วันที่ 14 ธันวาคม 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้หนี้ภาคครัว โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ซึ่งนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความห่วงใยเป็นอย่างมาก ในช่วงสถานการณ์โควิด19 ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้เป็นหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ซึ่งทางกยศ.ได้กำหนดมาตรการในการช่วยเหลือ อาทิ การลดเบี้ยปรับ การลดเงินต้น รวมถึงได้ดำเนินการอื่นๆ เช่น ยกเลิกการกำหนดให้มีผู้ค้ำประกัน ชะลอการฟ้องร้องคดี งดการขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้กู้ยืมเงินและหรือผู้ค้ำประกัน
ล่าสุด กยศ. ขยายระยะเวลามาตรการลดหย่อนหนี้อีก 6 เดือน จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 65 ออกไปเป็นสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 66 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2566 ให้กับผู้กู้ยืมเงินกองทุน รวมถึงช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงินที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจได้มีทางเลือกในการผ่อนชำระมากขึ้น สำหรับมาตรการลดหย่อนหนี้ มีดังนี้
1.ลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากเดิม 1% ต่อปี เป็น 0.01% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้
2.ลดเงินต้น 5% สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้และต้องการปิดบัญชีในคราวเดียว
3.ลดเบี้ยปรับ 80% สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ หรือไม่ค้างชำระ
4.ลดอัตราการคิดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
5.ลดเบี้ยปรับ 100% สำหรับผู้กู้ยืมเงินทุกกลุ่มที่ชำระหนี้ปิดบัญชี
ผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี สามารถชำระได้ที่ธนาคารกรุงไทยและธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา ส่วนผู้กู้ยืมเงินที่ถูกดำเนินคดีแล้ว ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิและนัดหมายวันที่ประสงค์จะชำระหนี้ปิดบัญชีได้ที่ https://www.studentloan.or.th/promotion โดยผู้กู้ยืมเงินต้องชำระค่าทนายความและค่าฤชาธรรมเนียมศาลให้เสร็จสิ้นก่อนปิดบัญชี
ทั้งนี้ ผู้กู้ยืมเงินสามารถดูรายละเอียดช่องทางการชำระหนี้เพื่อรับสิทธิตามมาตรการดังกล่าวได้ที่ www.studentloan.or.th โดยตรวจสอบยอดชำระได้ที่แอปพลิเคชั่น กยศ. Connect หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ไลน์บัญชีทางการ กยศ. หรือโทร. 0-2016-4888
ที่มา เว็บไซต์รัฐบาลไทย