จำเรียงรักษ์อักษรผ่านกลอนกาพย์
|
บ่งซึ้งซาบรสกวีศรีสยาม
|
"สุนทรภู่"ครูกลอนกระฉ่อนนาม
|
ทั่วเขตคามคราอ่านพล่านอารมณ์
|
ทั้งแว่วหวานตาลหยดมดตอมไต่ |
โอดอาลัยโศกเศร้าเคล้าทุกข์ถม |
ไหลลดเลี้ยวทะเล้นล้วนโลมลม |
พอกเพาะบ่มสั่งสอนแทรกซ้อนธรรม |
แทรกคติชี้นำย้ำให้คิด |
คราชีวิตหนามยอกออกระส่ำ |
บอกสาเหตุเจตนาพาระกำ |
คนอ่านนำประยุกต์ใช้ได้ทุกครา |
ยอดนิราศปราชญ์นิทานคนขานกล่าว |
จินตกวีเรื่องราวจนกังขา |
ไม่เคยพบไม่เคยเห็นเป็นบุญตา |
กลับเกิดมาชี้ชัดปัจจุบัน |
ซึ้งพระคุณครูกลอนที่สอนศิษย์ |
จึงอุทิศใจกายหมายมุ่งมั่น |
สืบอักษรกลอนครูอยู่นิรันดร์
|
แพร่วงวรรณศาสตร์ศิลป์ทั่วถิ่นไทย |
|
ครูภาทิพ มิถุนายน ๒๕๔๘ |
ตัวอย่างบทประพันธ์ที่ควรจำ
กลอนสุภาพพึงจำมีกำหนด
|
กลอนหนึ่งบทสี่วรรคกรองอักษร |
วรรคละแปดพยางค์นับศัพท์สุนทร |
อาจยิ่งหย่อนเจ็ดหรือเก้าเข้าหลักการ |
ห้าแห่งคำคล้องจองต้องสัมผัส |
สลับจัดรับรองส่งประสงค์สมาน |
เสียงสูงต่ำต้องเรียงเยี่ยงโบราณ |
เป็นกลอนกานท์ครบครันฉันท์นี้เอย |
|
ฐะปะนีย์ นาครทรรพ
ม.ล.บุญเหลือ เทพสุวรรณ ประพันธ์ |
ความไพเราะของกลอนสุภาพ
คณะของกลอนสุภาพ
หนึ่งบทมี ๔ วรรค วรรคละ ๘- ๙ พยางค์
๘ พยางค์ไพเราะที่สุดสัมผัสบังคับของ
กลอนสุภาพเป็นสัมผัสสระตามแผนผัง
สัมผัสระหว่างวรรค
พยางค์สุดท้ายของวรรคที่ ๑ สัมผัสกับพยางค์ที่ ๓
หรือ ๕ ในวรรคที่ ๒ พยางค์สุดท้ายของวรรคที่ ๒
สัมผัสกับพยางค์สุดท้ายของวรรคที่ ๓
และสัมผัสกับพยางค์ที่ ๓ หรือ ๕ ในวรรคที่ ๔
สัมผัสระหว่างบท
พยางค์สุดท้ายของบทต้น สัมผัสกับพยางค์สุดท้าย
ของวรรคที่ ๒ของบทถัดไป
ดอกสร้อยมาลี
กลอนนิราศ
กลอนนิราศมีฉันทลักษณ์เหมือนกลอนสุภาพ
ทุกประการเพียงแต่กลอนนิราศจะขึ้นต้นบทแรก
ด้วยวรรคที่ ๒ คือวรรครับ และลงท้าย
ในการจบด้วยเอย ครูกลอนนิราศคือ
ท่านสุนทรภู่กวีเอกของโลก แหล่งเรียนรู้กลอนนิราศ |
ดอกสร้อยฟ้า
สัมผัสใน
กลอนสุภาพจะมีความไพเราะยิ่งขึ้นไปนอกเหนือ
จากการสัมผัสตามสัมผัสบังคับแล้ว ยังต้องมี
สัมผัสในที่เป็นสัมผัสสระและสัมผัสอักษร
อีกด้วยสัมผัสสระ และสัมผัสอักษรเป็นอย่างไร ?
นอกจากสัมผัสในแล้ว เสียงวรรณยุกต์ท้ายวรรค
แต่ละวรรคก็มีความเช่นเดียวกัน ลองสังเกต
ตัวอย่างดูนะคะ
|
ตัวอย่างสัมผัสบังคับของกลอนสุภาพ
ดอกสร้อยฟ้าเลื้อยเลาะเกาะไม้ใหญ่ |
ม่วงไสวกระจายคล้ายรัศมี |
ยามลมโชยโปรยกลิ่นแสนยินดี |
คือมาลีงดงามนามสร้อยฟ้า |
สร้อยมาลีในป่าน่าเพาะเลี้ยง |
ไว้คู่เคียงข้างบ้านม่านพฤกษา |
ส่งกลิ่นหอมพร้อมกันเดือนธันวาฯ |
สร้อยมาลีหลากค่าน่านิยม |
ครูภาทิพ
|
ดอกมลุลี และดอกรสสุคนธ์
มลุลีรวยรินส่งกลิ่นหอม |
ยั่วพยอมหลากสีที่ในป่า |
ดอกสีขาวพราวพร่างกระจ่างตา |
งามสง่ารูปกลิ่นเป็นปิ่นไพร |
รสสุคนธ์เลื้อยเลาะเกาะเป็นซุ้ม |
เขียวชอุ่มอวบอ้วนชวนหลงใหล |
รสสุคนธ์คงอยู่คู่เนาไพร |
คมสากใบบาดเจ็บกว่าเล็บนาง |
|
ครูภาทิพ ศรีสุทธิ์ |
|
ตัวอย่างการเล่นสัมผัสใน
สร้อยอินทนิลถิ่นอยู่คู่เคียงป่า |
ดอกสีฟ้าเข้มอ่อนอ้อนออกช่อ |
เป็นระย้าเรียงย้อยห้อยเคลียคลอ |
ดุจจะล้อโลมดินถิ่นแอบเคียง |
อิน-นิล-ถิ่น / อยู่-คู่ เป็นสัมผัสสระ |
คู่-เคียง เป็นสัมผัสอักษร |
ย้อย-ห้อย / ดิน-ถิ่นเป็นสัมผัสสระ |
อ่อน -อ้อน-ออก เป็นสัมผัสอักษร |
ย้า -ย้อย /เคลีย-คลอ เป็นสัมผัสอักษร |
ล้อ-โลม เป็นสัมผัสอักษร |
|
|
เสียงวรรณยุกต์ท้ายวรรค
พยางค์ท้ายวรรคที่ ๒
|
นิยมเสียงจัตวา เอก และโท |
พยางค์ท้ายวรรค ๓ และ ๔ |
นิยมเสียงสามัญ และตรี ไม่นิยมเสียง จัตวา เอก และโท |
ไม้ไทยงามนามเด่น
กรรณิการ์กลีบขาวดุจดาวแจ่ม
เผยกลีบแย้มโปรยกลิ่นถิ่นพฤกษา
คราค่ำคืนชื่นจิตให้นิทรา
ตื่นเช้ามากลีบร่วงล่วงสู่ดิน
เปรียบดอกไม้คล้ายเป็นเช่นมนุษย์
มีสูงสุดต่ำตกล้วนผกผิน
มีกลิ่นหอมกำจายให้ยลยิน
มีหมดกลิ่นโรยร่วงตามบ่วงกาล
: หมูอ้วน - 29/09/2003 13:51
|
กระดังงากลิ่นอวลชวนหลงใหล
ลมล้อไกวกิ่งก้านซ่านกลิ่นหอม
สีเหลืองนวลชวนภมรต้อนไต่ตอม
โอบกิ่งค้อมคุ้มแดดมิแผดกาย
กระดังงาอาบกลิ่นประทินโฉม
ลมลูบโลมลอบยลจนเช้าสาย
เสน่ห์คนคงมิใช่เพียงกลิ่นอาย
ทำความดีมาดหมายจึงหอมนาน
: หมูอ้วน - 01/10/2003 10:34
|
กระดุมทองทองเขียวม้วนเกลียวหยัก
ดอกน่ารักยั่วยวนชวนหลงใหล
ดอกกระจิ๊ดกรีดบาดแทบขาดใจ
ด้วยคมใบสากสากยากเก็บชม
กระดุมทองเพียงไม้ใช่ทองแท้
คนเหลียวแลเพียงครู่ดูสุขสม
หากทองแท้คงจะแย่คนชิงชม
หวังเก็บอมซ่อนแอบแนบกับตน
: หมูอ้วน - 01/10/2003 10:59
|
กลิ่นกุหลาบซาบซ่านหวานเฉกรัก
ทั้งรูปลักษณ์กลิ่นไอใคร่ใฝ่หา
มีหนามแต้มก้านกิ่งยิ่งยั่วตา
หากใครคว้าบาดเจ็บกว่าเล็บนวล
จึงสอนหญิงหวงกายคล้ายกุหลาบ
คราชายทาบทักทายให้สงวน
หากปล่อยปละชายลามหยามเกินควร
เจ้าจะด่วนโรยรากว่ามาลี
หมูอ้วน - 01/10/2003 13:
|
เข็มขาวเหลืองชมพูปลูกคู่บ้าน
ดอกทนทานปลูกง่ายให้ได้เห็น
หากสรรหามาฝากมิยากเย็น
คราจำเป็นไหว้ครูก็ดูดี
ปลูกเป็นรั้วยั่วยวนชวนเก็บภาพ
น้ำค้างอาบประกายฉายรัศมี
หมู่ภมรซอนซุกทุกเดือนปี
ภุมรีดูดน้ำหวานจนซ่านทรวง
: หมูอ้วน - 01/10/2003 14:10
|
กระทุ่มนาดอกกลมข่มจันทร์แจ่ม
กลีบดอกแหลมปลายแยกแตกสาขา
เหลืองสว่างพร่างเกลื่อนเดือนกันยา
เนื้อใบหนายอดแหลมแซมป่างาม
สูงห้าเมตรปลูกง่ายใช้เมล็ด
พรวนดินเสร็จปลูกปักมิพักถาม
ไม้ผลัดใบปลูกง่ายใกล้เขตคาม
เหลืองอร่ามเต็มพุ่มกระทุ่มนา
หมูอ้วน - 02/10/2003 14:23
|
กาฬพฤกษ์ก้านดำคล้ำเฉกดึก
หากเพียงชื่อคงนึกเรื่องร้ายแฝง
ดอกแดงแสดแผดสีที่ร้อนแรง
ยามลมแกว่งกลีบปรายคล้ายมณี
เจ้าเปลี่ยนสีแดงชมพูสู่สีส้ม
เดือนกุมภาฯ ล้อลมข่มแสงสี
กลีบกระดกวกกลับเป็นวงรี
กาฬพฤกษ์เด่นดีด้วยสีเพลิง
: หมูอ้วน - 02/10/2003 14:43
|
ดอกกันเกราเหลืองนวลชวนชมดอก
ชอบผลิออกดินชื้นยืนต้นใหญ่
เบญจพรรณนั้นจะเห็นโดดเด่นไกล
น้ำท่วมใหญ่ระวังน้ำขังตาย
ดอกกระจุกช่อสั้นผันผลิช่อ
กรกฎาเพียงรอจะสมหมาย
เดือนสิงหาลาต้นผลสุกกราย
สลับย้ายดอกผลวนตามกาล
: หมูอ้วน - 02/10/2003 14:56
|
ดอกกาหลงรวยรินส่งกลิ่นหอม
น่าถนอมกลีบบางพร่างสีขาว
ห้ากลีบงามสวยสุดดุจดวงดาว
สุกสกาวผลิดอกออกทั้งปี
ขยายพันธุ์ง่ายง่ายใช้เมล็ด
.เตรียมดินเสร็จฝนพรำฉ่ำได้ที่
ฝังเมล็ดกลบไว้ใต้ดินดี
อีกไม่นานพงพีมีไม้งาม
หมูอ้วน - 28/10/2003 13:10 |
กัลพฤกษ์เด่นตากลางฟ้าใส
บานไสวสีชมพูดูงามเหลือ
แต่งช่อก้านหวานพราวขาวแต้มเจือ
มองมิเบื่อเมื่อเห็นดูเด่นตา
จากกุมภาถึงเมษามาผลิดอก
ป่าเขางอกเบญจพรรณนั่นงามหนา
ใกล้ปิดเทอมเริ่มเห็นเช่นบอกมา
เร่งศึกษาเตรียมตอบข้อสอบเอย
|
ห้องเรียนสีชมพู กระดานสีชมพู เรียนรู้ร้อยกรองอื่น ๆ คุยกับครูภาทิพ
จัดทำโดย
ครูภาทิพ ศรีสุทธิ์
bhatips@hotmail.com tipsrisut@yahoo.com
คุณเป็นผู้เยี่ยมชมลำดับที่ ตั้งแต่ 18 กันยายน 2546
สมุดเยี่ยม