เมื่อวันที่ 25 ส.ค. นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ตนพร้อมด้วยผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ประชุมร่วมกับ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ถึงนโยบายเร่งด่วนที่เกี่ยวข้องกับ สพฐ. เริ่มตั้งแต่การจัดการเรียนการสอนภายใต้สถานการณ์โควิด ซึ่งพบปัญหาการเรียนรู้ถดถอยของนักเรียนในมิติด้านการเรียนรู้ และด้านสังคม โดย สพฐ.ได้แก้ไขด้วยการเติมเต็มคุณภาพด้านการอ่านออกเขียนได้และคิดเลขเป็นอย่างเข้มข้นให้แก่เด็กประถมศึกษาปีที่ 1-3 ส่วนมัธยมศึกษาเน้นการทำกิจกรรมแบบละลายพฤติกรรม นอกจากนี้ตนยังได้รายงานโครงการพาน้องกลับมาเรียนที่ตั้งเป้าเด็กหลุดออกนอกระบบการศึกษาจะต้องเป็นศูนย์ พร้อมวางแผนป้องกันไม่ให้เด็กออกจากระบบการศึกษาไปอีก
Advertisement
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ รมว.ศธ.ได้ฝากให้ สพฐ.ไปดำเนินการเรื่อง Soft Power ซึ่งเป็นข้อสั่งการจากนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้นวัตกรรมหรือวัฒนธรรมไทยได้ผงาดในเวทีโลก โดยขอให้ สพฐ.นำครูที่เป็นปราชญ์ชาวบ้านเข้ามาเป็นต้นแบบให้เด็กได้เรียนรู้ รวมถึงการนำเอกลักษณ์การละเล่นพื้นบ้านของไทยให้เด็กได้เข้าถึงและต่อยอดวัฒนธรรมของชุมชนตนเองได้ สพฐ.จะนำเรื่องดังกล่าวมาขับเคลื่อนและเติมเต็มเรื่อง Soft Power ให้ทั่วถึงทุกโรงเรียน ส่วนการจัดการเรียนการสอนด้วย Active Learning หรือกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนได้ลงมือกระทำนั้น ได้นำการเรียนรู้ในเรื่องนี้เข้าสู่สถานศึกษาอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ส่วนหลักสูตรฐานสมรรถนะได้มีการปรับปรุงไปแล้วในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2561 แต่ยังไม่เกิดจริงในสถานศึกษา ดังนั้นในปีการศึกษาหน้า สพฐ.จะมุ่งเป้าจัดทำหลักสูตรฐานสมรรถนะควบคู่ไปกับการเรียนการสอนด้วยกระบวนการ Active Learning และปีนี้จะต้องพัฒนาครูให้ได้ 100% เพื่อปีการศึกษาหน้าครูจะได้ลงมือปฏิบัติจริงผ่านกลไกหลักสูตร แผนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลต่อไป นอกจากนี้ รมว.ศธ.ย้ำว่า ปีการศึกษาหน้าจะไม่เน้นมอบนโยบายแล้ว แต่จะลงพื้นที่ไปดูว่านโยบายที่สั่งการลงไปทำให้เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ไหนบ้าง ซึ่งโรงเรียนแต่ละแห่งมีจุดเด่นในการสนองนโยบายในด้านใด เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษาในอนาคต.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ไทยรัฐ วันที่ 26 ส.ค. 2565