Advertisement
|
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษา ธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า สำนักงาน ก.ค.ศ.ได้รายงานความคืบหน้าการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนวิทยฐานะแบบใหม่ หรือ ว2 ซึ่งที่ประชุมได้ให้แนวทางการปรับปรุงว่า ควรมุ่งเน้นการประเมินจากผลการปฏิบัติงาน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โดยควรให้ค่าน้ำหนักการประเมินส่วนนี้มากกว่าการจัดทำเอกสารวิชาการ ส่วนจะใช้สัดส่วนที่เหมาะสมอย่างไรให้คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เป็นผู้กำหนด
นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้จะมีการปรับปรุงองค์ประกอบของกรรมการผู้ประเมินผลงานด้วย โดยให้มีกรรมการจากบุคคลภายนอก 1 คน นอกเขตพื้นที่การศึกษา 1 คน และในเขตพื้นที่การศึกษา 1 คน จากเดิมที่กำหนดให้มีกรรมการในเขตพื้นที่การศึกษา 2 คน และนอกเขตพื้นที่การศึกษา 1 คน ทั้งนี้เมื่อปรับปรุงตามแนวทางดังกล่าวแล้ว สำนักงาน ก.ค.ศ. ยังต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นทั้ง 4 ภาค และจัดทำรายละเอียดเสนอที่ประชุม ก.ค.ศ.พิจารณาภายในเดือนมิ.ย.นี้ ซึ่งตนอยากให้ทำโดยด่วน เพื่อจะได้ประกาศให้ครูได้ทราบและเตรียมตัวล่วงหน้า โดยยืนยันว่า หลักเกณฑ์นี้จะใช้ได้ทันวันที่ 1 ต.ค.นี้แน่นอน
นายประเสริฐ งามพันธุ์ เลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าวว่า ที่ผ่านมา ก.ค.ศ. ได้จัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ผลงานวิชาการไม่ผ่านเกณฑ์ประเมินตามที่ ก.ค.ศ.กำหนด เพื่อให้ได้มีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ โดยจะให้มีวิทยากรจากคณะครุศาสตร์ หรือศึกษาศาสตร์ของสถาบันอุดมศึกษาช่วยพัฒนาและประเมินผลก่อนการพัฒนาเพื่อวิเคราะห์จุดเด่น จุดด้อย และหลังการพัฒนาจะมีการประเมินประมวลความรู้ในแต่ละกลุ่มสาระ เพื่อวัดมาตรฐานประกอบการพิจารณาการผ่านเกณฑ์การพัฒนา รวมทั้งการเรียนรู้ที่หลากหลาย โดยการฝึกอบรมผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ E-Training และเข้าอบรมพัฒนาตามที่ต้นสังกัดกำหนด
“อย่างไรก็ตามผมได้รับร้องเรียนจากครูจำนวนมากว่าได้รับการติดต่อให้เข้าร่วมอบรม โดยมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ซึ่งถือว่าเป็นการแอบอ้างชื่อ ก.ค.ศ. เพราะ ก.ค.ศ. มีนโยบายจะพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะในการปฏิบัติงาน เพื่อความก้าวหน้าในวิชาชีพ มุ่งสู่คุณภาพผู้เรียนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด จึงอยากเตือนเพื่อนครูอย่าได้หลงเชื่ออย่างเด็ดขาด” นายประเสริฐ กล่าว.
|
ที่มา เดลินิวส์ / วันที่ 5 พ.ค.52
วันที่ 5 พ.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,148 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,150 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,295 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,145 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,248 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 92,885 ครั้ง |
เปิดอ่าน 26,136 ครั้ง |
เปิดอ่าน 19,897 ครั้ง |
เปิดอ่าน 8,459 ครั้ง |
เปิดอ่าน 11,298 ครั้ง |
|
|