เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2565 ดร.เอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศ ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการรับรองความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ เพื่อการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พ.ศ. 2565 แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการรับรองความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ เพื่อการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พ.ศ. 2550 ให้เหมาะสมมีความสอดคล้องกับข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ และข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ตามที่ ที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ที่มีน.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เป็นประธาน มีมติให้ ออกข้อบังคับ ว่าด้วยการรับรองความรู้และประสบการณ์วิชาชีพฯใหม่ ยกเลิกการวัดมาตรฐานความรู้ วิชาชีพครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และศึกษานิเทศก์ และให้ยกเลิก ใบอนุญาตปฏิบัติการสอน ตามข้อบังคับเดิม ปี 2550
ดร.เอกชัย กล่าวต่อไปว่า การออกประกาศดังกล่าว เพื่อเป็นการล้างท่อกลุ่ม ที่ถือใบอนุญาตปฏิบัติการสอน ก่อนข้อบังคับปี 2550 จะบังคับใช้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่จบหลักสูตรที่คุรุสภาไม่รับรอง โดยขณะนั้นคุรุสภาแก้ปัญหาโดยการให้ สอบวัดมาตรฐานความรู้ 9 มาตรฐาน หากสอบผ่านจะได้รับใบอนุญาตปฏิบัติการสอน จากนั้นจะต้องปฏิบัติการสอนในโรงเรียนเป็นเวลา 1 ปี เพื่อให้ได้ใบรับรองและนำใช้เป็นหลักฐานในการขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพตัวจริง และได้กำหนดให้กลุ่มดังกล่าว มาขึ้นทะเบียนเพื่อรับใบอนุญาตฯตัวจริง ภายในวันที่ 3 ตุลาคม 2563 เป็นครั้งสุดท้าย แต่พบว่ายังมีกลุ่มที่ยังไม่มาขึ้นทะเบียนเพราะยังปฏิบัติการสอนไม่ครบ ดังนั้นจึงออกประกาศดังกล่าว เพื่อคงสิทธิ และให้ปฏิบัติการสอนในโรงเรียนให้ครบตามเวลาที่กำหนด เมื่อได้รับการรับรองจากสถานศึกษาแล้ว ให้นำหลักฐานการผ่านการรับรอง ไปขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูได้ โดยคนกลุ่มนี้มีไม่มาก เมื่อแก้ปัญหาดังกล่าวหมดแล้ว ก็จะเข้าสู่ข้อบังคับใหม่ต่อไป
“ข้อบังคับใหม่ อยู่ระหว่างปรับแก้รายละเอียด คาดว่าจะสามารถประกาศใช้ได้ภายใน 2 เดือนนี้ โดยจะเปิดช่องให้ผู้ที่สอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูไม่ผ่าน จะได้รับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่ครู ใช้เป็นหลักฐานสอบครูผู้ช่วย โดยใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่ครู จะมีอายุ 2 ปี ให้พัฒนาตัวเอง และมาสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตฯตัวจริง หากภายใน 2 ปีไม่สามารถสอบผ่าน จะถูกตัดสิทธิการสอน และต้องไปปฏิบัติหน้าที่อื่นแทน ส่วนผู้ที่สอบผ่านก็จะได้รับใบอนุญาตฯ ขั้นต้น จากนั้นจะต้องพัฒนาตัวเอง เพื่อสอบรับใบอนุญาตฯขั้นสูงต่อไป”ดร.เอกชัย กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก FOCUSNEWS วันที่ 18 กรกฎาคม 2565