ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

"ตรีนุช" แจงแยกวิชาประวัติศาสตร์ไม่ได้เพิ่มชั่วโมงเรียน


ข่าวการศึกษา 28 พ.ย. 2565 เวลา 17:28 น. เปิดอ่าน : 2,437 ครั้ง
Advertisement

"ตรีนุช" แจงแยกวิชาประวัติศาสตร์ไม่ได้เพิ่มชั่วโมงเรียน

Advertisement

รมว.ศึกษาธิการ แจง การแยกวิชาประวัติศาสตร์ไม่ได้เป็นการเพิ่มชั่วโมงเรียน แต่ต้องการปรับการเรียนรู้ให้ทันสมัย ปลุกเด็กไทยภูมิใจประวัติศาสตร์ชาติ

เมื่อวันที่ 28 พ.ย. น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ว่า  ที่ประชุมได้หารือถึงการแยกรายวิชาพื้นฐานประวัติศาสตร์ออกมาเป็น 1 รายวิชาอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะอยู่ในร่างประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การบริหารจัดการโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และ 1 รายวิชาพื้นฐานประวัติศาสตร์ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พร้อมกับพิจารณาแนวทางขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง ปีงบประมาณ 2566 เพื่อเป็นแนวทางให้ต้นสังกัดของสถานศึกษา และสถานศึกษาสามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ประชุมมีการทบทวนว่าเมื่อแยกวิชาประวัติศาสตร์ออกมาแล้วเกิดประโยชน์อย่างไร และส่งผลกระทบด้านอื่นๆหรือไม่

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการแยกรายวิชาพื้นฐานประวัติศาสตร์ออกมาเป็น 1 รายวิชานั้น จะไม่สร้างความยุ่งยากในการจัดการเรียนการสอน หรือสร้างภาระงานให้แก่ครูหรือนักเรียน เพราะเราต้องการให้การเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ไม่ใช่แค่การสู้รบของประเทศไทยในอดีตเท่านั้น แต่การเรียนประวัติศาสตร์มีอย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ท้องถิ่นหรือแม้กระทั่งประวัติศาสตร์โลก ซึ่งการเรียนประวัติศาสตร์แบบท่องจำเหมือนที่ผ่านมาอาจไม่ใช่คำตอบของการทำให้เด็กและเยาวชนไทยได้มีความภาคภูมิใจในความเป็นชาติเท่าที่ควร ดังนั้นโรงเรียนจะต้องมุ่งเน้นให้เด็กรุ่นใหม่ตื่นตัวกับการเรียนประวัติศาสตร์รูปแบบใหม่มากขึ้น เช่น การใช้พิพิธภัณฑ์เป็นสื่อ การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นและต่อยอดประวัติศาสตร์สู่งานอาชีพ การบูรณาการประวัติศาสตร์กับรายวิชาอื่น และการศึกษานอกสถานที่และแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ เป็นต้น

“การแยกวิชาประวัติศาสตร์ออกมาไม่ได้เป็นการบังคับให้เด็กรับชาติ แต่ต้องการปรับการเรียนประวัติศาสตร์ของเด็กให้มีความทันสมัยและน่าสนใจเท่านั้น ซึ่งไม่ได้เป็นการเพิ่มชั่วโมงเรียน และไม่ได้กระทบกับงบประมาณ แต่เป็นการออกแบบโครงสร้างการเรียนใหม่ โดยเด็กจะเรียนเท่าเดิม แต่เน้นการศึกษาประวัติศาสตร์ เพื่อเชื่อมอดีตสู่อนาคตในมิติเศรษฐกิจสังคมและหน้าที่พลเมือง อย่างไรก็ตามจากนี้ไปการดำเนินการเรื่องนี้จะต้องย้ำการอบรมและพัฒนาครูเกี่ยวกับการสอนประวัติศาสตร์ให้มากขึ้น รวมถึงการบรรจุครูใหม่จะต้องมีครูเอกประวัติศาสตร์ โดยจะมอบ ก.ค.ศ.เกลี่ยอัตราโครงสร้างการบรรจุครูประวัติศาสตร์ด้วย” รมว.ศธ. กล่าว.

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 

Advertisement

“ตรีนุช-บัณฑิต-อัมพร”แจงแยกวิชาประวัติศาสตร์ต้องการให้เด็กรู้กระบวนการคิดของบรรพบุรุษเพื่อนำไปสู่กระบวนการคิดในอนาคต ไม่ใช่ท่องจำ

เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2565 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(บอร์ด.กพฐ.)ทั้งนี้ได้ให้สัมภาษณ์ กรณีออกประกาศ ศธ.ให้แยกวิชาพื้นฐานประวัติศาสตร์ออกจากกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญเรื่องประวัติศาสตร์ อยากให้ทุกคนตระหนักรู้ ให้รักชาติความภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทย ซึ่งวันนี้ตนได้มอบหมายให้บอร์ด กพฐ.ไปพิจารณาเห็นชอบการแยกวิชาประวัติศาสตร์ออกมาเป็นวิชาอีกรายวิชาหนึ่ง จากปกติที่เรามี 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่เหนือกว่านั้นก็คือ ตนต้องการทราบว่าเด็กได้อะไรจากการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ ซึ่งการเรียนแบบท่องจำอาจไม่ใช่คำตอบของการทำให้เรามีความภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทย ดังนั้นเพื่อให้เด็กมีความตื่นตัวและเข้าใจบรรพบุรุษที่ได้เสียสละ เขามีกระบวนการคิดและผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาได้อย่างไร ทำอย่างไรจะให้ครูมีความสามารถให้เด็กสนุกกับการเรียนประวัติศาสตร์ ไม่ใช่เน้นเรื่องการท่องจำอย่างเดียว ซึ่งเราจะต้องนำกระบวนการเรียนรู้แบบ Active Learning มาใช้ มีกระบวนการคิดวิเคราะห์ด้วยตัวเอง

“ดิฉันคิดว่า วิชาประวัติศาสตร์ เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาชาติ เพราะเราได้เรียนรู้กระบวนการคิดของบรรพบุรุษ ว่าเขามีกระบวนการคิดอย่างไรถึงนำชาติไทยผ่านวิกฤตเหล่านั้นมาได้ ซึ่งในอนาคตจะต้องมีการอบรมพัฒนาครูสอนประวัติศาสตร์ให้มีความเข้าใจเรื่องนี้ด้วย รวมถึงต้องหารือคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.)ในการพิจารณาบรรจุครูสอนวิชาประวัติศาสตร์ด้วย ”รมว.ศึกษาธิการ

ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)กล่าวว่า การแยกวิชาประวัติศาสตร์ออกมาจากกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จะไม่กระทบต่องบประมาณใด ๆ ทั้งสิ้น และจะไม่มีการพิมพ์หนังสือระเบียนแสดงผลการเรียน(ปพ.1) เพราะในวิชาสังคมศึกษามี 4 กลุ่มวิชาอยู่แล้ว และหนึ่งในนั้นก็มีวิชาประวัติศาสตร์รวมอยู่ด้วย ซึ่งในเชิงธุรการจะไม่มีการแก้ไขอะไร ขณะเดียวกันก็จะไม่เพิ่มเวลาเรียน เพียงแต่เราอยากออกแบบโครงสร้างการเรียนใหม่เท่านั้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร และในการผลิตครูก็จะได้ผลิตครูประวัติศาสตร์โดยตรงด้วย

ด้าน ศ.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.)กล่าวว่า การแยกวิชาประวัติศาสตร์ออกมาครั้งนี้เราต้องการเน้นการศึกษาประวัติศาสตร์ เพราะประวัติศาสตร์เป็นการเชื่อมโยงอดีตสู่อนาคต เชื่อมโยงทั้งมิติการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม หน้าที่พลเมือง ซึ่งเป็นตัวที่จะช่วยการเชื่อมโยงหน้าที่และการพัฒนาสังคม แทนที่จะเรียนแบบทั่วไป แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะเรียนรู้ถึงความทุ่มเทเสียสละในอดีตที่ผ่านมา แนวคิดต่าง ๆ ในการสร้างชาติ พัฒนาเศรษฐกิจสังคม และการปกครองเป็นอย่างไร เพื่อนำไปสู่กระบวนการคิดที่เหมาะสม ไม่ใช่การเรียนแบบท่องจำ เป็นต้น

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก FOCUSNEWS วันที่ 28 พฤศจิกายน 2565


"ตรีนุช" แจงแยกวิชาประวัติศาสตร์ไม่ได้เพิ่มชั่วโมงเรียนตรีนุชแจงแยกวิชาประวัติศาสตร์ไม่ได้เพิ่มชั่วโมงเรียน

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

Advertisement


:: เรื่องปักหมุด ::

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 9 ราย เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 9 ราย เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567

เปิดอ่าน 4,767 ☕ 8 ต.ค. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม"  ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม" ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
เปิดอ่าน 493 ☕ 19 พ.ย. 2567

คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
เปิดอ่าน 666 ☕ 15 พ.ย. 2567

"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
เปิดอ่าน 760 ☕ 15 พ.ย. 2567

ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
เปิดอ่าน 3,354 ☕ 13 พ.ย. 2567

ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกระดับชาติเพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ประจำปี 2567
ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกระดับชาติเพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ประจำปี 2567
เปิดอ่าน 2,051 ☕ 13 พ.ย. 2567

สพฐ.แจ้งแนวทางการอนุญาตให้บุคลากรในสังกัดทำหน้าที่ผู้ประเมินคุณภาพภายนอก
สพฐ.แจ้งแนวทางการอนุญาตให้บุคลากรในสังกัดทำหน้าที่ผู้ประเมินคุณภาพภายนอก
เปิดอ่าน 948 ☕ 13 พ.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เกมส์
เกมส์
เปิดอ่าน 19,489 ครั้ง

เรื่องน่ารู้ของ "ขิงป่า"
เรื่องน่ารู้ของ "ขิงป่า"
เปิดอ่าน 23,369 ครั้ง

เปลือกไข่ช่วยให้ผ้าขาว
เปลือกไข่ช่วยให้ผ้าขาว
เปิดอ่าน 17,951 ครั้ง

ไม่กินข้าวเช้า เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน
ไม่กินข้าวเช้า เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน
เปิดอ่าน 13,904 ครั้ง

ผู้ประดิษฐ์คิดค้น"กล่องดำ"เสียชีวิตแล้ว
ผู้ประดิษฐ์คิดค้น"กล่องดำ"เสียชีวิตแล้ว
เปิดอ่าน 14,861 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ