24 ส.ค.2565-นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการจัดระบบวิชาชีพครูตั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยเฉพาะการปรับหลักสูตรการพัฒนาครู เพราะทุกวันนี้โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการพัฒนาหลักสูตรครูของแต่ละสถาบันจะต้องปรับตามให้เร็ว แต่การดำเนินการที่ผ่านมามีการปรับมาแล้วแต่ต้องมาผ่านบอร์ดคุรุสภาและปรับแก้ใหม่ก็ต้องใช้เวลานาน และกว่าจะอนุมัติการปรับปรุงหลักสูตรการพัฒนาเสร็จก็ส่งผลให้มีความล่าช้าและไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นที่ประชุมจึงมีความเห็นว่าหากสถาบันผลิตครูจะมีการปรับเปลี่ยนหลักสูตรครูก็จะให้คุรุสภาเข้าไปดำเนินการเข้าไปร่วมปรับหลักสูตรกับสถาบันผลิตครูด้วย เพื่อให้ตรงกับมาตรฐานการผลิตครูอย่างแท้จริง
นางสาวตรีนุช กล่าวต่อว่า นอกจากนี้มีประเด็นเรื่องครูที่อยู่ในระบบแต่ยังไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู โดยเฉพาะกลุ่มครูอาชีวศึกษาที่มีความถนัดทางวิชาชีพแต่ยังไม่มีอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ซึ่งตนต้องการจัดกระบวนการให้ครูกลุ่มเหล่านี้มีความสอดรับกับโลกปัจจุบัน และไม่ให้เด็กขาดครู โดยกลุ่มครูที่ต้องขอผ่อนผันทุก 2 ปีที่ขณะนี้มีอยู่ประมาณ 50,000 คน โดยจะทำแพลตฟอร์มขึ้นร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เพื่อให้ครูกลุ่มนี้ได้เข้ามาอบรมและพัฒนาตัวเองเก็บชั่วโมงเรียน เพื่อให้ครูสามารถใช้เป็นคุณสมบัติในการขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพได้ ทั้งนี้เพื่อให้ครูเหล่านี้มีช่องทางกว้างขึ้นในการมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู และมีมาตรฐานวิชาชีพตามที่คุรุสภากำหนด ขณะเดียวกันในส่วนของใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูเราพบปัญหานักศึกษาที่จบครูโดยตรง แต่ยังไม่สามารถไปประกอบวิชาชีพครูได้ ที่ประชุมจึงหาช่องทางให้นักศึกษาครูทีจบใหม่ได้ประกอบวิชาชีพครูได้เลย ด้วยการจัดทำระบบการผลิตครูให้มีคุณภาพ
“นอกจากนี้ที่ประชุมได้อนุมัติข้อบังคับการปรับปรุงระบบการขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูใหม่ เนื่องจากที่ประชุมเห็นว่าเมื่อผู้เรียนที่จบจากคณะครุศาสตร์ ซึ่งเป็นสาขาวิชาชีพครูมาแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมาขอสอบ เพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพอีก จนทำให้เกิดขั้นตอนการขอที่ยุ่งยาก เมื่อจบหลักสูตรครูแล้วก็ต้องมาสอบขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูอีก และเมื่อสอบบรรจุข้าราชการแล้วก็ต้องมาสอบขอใบดังกล่าวด้วยเช่นกัน สำหรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพใหม่ได้กำหนดให้มีใบรับรองการปฏิบัติการสอน (Provisional Teaching Certificate) ซึ่งจำแนกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ 1.ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นต้น (Basic Professional Teaching License: B-license) ได้ตอนสอบบรรจุข้าราชการ ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย 2.ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นกลาง (Intermediate Professional Teaching License :I-license) ได้เมื่อได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากครูผู้ช่วยเป็นข้าราชการครู และ 3.ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นสูง (Advanced Professional Teaching License : A-license) จะได้ต่อเมื่อเสนอเรื่องขอและเลื่อนวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา”รมว.ศธ.กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ไทยโพสต์ วันที่ 24 สิงหาคม 2565