ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

"รัชชัยย์" ร่อนจดหมายถึงนายกฯ เรื่อง ปัญหาของร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.....


ข่าวการศึกษา 21 ม.ค. 2566 เวลา 09:24 น. เปิดอ่าน : 3,801 ครั้ง
"รัชชัยย์" ร่อนจดหมายถึงนายกฯ เรื่อง ปัญหาของร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.....

Advertisement

เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2566 เว็บไซต์ครูบ้านนอก.คอม ได้รับการเปิดเผยจาก ดร.รัชชัยย์ ศรสุวรรณ นายกสมาคมพิทักษ์สิทธิ์ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา (ส.พ.บ.ค.) ว่า ตนได้มีจดหมายเปิดผนึกถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ​​​​เรื่อง​ ปัญหาของร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ..... ​​​​​โดยมีเนื้อหา ดังนี้


​วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๖๖

เรื่อง​ ปัญหาของร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ..... ​​​​​
กราบเรียน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ​​​​​


ตามที่รัฐบาลได้เสนอร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ..... เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา และประกาศใช้เป้นกฎหมายต่อไป ความแจ้งแล้วนั้น
สมาคมพิทักษ์สิทธิ์ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา (ส.พ.บ.ค.) ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวทุกมาตราแล้วเห็นว่ารัฐบาลมีเจตนาดีที่จะขับเคลื่อนงานด้านการศึกษาให้มีความก้าวหน้าทัดเทียมนาๆอารยประเทศ จึงมีหลายประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองและผู้เรียนมาก อย่างไรก็ตามสมาคมได้ตรวจสอบร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นรายมาตราพบว่ามีสาระบางเรื่องที่ไม่ถูกต้องตามกระบวนการร่างกฎหมาย และสาระบางเรื่องหากมีการประกาศใช้จะมีผลกระทบต่อการจัดการศึกษาจนถึงขั้นอาจจะทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง ดังปรากฏรายละเอียดดังนี้

ข้อ ๑ มาตรา ๓ บัญญัติไว้มีสาระว่าให้ยกเลิกพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม

ข้อ ๒ มาตรา ๔ ได้กำหนดนิยามศัพท์ต่างๆ แต่ไม่ปรากฏนิยามศัพท์ของคำว่า  “ศึกษานิเทศก์” แต่มีการบัญญัติสาระที่เกี่ยวกับ ศึกษานิเทศก์ ไว้ในร่าง พ.ร.บ. นี้หลายมาตรา จึงทำให้ไม่สามารถรู้ได้ว่าศึกษานิเทศก์ นั้นหมายถึงใคร เช่นไร เพราะ คำว่า “ศึกษานิเทศก์”ถูกยกเลิกไปโดยมาตรา ๓ ​​​​​​​​ - “ผู้บริหารการศึกษา” แต่มีการบัญญัติ ไว้ในมาตรา ๓๙ วรรคท้าย ของร่าง พ.ร.บ. นี้ จึงทำให้ไม่สามารถรู้ได้ว่า “ผู้บริหารการศึกษา” นั้นหมายถึงใคร เช่นไร เพราะ คำว่า “ผู้บริหารการศึกษา”ถูกยกเลิกไปโดยมาตรา ๓

ข้อ ๓ ร่าง พ.ร.บ.นี้ น่าจะมีเจตนาในการยกเลิกเขตพื้นที่การศึกษา แต่กลับไม่ได้กำหนดทิศทางในการจัดการศึกษาที่จะเป็นแนวทางในการเขียนไว้ในกฎหมายลูก ซึ่งแตกต่างจาก พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ ที่กำหนดไว้ขัดเจนในเรื่อง “เขตพื้นที่การศึกษา”

​ข้อ ๔ มาตรา ๘ ในทุกอนุมาตรามาตรา ควรเขียนกำหนดให้เป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องดำเนินการ ตัวอย่างเช่นใน “ช่วงวัยที่ ๑ ตั้งแต่แรกเกิดจนมีอายุครบหนึ่งปี ต้อได้รับการเลี้ยงดูให้มีสุขภาพที่สมบูรณ์ การพัฒนาทางอารมณ์ และการกระตุ้นการรับรู้ทางประสาทสัมผัสให้สามารถเรียนรู้ในการช่วยเหลือตนเองและสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ตามวัย” จากข้อกฎหมายนี้เห็นได้ว่าเป็นการบังคับให้บิดามารดาหรืทอผู้ใช้อำนาจปกครองมีหน้าที่ต้องทำ ดังนั้นหากบิดามารคาดหรือผู้ใช้อำนาจปกครองไม่ได้ทำตามที่กฎหมายนี้บัญญัติไว้ ก็อาจจะได้รับโทษทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๗ ...เช่นนั้นหรือไม่​

ข้อ ๕ มาตรา ๑๔ (๕) บัญญัติว่า “ในการบริหารจัดการสถานศึกษาแต่และแห่งให้ผู้บริหารสถานศึกษารับฟังความคิดเห็นของครู นักเรียน ผู้ปกครอง และบุคลากรในสถานศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษา นั้นด้วย”​​​​​​​​​​ กรณีนี้ต้องมีความชัดเจนว่า “การบริหารสถานศึกษา”นั้นคืออะไรบ้างที่จะต้องปฏิบัติตามมาตรา นี้และบางเรื่องถ้าต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด งานก็ไม่สามารถเดินได้

​ข้อ ๖ มาตรา ๑๔ (๖) สถานศึกษาต้องมีทรัพยากรการเรียนรู้อันได้แก่อุปกรณ์ที่จำเป็น ครูและกำลังคนที่เพียงพอ..... ​​​​​​​​​​กรณีนี้เห็นว่าควรกำหนดให้เป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องดำเนินการ ​

ข้อ ๗ มาตรา ๑๔ (๙) เรื่องการควบรวมโรงเรียนนั้นได้กำหนดให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการนโยบาย ​​​​​​​​​ ​กรณีนี้เห็นว่าควรให้ท้องถิ่นมีส่วนรวมในการให้ข้อมูลและตัดสินใจ ​

ข้อ ๘ มาตรา ๑๕ (๑๑)บัญญัติว่า “ต้องมีมาตรการป้องกันมิให้หน่วยงานของรัฐ สั่งการหรือมอบหมายกิจกรรมหรือโครงการใดๆอันจะทำให้ครูไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่หลักได้เต็มกำลังความสามารถหรือทำให้ผู้เรียนไม่มีเวลาเพียงพอในการเรียน ​​​​​​กรณีนี้เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดียิ่ง อย่างไรก็ตามโรงเรียนของรัฐเกือบทุกแห่งอยู่ได้ด้วยการดูแลของวัด ชุมชน ท้องถิ่น หากโรงเรียนปฏิบัติตามมาตรานี้อย่างเคร่งครัด ก็จะอยู่ไม่ได้ แต่หากทำกิจกรรมใดที่เป็นการขัดหรือแย้งกับมาตรานี้ ผู้บริหารก็จะได้รับโทษตามวรรคท้ายของมาตรานี้ที่บัญญัติไว้มีสาระว่าหน่วยงานของรัฐใดไม่ปฏิบัติตามมาตรการตาม (๑๑) ให้ถือว่าหน่วยงานดังกล่าวละเว้นหรือจงใจไม่ปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.นี้ และให้ถือว่าเป็นความผิดทางวินัยด้วย ซึ่งเป็นการสร้างแรงกดดันให้กับผู้บริหารโรงเรียนอย่างยิ่ง

ข้อ ๙ มาตรา ๑๖ บัญญัติไว้มีสาระว่าให้กระทรวงศึกษาดำเนินการให้สถานศึกษาของเอกชน....จัดให้ครูได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน เงินหรือสิทธิ์ประโยชน์อื่นใดให้สอดคล้องกับครูของสถานศึกษาของรัฐ ​​​​​​​​​​​กรณีนี้เห็นว่าควรกำหนดให้มีกฎหมายลูกเขียนให้ชัด ว่าจะให้สิทธิประโยชน์แก่ครูสถานศึกษาเอกชน อะไร อย่างไรบ้าง ​

ข้อ ๑๐ มาตรา ๒๓ กำหนดให้คณะกรรมการสถานศึกษา รับผิดชอบต่อคุณภาพของสถานศึกษา กรณีนี้ขอเรียนถามว่าการให้คณะกรรมการสถานศึกษารับผิดชอบต่อคุณภาพของสถานศึกษา นั้น มีความเป็นไปได้แค่ไหนอย่างไร ​

ข้อ ๑๑ มาตรา ๓๐ กำหนดให้มีระเบียบว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุที่ใช้จากรายได้ของสถานศึกษาขึ้นเป็นการเฉพาะ สำหรับสถานศึกษา โดยระเบียบดังกล่าวต้องมีความยืดหยุ่น คล่องตัว โปร่งใสและก่อให้เกิดความเป็นอิสระแก่สถานศึกษา ​​​​​กรณีนี้ขอเรียนถามว่ากฎหมายข้อนี้ให้ใช้บังคับได้เฉพาะเงินรายได้สถานศึกษาเท่านั้นใช่หรือไม่ หากเป็นเงินอุดหนุนหรือเงินงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร จะได้ประโยชน์จากมาตรานี้หรือไม่

ข้อ ๑๒ คำว่า “อาจารย์” และ “บุคลากรทางการศึกษา”ในมาตรา ๓๒ มีความหมายว่าอย่างไร เพราะไม่ปรากฏคำนี้ในนิยามศัพท์

ข้อ ๑๓ “บุคลากรทางการศึกษา” ที่บัญญัติไว้ในมารตรา ๓๓ หมายถึงใคร อย่างไร เพราะไม่ปรากฏคำนี้ในนิยามศัพท์

ข้อ ๑๔ มาตรา ๓๔ บัญญัติว่าผู้ประกอบวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษา ต้องมีจิตวิญญาณความเป็นครู ​​​​​​​​​​ กรณีนี้เห็นว่าควรบัญญัติให้บุคลากรทางการศึกษาเป็นผู้ประกอบวิชาชีพชั้นสูง และมีสิทธิ์ประโยชน์ใดๆเท่ากับครู เพราะเป็นบุคคลที่จะต้องผ่านการเคี่ยวกรำทั้งความรู้ความสามารถและการถูกปลูกฝังจิตวิญญาณของความเป็นครู

ข้อ ๑๕ มาตรา ๓๕ วรรคสาม บัญญัติว่า “คณะกรรมการสถานศึกษาหรือคณะกรรมการกลุ่มสถานศึกษาต้องบริหารงานบุคคลตามกฎ....... กรณีนี้เห็นได้ว่าผู้ร่างฯมีเจตนาให้กรรมการสถานศึกษามีอำนาจหน้าที่ในการบริหารงานบุคคลซึ่งหมายถึงข้าราชการครูในสถานศึกษานั้นๆ.....​​​กรณีนี้สมาคมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่ให้อำนาจกรรมการสถานศึกษาเป็นผู้มีหน้าที่ในการบริหารงานบุคคลในสถานศึกษา เพราะจะเกิดปัญหาความขัดแย้งอย่างรุนแรงในสถานศึกษาโดยจะทำให้หัวหน้าสถานศึกษาไม่สามารถบริหารงานได้เนื่องจากมีองค์กรอื่นซ้อนอยู่เปรียบเสมือนภาษิตที่เรียกว่า “ข้าหลายเจ้า บ่าวหลายนาย” และอาจเกิดปัญหาบุคคลในองค์กรไม่ฟังผู้บริหารสถานศึกษาแต่ไปเกาะเกี่ยวกับกรรมการสถานศึกษา มาตรานี้เป็นมาตราที่จะสร้างความเสียหายให้กับกระบวนการจัดการศึกษามากที่สุด ที่สำคัญคือไม่เคยปรากฏว่าหน่วยงานอื่นหรือกระทรวงอื่นได้ดำเนินการเยี่ยงนี้หรือไม่

​ข้อ ๑๖ มาตรา ๓๙ วรรคท้าย ได้บัญญัติไว้มีคำสำคัญว่า “ผู้บริหารการศึกษา” ซึ่งไม่สามารถทราบได้ว่าหมายถึงผู้ใดเพราะไม่ปรากฏในนิยามศัพท์ตามมาตรา ๔

​ข้อ ๑๗ มาตรา ๔๐ วรรคสี่ บัญญัติมีสาระสำคัญว่าให้คณะกรรมการสถานศึกษาสรรหาผู้บริหารสถานศึกษา ให้แก่สถานศึกษาเพื่อเสนอให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งตามกฎ ข้อบังคับฯลฯ และมติที่องค์กรกลางบริหารงานบุคคลกำหนด ​​​​​​​​กรณีนี้สมาคมขอเรียนถามว่าแนวคิดเรื่องการให้คณะบุคคลภายนอกเป็นผู้มีอำนาจแต่งตั้งข้าราชการระดับผู้บริหาร เช่นนี้ มีหน่วยงานใด องค์กรใดเคยนำไปใช้แล้วประสบความสำเร็จบ้าง ถ้าแนวคิดนี้เหมาะสมและเกิดประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองอย่างยิ่ง ก็ต้องนำไปใช้ในเรื่องการคัดเลือกนายอำเภอ คัดเลือกสรรพากรอำเภอ คัดเลือกผู้กำกับการสถานีตำรวจ คัดเลือก ผู้บังคับการทหารบกจังหวัดต่างๆ แนวคิดในเรื่องการให้คณะกรรมการสถานศึกษา สรรหา คัดเลือกผู้อำนวยการสถานศึกษา หากผ่านไปได้จะสร้างความเสียหายให้กับวงการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง​​

ข้อ ๑๘ มาตรา ๗๔ วรรคสี่ บัญญัติให้มีศึกษานิเทศก์ ในกระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่นของรัฐที่จัดการศึกษา ​​​​​​​กรณีนี้ขอเรียนถามว่า “ศึกษานิเทศก์”หมายถึงใคร อะไร เพราะมาตรา ๔ ไม่ได้นิยามศัพท์คำว่า “ศึกษานิเทศก์” ไว้​

ข้อ ๑๙ มาตรา ๘๘ บัญญัติให้มีคณะกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานมีอำนาจหน้าที่ที่สำคัญในเรื่องการขับเคลื่อนงานด้านการศึกษาในระดับประเทศ โดยมีภารกิจตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๙๓ ถึง ๑๐ ข้อ ทั้งนี้คณะกรรมการโดยตำแหน่งประกอบด้วยปลัดกระทรวงทุกกระทรวง​​​​​​​​​กรณีนี้ขอเรียนว่าองค์ประกอบของคณะกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติ ที่จะมาทำหน้าที่ขับเคลื่อนงานด้านการศึกษา นั้น ประกอบด้วยผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจและมีประสบการณ์งานด้านการศึกษาเพียงคนเดียวเท่านั้นคือปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ที่เหลือคือบุคคลวิชาชีพอื่น จึงสรุปได้ว่าคณะกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติ ประกอบด้วยผู้ไม่มีความรู้ด้านการจัดการศึกษา ไม่มีประสบการณ์ด้านการจัดการศึกษา ไม่ได้ผ่านการศึกษาหรือมีคุณวุฒิทางการศึกษา ยกเว้นปลัดกระทรวงศึกษาธิการเพียงรายเดียว เท่านั้น ดังนั้นหากนำแนวคิดนี้ไปใช้ในการบริหารกองทัพโดยให้มีบอร์ดกองทัพที่มีบุคคลที่ประกอบวิชาชีพทหารเพียงคนเดียว บอร์ดที่เหลือไม่ได้เป็นทหาร อย่างนี้กองทัพจะมีความเข้มแข็งและมีพัฒนาการหรือไม่​

ข้อ ๒๐ มาตรา ๑๐๕ วรรคแรก บัญญัติไว้เป็นสาระสำคัญว่า “ในวาระเริ่มแรกไม่เกินห้าปี ให้สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทำหน้าที่เป็นสถาบันพัฒนาหลักสูตรและการเรียนรู้” และ วรรคสามบัญญัติไว้ว่า “ในห้วงเวลาไม่เกินห้าปีให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาว่าสมควรจะจัดตั้งสถาบันพัฒนาหลักสูตรและการเรียนรู้ หรือไม่ หากเห็นว่าไม่สมควรจัดตั้งก็ให้สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำหน้าที่เป็นสถาบันพัฒนาหลักสูตรและการเรียนรู้ ​​​กรณีนี้ขอเรียนว่าหลักสูตรและการเรียนรู้ นั้นเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการจัดการศึกษาที่ครูต้องนำไปใช้เป็นแนวทาง แต่กลับให้สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นผู้ดำเนินการทั้งๆที่สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นั้นมีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในเรื่องหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ วิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เท่านั้น

ข้อ ๒๑ มีการบัญญัติให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้บังคับบัญชาของข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ (มาตรา ๑๐๖) ​​​​​​​​กรณีนี้เชื่อได้ว่าเป็นการบัญญัติไว้เพื่อเตรียมการในการมอบอำนาจให้ศึกษาธิการจังหวัดเป็นผู้บังคับบัญชาครูในแต่ละจังหวัด เป็นการฟื้นคืนคำสั่ง คสช.ฉบับที่ ๑๙/๒๕๖๐ กลับคืนมา บริหารจัดการแบบควบรวมอำนาจเข้าสู่ส่วนกลาง (Single Command) เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง​

​จากร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฯฉบับนี้ เห็นได้ว่าปัญหาใหญ่ที่สุดคือมีการให้อำนาจกรรมการสถานศึกษามากมายซี่งสุ่มเสี่ยงอย่างยิ่งในการทำให้การจัดการศึกษาล้มเหลวเพราะเป็นการมอบอนาคตทางการศึกษาไปอยู่ในมือของกรรมการสถานศึกษาซึ่งเป็นผู้ที่ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการจัดการศึกษา ไม่ได้มีเวลาในการจัดการศึกษา ไม่มีทักษะและประสบการณ์ในการจัดการศึกษา และหากได้คนไม่ดีเข้ามาเป็นกรรมการสถานศึกษาก็จะทำให้เกิดการทุจริตในวงการศึกษาที่ไม่อาจควบคุมได้

จากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายดังกล่าวที่นำเรียนข้างต้น จึงขอความเมตตาจากนายกรัฐมนตรีขอได้โปรดดำเนินการให้มีการถอนร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฯ ฉบับนี้ออกไปปรับปรุงเพื่อให้เป็นกฎหมายการศึกษาที่มุ่งในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างแท้จริง เสียก่อนแล้วจึงนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ต่อไป อันจะเป็นคุณูปการต่อการศึกษาของชาติบ้านเมืองสืบต่อไป

​จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

ขอแสดงความนับถืออย่างยิ่ง

​​​​นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณนายกสมาคม
โทรท ๐๘๓-๒๖๕๒๖๙๓

 

 

 


"รัชชัยย์" ร่อนจดหมายถึงนายกฯ เรื่อง ปัญหาของร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.....รัชชัยย์ร่อนจดหมายถึงนายกฯเรื่องปัญหาของร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติพ.ศ.....

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ว 16/2567 แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการย้ายสับเปลี่ยนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

ว 16/2567 แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการย้ายสับเปลี่ยนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

เปิดอ่าน 1,414 ☕ 28 มิ.ย. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ผ่านการประเมินรับตราพระราชทาน "บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย" ปีการศึกษา 2566
ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ผ่านการประเมินรับตราพระราชทาน "บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย" ปีการศึกษา 2566
เปิดอ่าน 14,457 ☕ 28 มิ.ย. 2567

ว 15/2567 การแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัด สพฐ.
ว 15/2567 การแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัด สพฐ.
เปิดอ่าน 2,400 ☕ 28 มิ.ย. 2567

มาตรการป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำน้ำเย็น
มาตรการป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำน้ำเย็น
เปิดอ่าน 428 ☕ 28 มิ.ย. 2567

ด่วน สอศ. เปิดรับสมัครสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย 423 อัตรา 56 กลุ่มวิชา รับสมัคร 9-15 กรกฎาคม 2567
ด่วน สอศ. เปิดรับสมัครสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย 423 อัตรา 56 กลุ่มวิชา รับสมัคร 9-15 กรกฎาคม 2567
เปิดอ่าน 3,654 ☕ 28 มิ.ย. 2567

ว 16/2567 แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการย้ายสับเปลี่ยนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
ว 16/2567 แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการย้ายสับเปลี่ยนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
เปิดอ่าน 1,414 ☕ 28 มิ.ย. 2567

การกำหนดคุณวุฒิที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการสอน รวมทั้งส่งเสริมการเรียนรู้
การกำหนดคุณวุฒิที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการสอน รวมทั้งส่งเสริมการเรียนรู้
เปิดอ่าน 858 ☕ 26 มิ.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ระบบประกันคุณภาพทางการศึกษา ถึงเวลาทบทวนวิธีการแล้วหรือยัง?
ระบบประกันคุณภาพทางการศึกษา ถึงเวลาทบทวนวิธีการแล้วหรือยัง?
เปิดอ่าน 8,839 ครั้ง

“เลี้ยงลูกยิ่งใหญ่" ของขวัญปีใหม่ของพ่อแม่
“เลี้ยงลูกยิ่งใหญ่" ของขวัญปีใหม่ของพ่อแม่
เปิดอ่าน 13,143 ครั้ง

รูปแบบการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กที่ได้ผล
รูปแบบการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กที่ได้ผล
เปิดอ่าน 81,822 ครั้ง

อำลาโทรเลขไทย 133 ปี
อำลาโทรเลขไทย 133 ปี
เปิดอ่าน 17,780 ครั้ง

แฉช่องโหว่ Windows 7
แฉช่องโหว่ Windows 7
เปิดอ่าน 15,361 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ