้ง 5 ด้าน ให้เชื่อมโยงและสอดคล้องกัน
ภาค ข ผลงาน ประเมินจากผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรฐานตำแหน่งที่มีผลใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน (ว 3/2564)
ภาค ค วิสัยทัศน์และแนวคิดในการบริหารจัดการสถานศึกษาในการที่จะปฏิบัติงานในตำแหน่งที่สมัครเข้ารับการคัดเลือก โดยกำหนดองค์ประกอบ/ตัวชี้วัด ประเด็นท้าทายเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ครู และสถานศึกษาที่แสดงให้เห็นถึงการปรับประยุกต์ แก้ไขปัญหา ริเริ่ม พัฒนา คิดค้น ปรับเปลี่ยน หรือสร้างการเปลี่ยนแปลงตามที่กำหนดไว้ในหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา (ว 10/2564)
(นายศักดิ์ ศศิกุลกมล สังกัดวิทยาลัยสารพัดช่าง สมุทรปราการ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา)
เพื่อให้การดำเนินการให้ได้มาซึ่ง อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สามารถดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่ง อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560ฯ ได้ภายในระยะเวลา 90 วัน ประกอบกับ ก.ค.ศ.ในคราวประชุมครั้งที่ 11/2565 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 ได้มีมติอนุมัติให้แต่งตั้ง อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเฉพาะกิจคัดเลือกบุคคลเพื่อเสนอ ก.ค.ศ. แต่งตั้งเป็นอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 3 คณะ
ซึ่งขณะนี้ อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเฉพาะกิจคัดเลือกบุคคล ทั้ง 3 คณะ รวมทั้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่ง อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ได้ดำเนินการพิจารณาบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งเป็นประธานอนุกรรมการ อนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ อนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา อนุกรรมการผู้แทน กศจ. อนุกรรมการนายอำเภอหรือผู้แทน อนุกรรมการผู้อำนวยการเขตหรือผู้แทน และอนุกรรมการผู้แทน ก.ค.ศ. ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จำนวน 183 เขต และ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา จำนวน 62 เขต รวมทั้งสิ้น 245 เขต เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ก.ค.ศ. จึงมีมติเห็นชอบรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกและแต่งตั้งบุคคลเป็นคณะอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จำนวน 183 เขต และ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา จำนวน 62 เขต รวมทั้งสิ้น 245 เขต โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป และมีเงื่อนไขว่าหากตรวจสอบภายหลังพบว่า ประธานอนุกรรมการหรืออนุกรรมการรายใด มีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม หรือมีกรณีใดกรณีหนึ่ง ที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด จะถูกเพิกถอนการดำรงตำแหน่งประธานอนุกรรมการหรืออนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ทั้งนี้ได้มอบหมายให้สำนักงาน ก.ค.ศ. ตรวจสอบความถูกต้องก่อนแจ้งให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป
ที่มา สำนักงาน ก.ค.ศ.