เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ จ.เชียงใหม่ นางสาวตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมสัมมนาผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ผอ.สพท.) และ รอง ผอ.สพท.ทั่วประเทศ ว่า ขอบคุณทุกท่านที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ผลักดันให้นโยบายของรัฐบาล และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในการลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสทางการศึกษา ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ให้มีความก้าวหน้า เป็นรูปธรรมทั้งโครงการพาน้องกลับมาเรียน ซึ่ง สพฐ.ดำเนินการสำเร็จเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์, การดูแลช่วยเหลือในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19, การปรับเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัว, การสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษา, การส่งต่อนักเรียนมัธยมศึกษาสู่สายอาชีพ, การยกระดับคุณภาพชีวิตครูในโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นต้น ซึ่งสะท้อนถึงการเป็น One Team ของ ศธ. และช่วยส่งเสริมรูปแบบการทำงาน TRUST ซึ่งถือเป็นระบบที่สร้างความโปร่งใสให้เกิดขึ้น โดยมีผู้เรียนเป็นเป้าหมายที่สำคัญ
รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า ประเด็นที่อยากสื่อสาร เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน คือ เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ใหม่) หรือ เกณฑ์ PA ขอให้เข้าใจตรงกันว่าเราจะดำเนินการต่อไปตามแนวทางที่คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กำหนดไว้ ซึ่งตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 เป็นต้นไปทุกสถานศึกษาจะสามารถเข้าใช้งานระบบประเมินวิทยฐานะดิจิทัล หรือ DPA ได้ โดยมีสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญในการขยายผลสร้างความเข้าใจในการใช้งานระบบ DPA ให้แก่สถานศึกษาในสังกัด โดยเราจะเปิดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีคุณสมบัติยื่นคำขอมีและเลื่อนวิทยฐานะตามเกณฑ์ PA ได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป ถ้าหากจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ต้องเป็นมติของ ก.ค.ศ. และมีหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการ
“การที่ยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน สับสนเรื่องเกณฑ์ PA ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของช่วงเริ่มต้น ต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนทั้งระบบ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้มอบหมายให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และเลขาธิการ ก.ค.ศ. หารือร่วมกัน เพื่อสร้างทีมงานมาทำหน้าที่เป็นผู้แนะนำและเป็นพี่เลี้ยงให้แก่ครูในเขตพื้นที่ โดยใช้ชื่อทีมงานนี้ว่า “PA Support Team” ประกอบด้วย ผู้บริหารโรงเรียน ศึกษานิเทศก์ และเพื่อนครูบางส่วน จำนวนเขตพื้นที่ฯ ละ 8-15 คน รวมประมาณ 2,500 คน โดยทีมงานนี้จะให้ความช่วยเหลือสนับสนุนเพื่อนครูอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ขอให้ ผอ.สพท.ทุกเขต กำกับ ดูแล การดำเนินการขับเคลื่อนเรื่องเกณฑ์ PA ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของ ศธ.” นางสาวตรีนุช กล่าว
รมว.ศธ. กล่าวด้วยว่า สำหรับปีงบประมาณ 2566 ภารกิจด้านการศึกษาที่ได้กำหนดเป็นนโยบายไว้ยังต้องพัฒนาก้าวไปข้างหน้า อย่างไม่หยุดนิ่ง นอกจากนี้ ศธ.ยังกำหนดให้ทุกหน่วยงานในสังกัดนำ Soft Power ซึ่งเป็นทรัพย์สมบัติเป็นภูมิปัญญาของคนไทย มาเป็นประเด็นสำคัญในการพัฒนาผู้เรียนด้วย โดยขอให้ สพฐ. ดำเนินการให้ครบวงจร ตั้งแต่ร่วมกับผู้รู้จัดทำหลักสูตร สร้างความร่วมมือกับปราชญ์ชุมชน ใช้ประโยชน์จากบริบทพื้นที่ต่อยอดการเรียนรู้ ตลอดจน จัดเวทีให้นักเรียนได้มีโอกาสนำเสนอความรู้ความสามารถ แสดงถึงพลังของวัฒนธรรมไทย
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันที่ 14 กันยายน 2565