เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565 ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงกรณีผู้เข้าสอบการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.)สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ทำหนังสือเพื่อขออุทธรณ์ โต้แย้งประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านและได้รับการประกาศชื่อขึ้นบัญชี ทั้ง 498 ราย รวมถึงขอความเป็นธรรมให้มีการคุ้มครองชั่วคราว ต่อศาลปกครอง ให้ยกเลิกการสรรหาและบรรจุแต่งตั้งผอ.เขตพื้นที่ฯ ว่า ตอนนี้กลุ่มผู้สมัครคัดเลือกผอ.เขตพื้นที่ฯได้เริ่มทยอยขอดูคะแนนมาแล้ว ซึ่งคณะกรรมการสรรหาฯก็ได้เตรียมเอกสารไว้แล้ว ใครจะขอดูคะแนนก็ให้ยื่นขอดูได้ ส่วนที่มีการร้องศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราวก็แล้วแต่ศาลจะพิจารณา ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอย่างไรก็จะปฏิบัติตามคำสั่งศาลอยู่แล้ว ประเด็นนี้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.)จะเป็นผู้ชี้แจงเองว่าทำอะไรไปบ้าง ข้อสอบมีความยุติธรรม โปร่งใสอย่างไร รวมถึงเรื่องที่เป็นความลับก็ต้องชี้แจงว่าทำไมถึงต้องเป็นความลับ อย่างไรก็ตาม ขั้นตอน กระบวนการสรรหา ตนได้ทำอย่างรัดกุม
ผู้สื่อถามว่า มีผู้ร้องสงสัยในหลักเกณฑ์การให้คะแนน Scoring Rubric 4-4-2 (40-40-20) ดร.สุภัทร กล่าวว่า 4-4-2 คืออะไร ตนไม่แน่ใจ เพราะก.ค.ศ.จะทำร่างไว้ให้ ซึ่งคะแนนจะเป็นอย่างไรตนตอบไม่ได้ ต้องให้ก.ค.ศ.ชี้แจง แต่เรามีกรรมการ 5 ชุด ซึ่งกรรมการแต่ละชุดแตกต่างกัน ชุดที่1 สอบความรู้ ความเข้าใจ ระเบียบ ปฏิบัติเรื่องกฎหมาย ซึ่งบางคนอ่านหนังสือและปฏิบัติเยอะก็จะได้เปรียบ ชุดที่ 2 ก็จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ประวัติกับคะแนนผลงาน ซึ่งถ้าดูประวัติคนอาวุโสก็จะได้เปรียบ ชุดที่3 จะแบ่งเป็นการสอบสัมภาษณ์ วิสัยทัศน์ ซึ่งเท่าที่ฟังกรรมการบางคนวิจารณ์ให้ฟังว่ากลุ่มที่เป็นรองผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯจะได้เปรียบการสอบวิสัยทัศน์เพราะเป็นงานที่เขาทำอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าการสอบครั้งนี้มีความยุติธรรมโปร่งใส และตนได้กำหนดให้มีทศยิยม 4 ตำแหน่ง เพราะสุดท้ายต้องมาแข่งกันที่ทศนิยม เพราะค่าคะแนนของทุกคนที่ออกมาสูงมาก สอบผ่านเกือบทุกคน คนที่ไม่ผ่านคือคนที่ไม่ส่งผลงาน ไม่ใช่สอบไม่ผ่าน
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก FOCUSNEWS วันที่ 8 กันยายน 2565