วันที่ 2 ธันวาคม 2565 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศึกษาธิการ)กล่าวตอนหนึ่งในการ เป็นประธานในการแถลงข่าว การนำหนังสือพระราชทาน “จิตตนคร นครหลวงของโลก” และ “สัมมาทิฏฐิฯ” ไปจัดการเรียนรู้ในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยมี ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ. พร้อมด้วย พระธรรมศากยวงศ์วิสุทธิ์ (อนิลมาน ธมุมสากิโย) อธิการบดีกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งโลก รวมถึงผู้บริหารจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ศึกษานิเทศก์ ผู้บริหารโรงเรียน และคุณครู เข้าร่วม ว่า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้จัดพิมพ์หนังสือ เรื่อง “จิตตนคร นครหลวงของโลก” และ “สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ” ซึ่งเป็นหนังสือพระนิพนธ์ในสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร (เจริญ สุวฑฒโน) เพื่อพระราชทานแก่พสกนิกรทั่วไป ในโอกาสนี้ สถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับพระราชทานหนังสือทั้งสองเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่ง ศธ. ขอน้อมนำรับสนองพระราชดำริให้เด็ก เยาวชน ครู และผู้บริหารสถานศึกษา ได้ศึกษาและนำไปจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะการจัดประสบการณ์ในลักษณะ Active Learning รวมถึงการนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษา 4 ประการ มาเป็นเป้าประสงค์ในแต่ละกิจกรรมด้วย คือเริ่มจากการมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม มีงานทำมีอาชีพ และเป็นพลเมืองที่ดี และทรงมีพระวิสัยทัศน์ให้นำหนังสือทั้งสองเล่ม ไปจัดกิจกรรมการเรียนรู้และส่งเสริมการอ่าน ให้ผู้เรียนได้ศึกษาเข้าใจหลักธรรม เพื่อพัฒนาการศึกษาและพัฒนาตนเองให้มีความยั่งยืนสมบูรณ์พร้อม เพราะมีความรู้ควบคู่ธรรมะประจำตน ดังที่ทรงได้กล่าวถึงพระวิสัยทัศน์แห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส ซึ่งทรงเป็นกำลังอันสำคัญยิ่งในการพัฒนาการศึกษาของไทย โดยทรงเริ่มพัฒนาคน คือประชาชน ให้มีการศึกษาอย่างทั่วถึงเป็นอันดับแรก
.“กระทรวงศึกษาธิการ ตระหนักถึงปัญหาและความจำเป็นยิ่งยวด ที่ต้องเร่งแก้ไขคลี่คลายให้ลุล่วงโดยเร็วที่สุด เนื่องเพราะสภาพปัญหาปัจจุบันที่รุมเร้าลุกลาม การกระทบกระทั่ง ความขัดแย้งรุนแรง การละเมิดกฎหมาย การเอารัดเอาเปรียบ ทั้งจากผู้ใหญ่ เด็กเยาวชนเป็นผู้กระทำ หรือเป็นผู้ถูกกระทำ ในหลายลักษณะและหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อให้เกิดความเสียหาย เศร้าสลดใจ มีความรุนแรงให้พบเห็นมากขึ้น การนำหลักธรรมในหนังสือพระราชทานทั้งสองเล่มนี้ ไปต่อยอดการจัดการศึกษา จึงเป็นกุญแจสำคัญ ให้ผู้ที่ศึกษาได้เรียนรู้ เข้าใจ และกล่อมเกลาความคิดอ่านเชิงวิเคราะห์ โดยเฉพาะการนำศีลธรรมมาเป็นตัวชี้นำการดำเนินชีวิต สามารถปรับตัวพัฒนาตนเองตามสิทธิเสรีภาพของบุคคล และเป็นพลเมืองที่ดีของสังคมประเทศชาติ และสังคมโลกตลอดไป” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
พระธรรมศากยวงศ์วิสุทธิ์ กล่าวว่า การจัดการศึกษาไม่ใช่จัดให้เด็กมีความรู้เพียงด้านเดียวเท่านั้น แต่จะสอนอย่างไรให้เป็นผู้เป็นคน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร(รัชกาล9)กับสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชในขณะนั้นว่า จะทำอย่างไรเด็กจึงจะมีคุณภาพในแง่ของความคิดความอ่าน ไม่ใช่สอนธรรมมะจนเด็กปฏิเสธความเข้าใจ แล้วโยงเป็นเรื่องของศาสนา ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชบอกว่าเป็นหน้าที่การสอนของศธ.แต่รัชกาลที่9 รับสั่งว่าเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่ต้องช่วยกัน ไม่ใช่โยนภาระให้ศธ.ซึ่งเป็นพระราชดำรัสเพื่อให้ทุกคนที่เป็นคนไทยตระหนัก ว่าจะต้องช่วยกันสร้างประเทศชาติ สร้างประชากร ให้เป็นประชากรคุณภาพ
“ในหลวงรัชกาลที่10 ทรงรับสั่งถึงเรื่องวิชาว่าด้วยจรรยา ว่าเป็นเรื่องความประพฤติและวิธีการคิด ซึ่งวิ่งสำคัญ คือ จะสอนอย่างไรให้เด็กได้เรียนรู้ที่ไม่ใช่แค่ตัวหนังสือ และท่องจำ ซึ่งพระองค์รับสั่งชัดเจนว่าถ้าเรามีแต่ความรู้ล้วน ๆ เหล่านั้นจะนำไปสู่การทุจริต เพราะฉะนั้นความรู้ทุกอย่างในโลกต้องมีหางเสือ นี่คือวิชาจรรยา ไม่ใช่วิชาศาสนา แต่เป็นวิชาที่สามารถทำให้การนำความรู้มาสร้างให้เป็นประโยชน์ แต่ตน สังคม และประเทศชาติ ซึ่งเป็นที่มาของหนังสือทั้ง2เล่ม ที่พระองค์ทรงศึกษา และมีพระราชดำรัสว่า น่าจะนำมาเป็นคู่มือ ใช้สอนลูกหลานในปัจจุบันที่แวดล้อมไปด้วยกิเลสมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบการศึกษา ระบบธุรกิจ และการสังคม ซึ่งมีปัญหามากมาย ในการครองตนและดูแลตัวเอง นับเป็นพระราชปรารถนาดีที่มีต่อเด็กและเยาวชนของไทย
ดร.อัมพร กล่าวว่า กล่าวว่า ตามที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานหนังสือ “จิตตนคร นครหลวงของโลก” และหนังสือ “สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ ” จำนวน 4,000 ชุด รวมถึงไฟล์การ์ตูนแอนิเมชัน เมืองนิรมิตรแห่งจิตตนคร และ สัมมาทิฏฐิ ทะลุมิติมายา ให้กับสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในโอกาสนี้ สพฐ. ขอน้อมรับพระราชดำริไปพัฒนาในการจัดการศึกษาโดยเฉพาะแก่นสาระจากหนังสือพระนิพนธ์ทั้งสองเรื่อง ไปจัดทำกิจกรรมการเรียนการสอน เกี่ยวกับการบริหารจิตการเจริญปัญญา อาทิ การทำสมาธิเพื่อความปกติสุขในวิถีชีวิตใหม่ การใช้สติปัฏฐานในการพัฒนาการศึกษาและพัฒนาตนเอง ปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจมีความคิดถูกต้อง และนำไปปฏิบัติในสิ่งที่ดีงาม และเหมาะสมกับบริบทต่าง ๆ ในสังคมปัจจุบัน ซึ่ง สพฐ. ได้จัดส่งหนังสือให้โรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนในระดับมัธยมศึกษา ตั้งแต่เดือนสิงหาคม และส่งไฟล์การ์ตูนแอนิเมชันให้โรงเรียนในเดือนกันยายน 2565 แล้ว
“สพฐ.ได้สั่งการให้ผู้บริหารโรงเรียนและคุณครู ได้ศึกษาหนังสือและการ์ตูนแอนิเมชัน และหาวิธีการเพื่อส่งเสริมให้กับนักเรียนได้ดู ได้อ่าน ได้ศึกษาทำความเข้าใจ และนำความรู้ไปฝึกปฏิบัติตนในชีวิตประจำวัน โดยเนื้อหาในหนังสือทั้งสองเรื่อง เป็นเนื้อหาที่กำหนดให้เรียนอยู่แล้วในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ดังนั้น ครูสามารถนำเนื้อหาไปจัดกิจกรรมการเรียนรู้ หรือจัดประสบการณ์ให้กับนักเรียนได้หลายวิธีการ ทั้งการสอนตามตัวชี้วัดของกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม การสอดแทรกและ/หรือบูรณาการในรายวิชาพื้นฐานและรายวิชาเพิ่มเติมต่าง ๆ ของหลักสูตรสถานศึกษา ในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ในลักษณะชุมนุม/ชมรม จัดเสริมเป็นกิจกรรมนอกเวลาเรียน หรือจัดเป็นกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและจัดบริการการอ่านไว้ในห้องสมุดได้”เลขาธิการ กพฐ.กล่าวและว่า ทั้งนี้ การนำหนังสือ “จิตตนคร นครหลวงของโลก” และหนังสือ “สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ ” ไปใช้ ไม่ได้กำหนดให้โรงเรียนต้องจัดในวิธีการใดเป็นการเฉพาะ โรงเรียนสามารถเลือกใช้วิธีการใดก็ได้ที่กล่าวไว้ หรือวิธีการอื่นใดที่เห็นว่าเหมาะสมกับสภาพบริบทของโรงเรียน ครู และนักเรียน ซึ่งการจะทำให้ประสบผลสำเร็จได้ ขอให้ผู้บริหารโรงเรียนและครูทุกคนร่วมมือและช่วยกัน และขอให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้กำกับ ติดตาม ส่งเสริม และสนับสนุนให้โรงเรียนดำเนินการและรายงานให้ สพฐ. ทราบด้วย
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก FOCUSNEWS วันที่ 2 ธันวาคม 2565