เมื่อวันที่ 31 ต.ค. น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตามที่เครือข่ายภาคประชาสังคมแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้นำตัวแทนครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวนกว่า 10 ราย เข้าพบตนเมื่อเร็ว ๆ นี้ เพื่อติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา และมีข้อเสนอแนะว่าสถานีแก้หนี้ครูของแต่ละเขตพื้นที่ไม่ได้เป็นการแก้หนี้ครูอย่างแท้จริงเป็นการแก้ปัญหาทิพย์นั้น ในประเด็นนี้ตนไม่อยากให้คิดเช่นนั้น เพราะสถานีแก้หนี้ครูในหลายพื้นที่สามารถจัดการแก้หนี้ครูได้จริง ซึ่งการแก้ปัญหาหนี้ครูเราจะต้องดำเนินการแบ่งแยกหนี้ครูออกเป็นกลุ่มก่อน เช่น กลุ่มวิกฤติหนัก หรือกลุ่มที่ยังมีเงินเหลือใช้จ่ายต่อเดือนได้ เป็นต้น โดยครูบางคนมีลูกหนี้หลากหลายกลุ่มและมีหนี้ก้อนโตจำนวนมาก ซึ่งจะต้องมีการแบ่งตัวเลขจำนวนหนี้ของครูออกมาให้ชัดเจน เพื่อที่เราจะดูว่าหนี้ครูกลุ่มไหนที่สามารถเข้าไปแก้ปัญหาได้ก่อนหรือหลัง เพราะหากการแก้ปัญหาด้วยการรวมหนี้เป็นก้อนใหญ่อาจทำให้การแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ดังนั้นจึงต้องมาคัดแยกมูลหนี้ของแต่ละเจ้าหนี้ออกมาให้ชัดเจนก่อน
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ส่วนข้อเสนอ 3 เรื่องที่อยากให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ช่วยดำเนินการ คือ 1.ให้ผู้รับผิดชอบดำเนินการให้ครูเหลือเงินร้อยละ 30% 2.ให้ผู้รับผิดชอบดำเนินการประสานงานให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครู สถาบันการเงิน หักเงินครูไม่เกินร้อยละ 70% และ 3.ประสานงานไปยังสหกรณ์ออมทรัพย์ครู สถาบันการเงิน ให้ชะลอการดำเนินการฟ้องและบังคับคดีนั้น ในทุกประเด็นดังกล่าวตนจะรับไว้พิจารณาและแนวทางใดที่สามารถช่วยเหลือแก้ปัญหาได้เร่งด่วนก่อนก็จะดำเนินการให้ทันที โดยกลุ่มครูไม่ต้องกังวล เพราะตนได้มอบหมายให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูเข้ามาดูแลช่องโหว่ต่างๆ เพื่อให้สถานีแก้หนี้ครูได้เข้ามาแก้ปัญหาได้อย่างจุดมากยิ่งขึ้น
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันที่ 31 ตุลาคม 2565