บ้านเรือนเคียงกันถ้าเป็นมิตรกันก็แสนจะดีมีสุข แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดขาดความเกรงอกเกรงใจ จากเพื่อนบ้านที่แสนเป็นมิตรก็อาจกลายเป็นศัตรูกันอย่างถาวรได้
ป้าต้อยสมาชิกฉลาดซื้อ ได้ขอคำปรึกษามาว่า เพื่อนบ้านเลี้ยงหมาสิบกว่าตัว และเห่าตลอดเวลาส่งเสียงดังรําคาญมาก ๆ ป้าแก่แล้วอยากพักผ่อนให้สงบก็ไม่ได้หลับไม่ได้นอน ลองคุยกับเจ้าของบ้านหลายทีก็แล้ว แต่ไม่เห็นทำอะไร บอกแต่ว่า เป็นสิทธิส่วนบุคคล ป้าจะทำอะไรได้บ้าง
“นอกจากหมาเสียงดังไม่พอ บางทีเจ้าของบ้านก็ส่งเสียงดังเอะอะ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องทะเลาะกัน ไม่อยากรู้เรื่องส่วนตัวของเพื่อนบ้านก็ได้รู้หมด พ่อใครแม่ใคร บางทีก็เป็นเด็กวัยรุ่นลูกหลานบ้านนั้นจัดงานเลี้ยงส่งเสียงดัง ซึ่งก็ไม่ใช่แค่ป้าต้อยคนเดียวที่ไม่พอใจแต่บ้านอื่น ๆ เขาก็บ่นเหมือนกัน แต่ไม่อยากไปมีเรื่องด้วย ช่วยอะไรป้าได้บ้างไหมคะ”
ถ้าคุยแล้วไม่มีทางออก คงต้องลองวิธีอื่น ว่าด้วยกรณีหมา ๆ ก่อน ป้าต้อยคงต้องแจ้งไปที่สำนักงานเขต เพื่อให้เจ้าหน้าที่เขตท้องที่ดำเนินการให้ต่อไป เพราะจะมีกฎหมายดูแลเรื่องนี้อยู่ ส่วนกรณีเพื่อนบ้านเสียงดัง อย่างหลังนี้ลำบาก เพราะกฎหมายดูเหมือนไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่
จะลองแจ้งตำรวจให้มาไกล่เกลี่ยหรือบอกกล่าวให้เพื่อนบ้านส่งเสียงรบกวนน้อยลงก็พอทำได้ แต่ถ้าว่าตามกฎหมายอาญามาตรา 370 ผู้ใดส่งเสียง ทำให้เกิดเสียงหรือกระทำความอื้ออึงโดยไม่มีเหตุอันควร จนทำให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้อน ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาท แค่นี้เองค่ะ
แต่ถ้าป้าอยากจัดการให้เด็ดขาดเพราะเห็นว่าเสียงดังทำให้สุขภาพของป้าแย่ลงมาก ๆ ฟ้องแพ่งก็ได้ เรียกค่าเสียหายจากการที่บ้านนั้นส่งเสียงดัง แต่ป้าก็ต้องจ้างทนาย รวมทั้งพิสูจน์ว่าป้าแย่ลงจริง ๆ เพราะเสียงอันดังของบ้านหลังนั้น ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย อีกอย่างคราวนี้ก็ได้กลายเป็นศัตรูกันจริง ๆ แน่
คงต้องหาทางออกด้วยวิธีทางสังคม โดยให้เพื่อนบ้านคนอื่น ๆ ที่เดือดร้อนรำคาญเหมือนกันไปแสดงพลังบอกให้เจ้าของบ้านหลังนั้น เข้าใจเรื่องการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ซึ่งก็ยากอีกเหมือนกันล่ะป้าขา เพราะคนไทยส่วนใหญ่อดทนมาก ๆ ค่ะ ทางออกสำหรับเรื่องนี้ที่น่าจะดีที่สุดก็คือ เสียงดังเมื่อไหร่แจ้งตำรวจเมื่อนั้น เขาใช้เสียงรบกวนเรา เราใช้ตำรวจรบกวนเขา อะไรน่ากลัวกว่ากันลองคิดดูค่ะ
|