ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมงานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคม  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

สสส. และ ศูนย์นมแม่ฯ ร่วมขับเคลื่อนสร้าง “สังคมนมแม่” ที่ยั่งยืน


งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคม 26 ส.ค. 2565 เวลา 02:14 น. เปิดอ่าน : 5,367 ครั้ง
Advertisement

สสส. และ ศูนย์นมแม่ฯ ร่วมขับเคลื่อนสร้าง “สังคมนมแม่” ที่ยั่งยืน

Advertisement

มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) เปิดเวทีเสวนาออนไลน์ “6 เดือนมหัศจรรย์ นมแม่ต้องห้ามพลาด ให้ทารกได้รับนมแม่ สร้างภูมิคุ้มกันที่ดีส่งผลไปทั้งชีวิต” เผยตัวเลขแม่ไทยเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ยังต่ำกว่ามาตรฐานโลก เหตุ แม่-ครอบครัว-สังคม ขาดความรู้ความเข้าใจ ผนึกกำลังเครือข่ายสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ตั้งเป้าเด็กไทยมากกว่าร้อยละ 50 ต้องได้รับนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนไม่ต้องเสริมน้ำหรืออาหารอื่น หลังจากนั้นให้อาหารเสริมตามวัย กับ กินนมแม่ต่อจนถึงอายุ 2 ปีหรือมากกว่านั้นภายในปี 2568 เพื่อสร้างสังคมนมแม่ที่ยั่งยืน
 
พญ.ศิริพร กัญชนะ ประธานมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ข้อมูลการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนของไทยลดลงจากการสำรวจเมื่อปี 2559 จากร้อยละ 24 เหลือเพียงร้อยละ 14 ในปี 2562 และจนถึงปัจจุบันมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยประชาคมได้ตั้งเป้าหมายการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 6 เดือนไว้สูงถึงร้อยละ 50 ด้วยเหตุนี้ทางมูลนิธิฯ จึงได้ใช้โอกาสของสัปดาห์นมแม่โลกที่ทุกประเทศต่างก็รณรงค์ในเรื่องนี้ มาชักชวนทุกภาคส่วนในสังคมไทยให้มาร่วมมือกันลงทุนในเรื่องที่สำคัญที่สุดซึ่งเป็นต้นทุนของชีวิต เพื่อช่วยกันสร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้กับประเทศ

 “ตัวอย่างความเชื่อในเรื่องหลังกินนมแม่แล้วต้องกินน้ำเพื่อล้างปากนั้นถือว่าเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง เด็กทารกควรได้รับน้ำนมอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนโดยไม่จำเป็นต้องทานน้ำและอาหารเสริม เพราะในนมแม่มีทั้งสารอาหารที่เพียงพอและมีภูมิคุ้มกันต่างๆ ที่ส่งผ่านจากแม่ไปสู่ลูกด้วย นมแม่เป็น Super Food เด็กที่กินนมแม่ไม่จำเป็นต้องให้น้ำ เพราะในนมแม่มีน้ำอยู่ถึงร้อยละ 83 ที่เหลือเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ ในนมแม่มีสารอาหารที่มีประโยชน์มากกว่าสารสังเคราะห์ที่ใส่ลงไปในนมผสมนับไม่ถ้วน ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีทารกคลอดลดลงเหลือเพียงปีละ 5 แสนคนเท่านั้น ดังนั้นจึงอยากชวนเชิญทุกภาคส่วนในสังคมมาช่วยกันสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพื่อให้ทารกเกิดขึ้นมาอย่างมีต้นทุนสุขภาพที่ดี เติบโตขึ้นเป็นพลเมืองดีมีคุณภาพ”

ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ กล่าวว่า สสส.ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพในทุกช่วงวัยตั้งแต่การตั้งครรภ์ และอยากให้เด็กโตสมวัยและมีสุขภาพที่ดี ซึ่งการให้เด็กได้รับนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนนั้นมีประโยชน์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวจนโต

“โดยตัวเลขนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนที่ลดลงจนเหลือเพียงร้อยละ 14 นั้น ถ้าเราดูในรายละเอียดจะพบว่ายังมีแม่อีกกลุ่มหนึ่งที่ให้ลูกกินทั้งนมแม่และน้ำ ดังนั้นถ้าเราสามารถร่วมกันทำงานให้ความรู้กับแม่กลุ่มนี้ได้ ประเทศไทยก็จะมีโอกาสทำได้ตามเป้าหมายคือนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนร้อยละ 50

ซึ่งการได้รับนมแม่และการเลี้ยงดูที่เหมาะสมอย่างมีคุณภาพ เป็นรากฐานที่จะพัฒนาให้เด็กไทยมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง พัฒนาการสมวัย และส่งผลดี รอบด้าน ดังนั้นเราต้องทำการสื่อสารภายใต้ข้อมูลวิชาการ และเร่งให้องค์ความรู้ต่างๆ เหล่านี้เข้าถึงแม่และครอบครัว โดยต้องทำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้นสามารถทำได้จริง และยืนยันว่านมแม่นั้นดีที่สุด”

รศ.พญ.สุดาทิพย์ โฆสิตะมงคล กุมารแพทย์ทารกแรกเกิด และกรรมการวิชาการมูลนิธิ ศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวว่านมแม่ไม่เพียงแค่กินได้จนถึง 6 เดือนแต่ยังสามารถกินได้ไปจนถึง 2 ปี นมแม่นั้นเป็น Super Food เป็นวัคซีนและของขวัญชิ้นแรกที่ดีที่สุดที่แม่จะให้กับลูกได้ นมแม่มีภูมิคุ้มกันทำให้ลูกแข็งแรงไม่ป่วยบ่อย มีโอกาสติดเชื้อและเข้าโรงพยาบาลน้อยกว่า ลดโอกาสเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเช่น เบาหวาน โรคอ้วนได้ในอนาคต
“เด็กที่กินนมแม่จะมีไอคิวและอีคิวที่มากกว่าเด็กที่กินนมผสม ในนมแม่มีจุลินทรีย์สุขภาพที่สามารถช่วยกำหนดสุขภาพของเราได้ในระยะยาวซึ่งนมผสมไม่มี สำหรับนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนนั้น ไม่ใช่เรื่องของแม่เพียงคนเดียว แต่เป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนในสังคมจะต้องช่วยกันส่งต่อความมั่นใจว่านมแม่ดีที่สุดในโลก และร่วมกันสร้างระบบการดูแลช่วยเหลือส่งต่อจากที่โรงพยาบาล บ้าน ชุมชน ก็จะสามารถช่วยให้แม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้สำเร็จ และอยากย้ำว่าบางคนอาจเห็นว่านมแม่ดูใสๆ ไม่ขาวข้น แต่อยากให้มั่นใจว่าในนมแม่นั้นพอเหมาะ พอเพียง เหมาะสม สำหรับลูกของเรา โดยไม่ต้องให้น้ำ ให้อาหารเสริม ขอให้เชื่อมั่นในนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน”

ด้าน ผศ.ดร.สกุลศรี ศรีสารคาม ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนในช่วงสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 กล่าวว่า ถ้าเรามีความตั้งใจไม่ว่าจะมีโควิด-19 หรือไม่มีทุกคนก็สามารถทำได้ เพราะการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้นเป็นเรื่องของแม่กับลูก แม้ว่าลูกของตนเองจะคลอดก่อนกำหนดก็ยังสามารถเลี้ยงด้วยนมแม่ได้ ที่สำคัญคือลูกไม่เคยป่วย และนอนโรงพยาบาลเลย

“แต่สิ่งสำคัญคือครอบครัวต้องสนับสนุน และต้องมีระบบที่คอยช่วยเหลือให้แม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ช่วง 2 สัปดาห์แรกนั้นมีความสำคัญมากที่สุด ถ้าผ่านอุปสรรคและปัญหาตรงนี้ไปได้แล้วก็จะไม่ยาก สิ่งสำคัญก็คือจะต้องมีระบบที่เตรียมความพร้อมให้แม่ตั้งแต่การฝากครรภ์และมีคนที่ช่วยให้คำแนะนำในการแก้ปัญหาหลังคลอด ซึ่งปัจจุบันก็มีคลินิกนมแม่คอยให้คำปรึกษาอยู่หลายแห่งที่สามารถช่วยให้แม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ แต่สำหรับแม่ที่ต้องกลับไปทำงานหลังลาคลอดครบ3 เดือน ที่ทำงานและเพื่อนร่วมงานก็ต้องมีความรู้ความเข้าและสนับสนุน เพราะต้องมีมุมนมแม่ มีที่ปั้มนม และมีตู้เย็นสำหรับเก็บนม อยากให้แม่ทุกคนไม่ต้องกลัวเรื่องการให้นมลูกนอกสถานที่ และอยากเห็นทุกคนในสังคมเข้าใจเรื่องของนมแม่และมองให้เป็นเรื่องปกติ”

“เราต้องช่วยกันทำให้เด็กไทยทุกคนกินนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนโดยไม่ต้องเสริมน้ำหรืออาหารอื่น หลังจากนั้นให้อาหารเสริมตามวัยและกินนมแม่ต่อจนถึงอายุ 2 ปี ช่วยกันทำให้แม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้ได้ ให้ลูกได้กินนมแม่อย่างมีความสุขช่วยกันลงทุนในจุดเริ่มต้นของชีวิตด้วยสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อให้นมแม่เป็นรากฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพราะนมแม่นั้นดีที่หนึ่ง ” พญ.ศิริพร กัญชนะ กล่าวสรุป. 

ขายดีมากครับคุณครู (พร้อมส่ง) เครื่องเคลือบบัตรA4 รุ่นSL200 เครื่องเคลือบกระดาษA4 A3 A5 ABSป้องกันการ์ด ในราคา ฿368 - ฿999 ที่ Shopee

https://s.shopee.co.th/4VLvxbi7ho?share_channel_code=6


สสส. และ ศูนย์นมแม่ฯ ร่วมขับเคลื่อนสร้าง “สังคมนมแม่” ที่ยั่งยืนสสส.และศูนย์นมแม่ฯร่วมขับเคลื่อนสร้าง“สังคมนมแม่”ที่ยั่งยืน

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

สมศ. ลงพื้นที่ จ.กระบี่ ติดตามโครงการทดลองประเมินนำร่อง

สมศ. ลงพื้นที่ จ.กระบี่ ติดตามโครงการทดลองประเมินนำร่อง

เปิดอ่าน 816 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
กทม. ร่วมกับมูลนิธิเอเชีย ชูประเด็น "การอ่านในเด็กปฐมวัย" นำ 4 โรงเรียน เสริมทักษะผ่านนิทานและการเล่น
กทม. ร่วมกับมูลนิธิเอเชีย ชูประเด็น "การอ่านในเด็กปฐมวัย" นำ 4 โรงเรียน เสริมทักษะผ่านนิทานและการเล่น
เปิดอ่าน 85 ☕ คลิกอ่านเลย

กระทรวงศึกษาฯ นำระบบประเมินวิทยฐานะดิจิทัล และจับคู่ครูคืนถิ่น คว้า 2 รางวัล จากงาน Thailand HR Innovation Award 2024
กระทรวงศึกษาฯ นำระบบประเมินวิทยฐานะดิจิทัล และจับคู่ครูคืนถิ่น คว้า 2 รางวัล จากงาน Thailand HR Innovation Award 2024
เปิดอ่าน 243 ☕ คลิกอ่านเลย

เพราะครูคือหัวใจสำคัญของการสร้างอนาคตเด็กไทย
เพราะครูคือหัวใจสำคัญของการสร้างอนาคตเด็กไทย
เปิดอ่าน 465 ☕ คลิกอ่านเลย

เจาะแนวคิด Learn to Earn ในงานด้านศิลปะ ผ่านมุมมองของรุ่นพี่ยุวศิลปินไทย ผู้ประสบความสำเร็จบนเส้นทางที่เลือกแล้ว
เจาะแนวคิด Learn to Earn ในงานด้านศิลปะ ผ่านมุมมองของรุ่นพี่ยุวศิลปินไทย ผู้ประสบความสำเร็จบนเส้นทางที่เลือกแล้ว
เปิดอ่าน 300 ☕ คลิกอ่านเลย

สวธ. ประกาศผลประกวดบอร์ดเกมเล่าเรื่องราว กทม. เผยเป็น Soft Power ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เตรียมนำไปแสดงที่เยอรมัน ในปี 68
สวธ. ประกาศผลประกวดบอร์ดเกมเล่าเรื่องราว กทม. เผยเป็น Soft Power ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เตรียมนำไปแสดงที่เยอรมัน ในปี 68
เปิดอ่าน 192 ☕ คลิกอ่านเลย

"สหพัฒน์แอดมิชชั่น" ส่งท้าย DEK68 ก่อนลงสนามสอบจริง ชวนไขทุกปัญหาคาใจกับกิจกรรมถามตอบโค้งสุดท้าย
"สหพัฒน์แอดมิชชั่น" ส่งท้าย DEK68 ก่อนลงสนามสอบจริง ชวนไขทุกปัญหาคาใจกับกิจกรรมถามตอบโค้งสุดท้าย
เปิดอ่าน 513 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่7
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่7
เปิดอ่าน 7,212 ครั้ง

คลิปข่าว ขึ้นเงินเดือนครูยกชุด ย้อนหลังถึง 1 ม.ค.55
คลิปข่าว ขึ้นเงินเดือนครูยกชุด ย้อนหลังถึง 1 ม.ค.55
เปิดอ่าน 20,033 ครั้ง

วิธีบริหารเงิน ที่ไม่มีสอนในโรงเรียน
วิธีบริหารเงิน ที่ไม่มีสอนในโรงเรียน
เปิดอ่าน 14,316 ครั้ง

สีแดงกับสมอง ความเชื่อมโยงอันน่าอัศจรรย์ที่คุณไม่เคยรู้
สีแดงกับสมอง ความเชื่อมโยงอันน่าอัศจรรย์ที่คุณไม่เคยรู้
เปิดอ่าน 10,352 ครั้ง

ปรับฮวงจุ้ย รับหน้าฝน
ปรับฮวงจุ้ย รับหน้าฝน
เปิดอ่าน 9,172 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ