วันที่ 19 มิถุนายน 2565 ฐานเศรษฐกิจ รายงานว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ตอนนี้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) เห็นชอบโครงการ "รัฐทัวร์ทั่วไทย" เป็นโครงการที่กระตุ้นการเดินทางและการใช้จ่ายจากการท่องเที่ยว ผ่านการส่งเสริมการโดนทางของข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ขณะนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) เห็นชอบการดำเนินโครงการ “รัฐทัวร์ทั่วไทย” ซึ่งเป็นโครงการกระตุ้นการเดินทางและการใช้จ่ายจากการท่องเที่ยว ผ่านการส่งเสริมการเดินทางของข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ
สำหรับรูปแบบการดำเนินโครงการเบื้องต้นจะเปิดโอกาส ซึ่งจะเป็นหนึ่งในแนวทางการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว และการกระตุ้นการใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
“ให้ทำงานนอกสถานที่หยุดติดต่อกัน 2 วันก็ได้ หรือแยกเป็นวันก็ได้ จะวันศุกร์ หรือวันจันทร์ เพื่อให้มีวันหยุดยาว 3 วันก็ได้ โดยไม่ถือเป็นวันลา เพื่อจะช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่ง โดยที่ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเดินทางไปในเมืองรองเท่านั้น แต่สามารถเดินทางไปเมืองท่องเที่ยวไหนก็ได้ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะเป็นหน่วยงานนำร่องเรื่องนี้” นายพิพัฒน์ ระบุ
ทั้งนี้ในการดำเนินโครงการ จะมีลักษณะเดียวกับแนวทางการส่งเสริม Workation หรือการทำงานในขณะท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงการท่องเที่ยวฯ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ส่งเสริมการท่องเที่ยวในลักษณะนี้ในภาคเอกชน หรือมีลักษณะเดียวกับ Work From Anywhere คือการปฏิบัติงานจากที่ไหนก็ได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีองค์กรหลายแห่งสนับสนุนการทำงานในลักษณะนี้หลายแห่ง
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า โครงการ “รัฐทัวร์ทั่วไทย” ถือเป็นโครงการใหม่ ที่จะเข้ามากระตุ้นการท่องเที่ยวไทยในช่วงที่เหลือของปี 2565 โดยหลังจากผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุม ท.ท.ช. แล้ว จะต้องเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห้นชอบ และน่าจะเริ่มโครงการได้ในเดือนกรกฎาคม 2565 นี้ ซึ่งจะเข้ามาสนับสนุนโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 ส่วนต่อขยาย 1.5 ล้านสิทธิ อีกทางหนึ่งด้วย
อย่างไรก็ตามในการประชุมท.ท.ช. ครั้งล่าสุด นอกจากโครงการ “รัฐทัวร์ทั่วไทย” แล้ว ที่ประชุมยังเห็นชอบแนวทางความร่วมมือในการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศกระตุ้นการเดินทางและส่งเสริมภาพลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้โครงการ “หรอยแรง ดินแดน 5 แหล่งใต้” (ยะลา นราธิวาส ปัตตานีสตูล สงขลา)
นอกจากนี้ยังเห็นชอบการประกาศพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ตามที่องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เสนอ รวมเนื้อที่ประมาณ 5,553.260 ตารางกิโลเมตร
โดยครอบคลุม 15 อำเภอ ใน 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสงขลา 8 อำเภอ (อำเภอเมืองสงขลา ระโนด สทิงพระ กระแสสินธุ์ สิงหนคร หาดใหญ่ ควนเนียง และบางกล่ำ) จังหวัดพัทลุง 5 อำเภอ (อำเภอเมืองพัทลุง ปากพะยูน บางแก้ว เขาชัยสนและควนขนุน) และจังหวัดนครศรีธรรมราช 2 อำเภอ (อำเภอชะอวด และหัวไทร)
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล วันที่ 19 มิ.ย. 2565