สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่ในสิ่งแวดล้อมทั่วไปของโลก ทั้งบนบกและในน้ำ สัตว์ทุกตัวต้องพยายามดิ้นรนเพื่อการอยู่รอดในแต่ละวัน สิ่งจำเป็นที่ช่วยให้สัตว์ดำรงชีวิตได้ ได้แก่
สัตว์ไม่สามารถสร้างอาหารเองได้ เนื่องจากไม่สามารถปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ได้ จึงต้องหาอาหารกินเองทุกครั้ง อาหารของสัตว์สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ เนื้อสัตว์และพืช
- สัตว์กินเนื้อ จะใช้วิธีเสาะหาแหล่งอาหาร ออกล่าเหยื่อ โดยใช้อวัยวะพิเศษของตัวเอง เช่น เสือ สิงโต หมาป่า ใช้เขี้ยวเล็บแหลมคม นกเค้าแมวใช้ หูตาไวในการล่าเหยื่อ
- สัตว์กินพืช เช่น หญ้า ใบไม้ ผลไม้ สัตว์ประเภทนี้มักอาศัยอยู่ในทุ่งหญ้า หรือป่าที่สมบูรณ์
สัตว์ต้องการที่หลบภัย ที่อาศัย เช่น ตัวตุ่น กระรอก กระต่าย อาศัยอยู่ในโพรง นก มด ผึ้ง ปลวก รู้จักสร้างรัง
ง สัตว์นอกจากจะเป็นนักล่าแล้ว ยังต้องรู้จักป้องกันตนเองจากการล่าด้วย สัตว์แต่ละชนิดมีวิธีช่วยให้ตัวเองปลอดภัยจากอันตรายแตกต่างกัน เช่น
- กวาง กระต่าย นก มีประสาทสัมผัสที่ดี หูได้ยิน ตามองเห็น และจมูกได้กลิ่นไว รู้จักหลบหลีกด้วยความว่องไว
- กิ้งก่า จิ้งจก ตั๊กแตน งู ปลากระเบน หมึก มีการพรางตัว เพื่อเป็นผู้ล่าและผู้หลบหนี
- สัตว์ที่มีอวัยวะไว้ป้องกันตนเอง เช่น ผึ้ง มีเหล็กใน ปลาไหลไฟฟ้า เม่นมีขนแข็ง เต่ามีกระดอง คางคกมีพิษที่ผิวหนัง
สัตว์มีการดำรงเผ่าพันธุ์ของมัน โดยการออกลูกเป็นตัวและออกลูกเป็นไข่ เช่น
- เสือ ช้าง ม้าลาย สุนัข แมว ออกลูกเป็นตัว เลี้ยงดูลูกด้วยนม ดูแลลูกให้ปลอดภัยจากสัตว์อื่น
- ไก่ จระเข้ นก มก ออกลูกเป็นไข่ ดูแลไข่จนฟักเป็นตัว มีสัตว์บางชนิดออกลูกเป็นไข่แต่ไม่เลี้ยงดู เช่น ยุง แมลงวัน เต่า กบ เป็นต้น
สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มนุษย์ควรอนุรักษ์เผ่าพันธุ์เอาไว้ให้ดำรงอยู่ตลอดไป ถ้าสัตว์ชนิดใดสูญพันธุ์ หรือลดน้อยลงไป จะทำให้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบนโลกเปลี่ยนแปลงไป และมนุษย์เราไม่สามารถเรียกคืนสิ่งเหล่านั้นกลับคืนมาได้
ที่มา ทรูปลูกปัญญา