น.ส.อัญชลี จรัสยศวุฒิชัย ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาดบัตรเครดิต ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารอยู่ระหว่างพิจารณาลดวงเงินบัตรเครดิตของลูกค้าหากภาพรวมเศรษฐกิจไม่ดี และพฤติกรรมการจ่ายเงินของลูกค้าแย่ลง หรือมีเม็ดเงินค้างชำระสูง แต่ทางนี้จะเป็นทางเลือกสุดท้าย
น.ส.อัญชลี กล่าวว่า ปัจจุบัน การอนุมัติบัตรเครดิตได้ปรับตัวลดลงเหลือ 50% จากเดิมจะอนุมัติประมาณ 55-60% เพราะได้เพิ่มความระมัดระวังการอนุมัติบัตรเครดิตตามภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ปัจจุบันคำขอใช้บัตรเครดิตเฉลี่ยเดือนละ 2 หมื่นใบ
สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เพิ่มขึ้นเป็น 1.97% จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 1.79% โดยสิ้นปีตั้งเป้าให้เอ็นพีแอลไม่เกิน 2.5% ส่วนใหญ่เอ็นพีแอลที่เพิ่มขึ้นมาจากกลุ่มพนักงานบริษัท
อย่างไรก็ดี ธนาคารได้ปรับกลยุทธ์การติดตามหนี้ โดยมีบริการแจ้งเตือนวันกำหนดชำระหนี้ เพื่อไม่ให้เกิดการชำระล่าช้า ขณะที่การพิจารณาจะมีความเข้มงวดมากขึ้น และจะพิจารณารายได้สุทธิเป็นหลัก
น.ส.อัญชลี กล่าวว่า ธนาคารได้ออกบัตรเดรดิต “K-SME BizCard” สำหรับกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีที่ใช้ บริการสินเชื่อของธนาคาร บัตรใบนี้สิทธิประโยชน์จะเทียบเท่ากับบัตรแพลทินัม ถอนเงินสดล่วงหน้าได้สูงสุด 50% ของวงเงินที่อนุมัติ และให้สูงสุด 5 หมื่นบาทต่อวัน
น.ส.อัญชลี กล่าวว่า ในส่วน ของบัตรเครดิตองค์กรรัฐนั้นเคยทำตลาดแล้วไม่ประสบผลสำเร็จ แต่กำลังจะทำการตลาดกับองค์กรเอกชนมากขึ้น เพราะกลุ่มนี้มีค่าใช้จ่าย ต่อเนื่อง
ด้าน น.ส.รัตนา ชลไพรพิมลรัตน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานวงเงินสินเชื่อ บริษัท บัตรกรุงไทย (เคทีซี) กล่าวว่า บัตรเครดิตเพื่อหน่วยงานรัฐเป็นบัตรที่กระตุ้นยอดใช้จ่ายยากมาก เนื่องจากมีความเข้มงวด การใช้เงิน
ขอบคุณข่าวจาก นสพ. โพสต์ทูเดย์ วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2552