ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมบทความการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

กว่าจะเป็นครู : สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา EP.2


บทความการศึกษา 6 ก.ค. 2565 เวลา 09:31 น. เปิดอ่าน : 3,889 ครั้ง
กว่าจะเป็นครู : สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา EP.2

Advertisement

กว่าจะเป็นครู : สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา EP.2
 
ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้ครูไทยทั่วประเทศกำลังสอบคัดเลือกครูผู้ช่วยกันอย่างขะมักเขม้น กว่าจะเป็นครูไม่ง่ายเลยจริง ๆ แล้วประเทศอื่น ๆ มีการคัดเลือกครูแบบไหนกันบ้าง?
 
จากผลสำรวจตามการจัดอันดับระบบการศึกษาของโครงการ The World Top 201 Project เลือก 5 อันดับแรกมาที่ระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลกของปี 2022 เราคัดมาให้ดูกันว่าประเทศที่การศึกษาดีขนาดนี้เขาคัดเลือกครูกันยังไง? สรุปมาให้อ่านกันครับ
 
อันดับ 1 เป็นของใครไปไม่ได้นอกจากฟินแลนด์ที่มีชื่อเสียงด้านการศึกษามายาวนาน ด้วยคะแนนเฉลี่ยทุกด้านเกือบสูงที่สุดในหมู่ประเทศสมาชิก OECD (Organisation for Economic Co-operation and Development) ที่ร่วมการประเมิน PISA การศึกษาของฟินแลนด์นั้นเต็มไปด้วยคุณภาพในการเลือกสรร และอาชีพครูได้รับการเคารพอย่างสูงในสังคม การสมัครเข้าศึกษาต่อในระบบคณะศึกษาศาสตร์ของฟินแลนด์มีผู้สมัครเข้าเรียนถึง 20,000 คนต่อปี รับเพียง 4,000 คนเท่านั้น ถือเป็นอัตรา 1 ต่อ 5 เลยทีเดียว ในสาขาวิชาประถมศึกษาต้องร่วมสอบ VAKAVA หรือการทดสอบระดับประเทศ โดยต้องตอบคำถามจากบทความวิจัยจำนวนห้าถึงแปดบทความโดยให้อ่านบทวิจัยหกสัปดาห์เพื่อวิเคราะห์ก่อนร่วมการทดสอบและเลือกมหาวิทยาลัย 1 ใน 8 แห่งสำหรับการศึกษาต่อ หลังจากสอบวิเคราะห์ผ่านแล้วต้องทำการสอบสัมภาษณ์แบบรายบุคคลและเข้าสอบสัมภาษณ์แบบกลุ่มที่ต้องทำการจัดการเรียนการสอนและทำงานเป็นทีมกับกลุ่มที่ได้รับเพื่อพิจารณาเข้าเรียนในคณะต่อไป ครูของฟินแลนด์ต้องจบปริญญาโท ซึ่งคณะศึกษาศาสตร์เป็นหลักสูตรปริญญาตรีควบปริญญาโทต้องเรียน 5 ปี ฟินแลนด์ให้ความสำคัญแก่การวิจัยและการสืบเสาะหาความรู้ของครู ผู้เรียนจำนวนมากจึงศึกษาต่อจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก และประกอบวิชาชีพทางการศึกษาเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ต่อไป ตลอดจนการฝึกอบรมครูของฟินแลนด์นั้นไม่มีค่าใช้จ่ายและเป็นอาชีพที่รายได้สูงอีกด้วย
 
 
อันดับที่ 2 เกาหลีใต้ ได้สร้างระบบการศึกษาสมัยใหม่ มุ่งพัฒนาเครือข่ายสารสนเทศเพื่อการเป็นสังคมแห่งความรู้ (Knowledge-based Society) สร้างสภาวะแวดล้อมที่กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง รัฐบาลและประชาชนในประเทศให้ความสำคัญกับการศึกษาเป็นอย่างมากทำให้การแข่งขันในเกาหลีสูงมาก การคัดเลือกครูจึงสูงตามไปด้วย เริ่มตั้งแต่คัดเข้าเรียนจากเด็กหัวกะทิที่เก่งที่สุดจากคะแนนสอบสูงสุด 5% เท่านั้นที่มีสิทธิเข้าศึกษาในสถาบันผลิตครู ซึ่งแบ่งออกเป็นวิทยาลัยครู 4 ปี ผลิตครูประถมศึกษาไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดการเรียนแต่หลังจากเรียนจบแล้วต้องเข้าสอนใช้ทุนโรงเรียนประถมอย่างน้อย 4 ปี และวิทยาลัยวิชาการศึกษาสำหรับสอนเด็กมัธยม ใช้หลักสูตร 4 ปี เช่นกัน อีกทั้งยังมี Korea National University of Education มหาวิทยาลัยชั้นนำด้านการศึกษาที่ฝึกอบรมครูและนักวิชาการศึกษาออกมาโดยเฉพาะอีกด้วย ในการเข้าสอนของครูทุกคนจะมีการประเมินคุณภาพเทอมละ 2 ครั้งจากครูใหญ่และเพื่อนร่วมงานอย่างน้อย 3 คน อีกทั้งยังพิจารณาผลสำรวจจากนักเรียนและผู้ปกครองร่วมด้วย
 
ภาพจาก : https://www.instagram.com/qjawe/
 
 

Advertisement
 

อันดับที่ 3 เดนมาร์ก อาจเป็นประเทศที่ไม่ได้ค่อยได้ยินชื่อเสียงด้านการศึกษามากเท่าประเทศอื่น แต่ก็ถือว่าเป็นผู้นำด้านการศึกษาด้วยอัตราการรู้หนังสือ 99% ของคนในประเทศทำให้อาชีพครูในเดนมาร์กก็ได้รับความนิยมเช่นกัน การเป็นครูในเดนมาร์กต้องใช้เวลาในการศึกษาสี่ปีในหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต โดยจะเข้าศึกษาได้นั้นต้องมีคะแนนเฉลี่ยตอนจบมัธยมสูงกว่า 7.0 จะสามารถเข้าโควตาในรอบแรกได้ ในโควตารอบที่สองนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์คะแนนเฉลี่ยจะมีการสอบสัมภาษณ์และปรับพื้นฐานของคุณสมบัติทางการศึกษาที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ในตอนที่เข้าศึกษาจะให้เลือกวิชาที่ต้องการสอน 3 วิชา แบ่งเป็นวิชาหลัก คือ ภาษาเดนมาร์ก คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ วิชารองให้เลือกได้ 2 วิชา คือ เยอรมัน ดนตรี ชีววิทยา พลศึกษา อังกฤษ ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ศิลปะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมศึกษา งานฝีมือและการออกแบบ และศาสนา สำหรับครูที่ต้องการสอนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์จะมีเกณฑ์การคัดเลือกพิเศษ แบ่งระดับชั้นที่ต้องการสอนออกเป็นเกรด 1-6 และ เกรด 4-10 โดยครูประถมและมัธยมตอนต้นจะเรียนและฝึกงานทั้งหมดสี่ปีกับมหาวิทยาลัยและจบปริญญาตรี แต่หากเป็นครูมัธยมตอนปลายจะต้องสำเร็จหลักสูตรระดับปริญญาตรีสามปีและหลักสูตรระดับสูงกว่าปริญญาตรีสองปีเป็นการศึกษาเพิ่มเติมในด้านวิชาที่ตัวครูเลือกสอนแล้วสำเร็จการศึกษาออกมาเป็นครูได้
 
อันดับที่ 4 ฮ่องกง ถือว่าให้ความสำคัญกับการพัฒนาครูเป็นอย่างมาก และเชื่อว่าครูที่มีคุณภาพจะทำให้ประชากรของฮ่องกงมีคุณภาพและพัฒนาไปอย่างมั่นคง รัฐบาลเริ่มพัฒนาครูจากการเพิ่มเงินเดือนของครูและให้สวัสดิการมากมาย ทั้งปัจจัยในการดำรงชีพ ประกันสุขภาพที่ครอบคลุมไปถึงครอบครัวเพื่อดึงดูดคนหนุ่มสาวที่มีความสามารถ เงินเดือนเริ่มต้นของครูในฮ่องกงเริ่มที่ 19,000 เหรียญฮ่องกง (ประมาณ 85,000 บาทไทย) ทำให้คนจำนวนมากต้องการเป็นครูการแข่งขันคัดเลือกครูจึงสูง ธรรมชาติคัดสรรคนเก่งที่ต้องการสมัครเรียนศึกษาศาสตร์หลังจากเข้าเรียนและฝึกอบรมครูในหลักสูตรปริญญาตรี 4 ปี และมีความประสงค์จะสอนในโรงเรียนจะต้องทำการลงทะเบียนครูก่อนเพื่อได้รับใบประกอบวิชาชีพรับรองคุณภาพการสอน และกำหนดว่าผู้ที่จะลงทะเบียนครูได้จะต้องผ่านการฝึกสอนและสำเร็จการศึกษาระดับอนุปริญญาด้านการศึกษาขึ้นไปหลังจากลงทะเบียนครูแล้วจึงจะสามารถเข้าไปสอนในโรงเรียนได้ และในปัจจุบันครูในฮ่องกงที่ต้องการเข้าสอนในโรงเรียนของรัฐจะต้องสอบด้านกฎหมายซึ่งเป็นข้อสอบของราชการในฮ่องกง การทดสอบปัจจุบันเป็นเอกสารสองภาษาที่ประกอบด้วยคำถามแบบปรนัย 15 ข้อ เป็นการทดสอบความรู้ของผู้สมัครเกี่ยวกับกฎหมายพื้นฐาน ผู้สมัครจะต้องได้คะแนนขั้นต่ำ 53 จาก 100 (หรืออย่างน้อย 8ใน 15) จึงจะผ่าน ผลการสอบผ่านเป็นแบบถาวรและสามารถใช้สมัครงานราชการทั้งหมดในฮ่องกงได้ โดยผู้ที่ถูกกำหนดให้สอบคือครูที่จบการศึกษาใหม่และมีการย้ายงานในปีนี้ และในปีต่อ ๆ ไปทุกปี ครูและบุคลากรทางการศึกษาประมาณ 1,000-2,000 คน ต้องเข้ารับการทดสอบ และในอนาคตจะมีการขยายมาตรการให้ครอบคลุมครูและบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนเอกชน และโรงเรียนอนุบาลต่อไป
 
ภาพจาก : https://undubzapp.com/
 
อันดับสุดท้ายที่ 5 กับ สหราชอาณาจักร ที่มีชื่อเสียงด้านการศึกษาติดอันดับโลกมาตลอด กว่าจะเป็นครูต้องผ่านการทั้งการเรียน การฝึกอบรมและการสอบ Qualified Teacher Status – QTS เพื่อรับใบวิชาชีพครู โดยจะแบ่งเป็น 2 ทางหลัก ๆ คือหากเป็นครูประถมจะต้องเข้าเรียนหลักสูตรครู 4 ปีจากคณะศึกษาศาสตร์ และเข้าฝึกอบรมครูในโปรแกรม Initial Teacher Training (ITT) โดยจะให้ฝึกสอนเป็นเวลา 1 ปี ตามโรงเรียน 3 แห่ง ที่ละ 6-8 สัปดาห์ ได้ฝึกทำหน้าที่ครูจริง และมีพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาระหว่างฝึกอบรม แต่หากอยากสอนในระดับมัธยมศึกษาส่วนมากจะต้องเรียนในคณะวิชานั้นโดยตรง เช่นหากต้องการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ในมัธยมปลายการเรียนคณะเคมีในระดับปริญญาตรีก่อนที่จะศึกษาต่ออีก 1 ปีเพื่อรับประกาศนียบัตรบัณฑิตด้านการศึกษา (PGCE) และเข้าฝึกอบรมครูในโปรแกรม Initial Teacher Training (ITT) ก่อนจะสอบใบประกอบวิชาชีพ Qualified Teacher Status – QTS เพื่อเข้าสอนเป็นครูในโรงเรียนของสหราชอาณาจักร อีกทั้งในบางรัฐของอังกฤษเช่น สกอตแลนด์ คุณครูที่ประสงค์จะสอนในสกอตแลนด์จะต้องลงทะเบียนกับ General Teaching Council for Scotland (GTCS) ดำเนินการโดยไม่ขึ้นกับรัฐบาลสหราชอาณาจักรในการสร้างและทบทวนมาตรฐานการศึกษาและมาตรฐานการฝึกอบรมสำหรับครู ครูทุกคนในสกอตแลนด์ต้องลงทะเบียนกับ GCTS เพื่อให้เป็นครูที่ถูกต้องตามกฎหมายและในแต่ละรัฐของอังกฤษนั้นมีเงื่อนไขอื่น ๆ แตกต่างไปเล็กน้อยตามนโยบายการศึกษาของรัฐต่าง ๆ แต่เส้นทางเป็นครูยังเป็นมาตรฐานเดียวกันกับรัฐบาลกลาง
 
ไทยเราเองก็มีมาตรฐานในการสอบคัดเลือกครู จากสถิติยอดสมัครเข้าสอบของปี 2564 พบว่ามีผู้สมัครสอบกว่า 1.7 แสนคน แต่รับเพียง 1.1 หมื่นคนทั่วประเทศไทยเท่านั้น และในหลายพื้นที่ยังขาดแคลนครู ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น? ทั้งที่มีผู้สมัครเป็นจำนวนมาก อ้างอิงจากผลสำรวจของเด็กมัธยมปลายที่ยื่นสมัครต่อมหาวิทยาลัยผ่านระบบ TCAS63 พบว่าคณะครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์ไม่ติด 1 ใน 5 อันดับคณะยอดนิยมที่นักเรียนอยากเรียนทั้ง ๆ ที่ผลสำรวจอาชีพในฝันของเด็กอายุ 7-14 ปีของปี 2564 พบว่าครูเป็นอาชีพในฝันอันดับที่ 2 ของเด็กไทย เป็นคำถามที่ทำให้ฉุกคิดได้ว่า ครูในเมืองไทยถูกให้ความสำคัญไม่มากพอเมื่อเทียบกับต่างชาติ ทั้ง ๆ ที่เป็นรากฐานของการพัฒนาคนที่จะเป็นอนาคตของชาติหรือไม่?
 

ขอบคุณข้อมูลจาก www.attanai.com

  


กว่าจะเป็นครู : สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา EP.2กว่าจะเป็นครู:สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษาEP.2

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ปฏิรูปการศึกษา ?

ปฏิรูปการศึกษา ?


เปิดอ่าน 8,327 ครั้ง
เราสอบไปเพื่ออะไร?

เราสอบไปเพื่ออะไร?


เปิดอ่าน 21,342 ครั้ง
ระบบการศึกษาไม่สมดุล (2)

ระบบการศึกษาไม่สมดุล (2)


เปิดอ่าน 7,884 ครั้ง
Advertisement


:: เรื่องปักหมุด ::

ปฏิรูปการศึกษาให้ได้ผล ต้องตั้งต้นจากผลการประเมิน

ปฏิรูปการศึกษาให้ได้ผล ต้องตั้งต้นจากผลการประเมิน

เปิดอ่าน 7,598 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
หนี้การศึกษา
หนี้การศึกษา
เปิดอ่าน 7,911 ☕ คลิกอ่านเลย

Smart Thailand
Smart Thailand
เปิดอ่าน 8,584 ☕ คลิกอ่านเลย

การศึกษาในศตวรรษที่ 21 รร.ต้องร่างหลักสูตรให้เด็กเป็นผู้บริหาร
การศึกษาในศตวรรษที่ 21 รร.ต้องร่างหลักสูตรให้เด็กเป็นผู้บริหาร
เปิดอ่าน 7,820 ☕ คลิกอ่านเลย

นโยบายการศึกษามาจากไหน-ทำไมถึงไม่สำเร็จ
นโยบายการศึกษามาจากไหน-ทำไมถึงไม่สำเร็จ
เปิดอ่าน 9,841 ☕ คลิกอ่านเลย

Area-Based Education สร้างการศึกษาตอบโจทย์จังหวัด
Area-Based Education สร้างการศึกษาตอบโจทย์จังหวัด
เปิดอ่าน 8,879 ☕ คลิกอ่านเลย

ยิ่งกวดวิชามาก ยิ่งสะท้อนปัญหามาก
ยิ่งกวดวิชามาก ยิ่งสะท้อนปัญหามาก
เปิดอ่าน 7,847 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

อะไรเอ่ยสะสมเชื้อโรคมากที่สุดในห้องสุขาที่คุณรัก ?
อะไรเอ่ยสะสมเชื้อโรคมากที่สุดในห้องสุขาที่คุณรัก ?
เปิดอ่าน 14,871 ครั้ง

นักวิจัย สกสว.เจ๋ง ผลิต ‘มือเทียมกล’ ควบคุมผ่านสัญญาณไฟฟ้าในกล้ามเนื้อ เพื่อคนพิการ
นักวิจัย สกสว.เจ๋ง ผลิต ‘มือเทียมกล’ ควบคุมผ่านสัญญาณไฟฟ้าในกล้ามเนื้อ เพื่อคนพิการ
เปิดอ่าน 8,998 ครั้ง

"เผยแผ่" กับ "เผยแพร่"
"เผยแผ่" กับ "เผยแพร่"
เปิดอ่าน 10,060 ครั้ง

เจาะนวัตกรรม 4 ล้อ ในปี 2553
เจาะนวัตกรรม 4 ล้อ ในปี 2553
เปิดอ่าน 11,915 ครั้ง

ฮาร์วาร์ด : สุดยอดมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของโลก
ฮาร์วาร์ด : สุดยอดมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของโลก
เปิดอ่าน 13,824 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ