ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก
มาตรการเปิดเรียน On-Site ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ติดเชื้อ-เสี่ยงสูง เรียนได้ไม่ต้องปิดโรงเรียน
ข่าวการศึกษา 4 พ.ค. 2565 เวลา 13:21 น. เปิดอ่าน : 7,628 ครั้ง
มาตรการเปิดเรียน On-Site ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ติดเชื้อ-เสี่ยงสูง เรียนได้ไม่ต้องปิดโรงเรียน

Advertisement

สธ. – ศธ. ประชุมร่วม สสจ. แจงมาตรการเปิดเรียน On-Site ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตั้งแต่ปีการศึกษา 2565 นี้ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการ ได้ปรับเปลี่ยนมาตรการการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อการเรียนรู้ที่ดีในโรงเรียนของเด็กไทยต่อไป โดยในวันนี้ได้มีการประชุมชี้แจงมาตรการเปิดเรียน On-Site ปลอดภัย อยู่ได้กับโควิด-19 ในสถานศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ด้วยหลักการพื้นฐานก็คือ 3T 1V “ตัดความเสี่ยง เพิ่มภูมิคุ้มกัน” มาตรการ 6-6-7 เป็นสิ่งที่ยังคงเน้นย้ำ ส่วนโรงเรียนประจำ ต้องดำเนินการตาม Sandbox Safety zone in School โดยเน้นย้ำพื้นที่ ประกอบด้วย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และศึกษาธิการจังหวัดให้ดำเนินการ เพื่อให้เด็กไทยสามารถเรียนรู้ที่โรงเรียนได้เต็มที่ ตามมาตรการต่อไปนี้คือ

1) เร่งรัดการฉีดวัคซีน เพื่อให้นักเรียนได้รับวัคซีนตามความสมัครใจให้ครอบคลุม

2) สถานศึกษา ต้องเข้ารับการประเมิน Thai Stop COVID Plus โดยต้องผ่านการประเมินมากกว่าร้อยละ 95

3) เน้นย้ำการทำตามแผนเผชิญเหตุ เมื่อเจอผู้ติดเชื้อ หรือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงไม่ดำเนินการปิดชั้นเรียนหรือโรงเรียน เป้าประสงค์นักเรียนควรได้รับการเรียนรู้อย่างเต็มที่ที่โรงเรียน และ

4) เน้นย้ำสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดให้ปฏิบัติตามมาตรการ โดยมอบหมายให้ศูนย์อนามัยในเขตสุขภาพเป็นพี่เลี้ยง

 ในส่วนของแผนเผชิญเหตุ ภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2565 นี้ หากพบผู้ติดเชื้อในโรงเรียนประจำให้แยกกักตัวที่โรงเรียน (School Isolation) ตามมาตรการ Sandbox: Safety Zone in School (SSS) สำหรับโรงเรียนไป - กลับ ให้ปฏิบัติตามมาตรการการรักษาของกระทรวงสาธารณสุข หรือพิจารณาจัดทำ School Isolation โดยคณะกรรมการสถานศึกษา หน่วยงานสาธารณสุข ผู้ปกครอง ชุมชน พิจารณาร่วมกันให้ความเห็นชอบตามความเหมาะสม จุดเน้นที่แตกต่างเมื่อพบผู้ติดเชื้อในห้องเรียน คือ ให้ทำความสะอาดห้องเรียน ตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข แล้วดำเนินการเรียนการสอนได้ตามปกติ ส่วนจุดเน้นที่แตกต่างเมื่อพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงคือ ถ้านักเรียนได้วัคซีนครบตามแนวทางปัจจุบัน และไม่มีอาการ ไม่แนะนำให้กักกัน พิจารณาให้เข้าเรียนได้โดยพิจารณาร่วมกันระหว่างครอบครัว สถานบริการสาธารณสุข และสถานศึกษา กรณีไม่ได้รับวัคซีน ให้แยกกักกัน (Self-quarantine) เป็นเวลา 5 วัน และติดตามเฝ้าระวังอีก 5 วัน รวมเป็น 10 วัน ทั้งนี้ หากมีอาการ ให้ตรวจคัดกรอง ATK ทันที หากไม่มีอาการ ไม่จำเป็นต้องตรวจ ATK โดยผู้สัมผัสเสี่ยงสูง แนะนำให้ตรวจ ATK ในวันที่ 5 และวันที่ 10 หลังจากสัมผัสผู้ติดเชื้อ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

ทางด้าน ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 1/2565 สิ่งที่ทุกสถานศึกษาต้องทำ คือ การประเมินตนเองในระบบ Thai Stop COVID Plus ซึ่งเป็นมาตรการของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข การประเมินนี้จะมีการประเมินอยู่ 44 ข้อ ทั้งในแง่ของการเตรียมการ และการจัดการด้านกายภาพ ส่งไปยังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดที่โรงเรียนตั้งอยู่ เป็นผู้พิจารณาอนุญาตให้เปิดเรียนได้ เมื่อเปิดเรียนในวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 ทุกสถานศึกษาต้องดำเนินงานตามมาตรการ 6-6-7 และประเมินตนเองผ่าน “ไทยเซฟไทย” ซึ่งสิ่งที่แตกต่างระหว่างภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 กับภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 คือ การเว้นระยะห่างในห้องเรียน จะเหลือ 1 เมตร จาก 1.5 เมตร เพราะฉะนั้น ห้องเรียนปกติที่มีขนาด 8 X 8 เมตร สามารถจัดโต๊ะเรียนได้ 7 แถว ๆ ละ 6 ที่นั่ง รวม 42 คน ซึ่งโดยปกติ 1 ห้องเรียนจะมีนักเรีนนประมาณ 40 คน ไม่มีปัญหาในเรื่องการเว้นระยะห่าง แต่อาจจะมีปัญหาในโรงเรียนประถมศึกษาบางแห่งเท่านั้น ที่เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ บางห้องอาจจะมีขนาด 6 X 8 เมตร และสิ่งสุดท้ายที่มีความแตกต่าง คือ บางโรงเรียนเป็นการเรียนในห้องปรับอากาศ ต้องมีการเปิดระบายอากาศ ทุก 2 ชั่วโมง เป็นเวลา 10 นาที ในช่วงพัก สำหรับโอกาสติดเชื้อและแพร่เชื้อในโรงเรียน คือ การถอดหน้ากาก กินข้าวร่วมกัน สนทนาระหว่างกันโดยไม่สวมหน้ากาก ดังนั้น ในโรงอาหารควรมีการแยกสำรับกับข้าว แยกพื้นที่งดการพูดคุย ขณะกินอาหาร และเมื่อมีการเล่นร่วมกัน ควรสวมหน้ากากตลอดเวลา แต่ถ้ามีการแพร่ระบาดในโรงเรียน ขอให้ทุกสถานศึกษาดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุ เช่น หากพบผู้ติดเชื้อเข้าไปเรียนให้ปิดทำความสะอาด 3 วัน แล้วเปิดเรียนตามปกติ โดยสิ่งที่น่ากังวัล คือ ถ้ามีผู้ติดเชื้อมากกว่า 5 คน มีการแพร่กระจายมากกว่า 2 ห้อง ทางโรงเรียน ต้องประสานไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อเข้ามากำกับดูแล ระงับการแพร่ระบาดต่อไป

ทางด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมสำหรับมาตรการเปิดเรียน On-Site ปลอดภัย อยู่ได้กับโควิด 19 ในสถานศึกษา รับเปิดเทอม On-Site ตามมาตรการความปลอดภัย 3T 1V ประกอบด้วย T : Thai Stop COVID Plus (TSC+) : โรงเรียนต้องประเมินตนเอง เตรียมความพร้อม ก่อนเปิดเรียน T : Thai Save Thai (TST) : นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาประเมินความเสี่ยงตนเองเป็นประจำ T : Test : เฝ้าระวังอย่างเหมาะสม ตรวจคัดกรอง เช่น ATK เมื่อมีความเสี่ยง หรือ เมื่อมีอาการ และ V : Vaccine : ครู บุคลากร ผู้ปกครอง และเด็ก 5 - 17 ปี ได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ สำหรับมาตรการ 6-6-7 ประกอบด้วย 6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) ได้แก่ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือ ตรวจคัดกรอง ลดแออัด ทำความสะอาด 6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) ได้แก่ ดูแลตนเอง ใช้ช้อนส่วนตัว กินอาหารปรุงสุกใหม่ ลงทะเบียนเข้า-ออก สำรวจตรวจสอบ กักกันตนเองและ 7 มาตรการเข้ม ได้แก่ 1) ประเมิน Thai Stop COVID Plus (TSC+) และรายงานผล ผ่าน MOECOVID 2) ทำกิจกรรมกลุ่มย่อย (Small Bubble) 3) จัดระบบการให้บริการอาหารตามหลักสุขาภิบาลและหลักโภชนาการ 4) อนามัยสิ่งแวดล้อมตามเกณฑ์มาตรฐาน 5) แผนเผชิญเหตุ และมีการซักซ้อม (School Isolation) 6) ควบคุมดูแลการเดินทางจากบ้าน ไปโรงเรียน (Seal Route) และ 7) School Pass สำหรับนักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษา

ทางด้าน นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ด้วยวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เป็นวิธีที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน นโยบายจัดให้มีการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) เพื่อลดความรุนแรง และการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโรคโควิด-19 ในเด็ก มาตรการเข้ารับวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้น ช่วงเปิดภาคเรียนที่ 1/2565 ในกรณีเด็กอายุ 12 - 17 ปี ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็มแล้ว ให้เข้ารับวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีม่วง เข็มกระตุ้น (เข็ม 3) ขนาดครึ่งโดส และต้องมีระยะห่างจากเข็ม 2 เป็นเวลา 4 - 6 เดือนขึ้นไป สำหรับเด็กสุขภาพแข็งแรง เข้ารับบริการฉีดวัคซีน ผ่านระบบสถานศึกษา เดือนพฤษภาคม 2565 และรับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว ระหว่างวันที่ 9 - 31 พฤษภาคม 2565 พร้อมกันทั่วประเทศ แต่ในกรณีเด็กนอกระบบการศึกษา รับวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้น (เข็ม 3) จากสถานพยาบาล ได้แก่ กลุ่มเด็ก Home School จัดการเรียนการสอนที่บ้าน กลุ่มเด็ก 7 กลุ่มโรค (อ้วน โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง หัวใจและหลอดเลือด ไตวายเรื้อรัง มะเร็งและภูมิคุ้มกันต่ำ เบาหวาน และโรคพันธุกรรม ซึ่งรวมถึงกลุ่มดาวน์ มีภาวะบกพร่องทางระบบประสาทรุนแรง เด็กมีพัฒนาการล่าช้า) และกลุ่มที่มีเงื่อนไขหรือมีข้อจำกัด การรับวัคซีนตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข ให้เข้ารับวัคซีนผ่านระบบสถานพยาบาลตามความสมัครใจของผู้ปกครองและผู้รับวัคซีน

***

ที่มาเนื้อหาข่าวจาก กรมอนามัย / 3 พฤษภาคม 2565 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

 

 

คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 5 ราย (8 พฤศจิกายน 2566)
ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 5 ราย (8 พฤศจิกายน 2566)
เปิดอ่าน 20,370 ☕ 18 พ.ย. 2566

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ก.ค.ศ.เห็นชอบเกณฑ์ย้ายครู ยื่นคำร้องขอย้ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
ก.ค.ศ.เห็นชอบเกณฑ์ย้ายครู ยื่นคำร้องขอย้ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
เปิดอ่าน 2,716 ☕ 1 ธ.ค. 2566

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 12/2566 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566
ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 12/2566 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566
เปิดอ่าน 14,777 ☕ 1 ธ.ค. 2566

สพฐ.สำรวจข้อมูลการบรรจุแต่งตั้ง รอง ผอ.รร. และ ผอ.รร. ปี 66
สพฐ.สำรวจข้อมูลการบรรจุแต่งตั้ง รอง ผอ.รร. และ ผอ.รร. ปี 66
เปิดอ่าน 2,818 ☕ 30 พ.ย. 2566

สพฐ.ขอบคุณ "ก.ค.ศ." รับฟังครูปรับปรุงระบบเลื่อนวิทยฐานะ
สพฐ.ขอบคุณ "ก.ค.ศ." รับฟังครูปรับปรุงระบบเลื่อนวิทยฐานะ
เปิดอ่าน 5,630 ☕ 30 พ.ย. 2566

สพฐ. ชี้แจงแนวทางบริหารจัดการธุรการโรงเรียนในโรงเรียนขนาดเล็ก
สพฐ. ชี้แจงแนวทางบริหารจัดการธุรการโรงเรียนในโรงเรียนขนาดเล็ก
เปิดอ่าน 5,907 ☕ 30 พ.ย. 2566

ก.ค.ศ.ปรับเพิ่มทางเลือกใช้เกณฑ์ PA ไฟเขียว 6 ข้อประเมินข้าราชการครู เดินหน้าระบบพร้อมใช้ปี 67
ก.ค.ศ.ปรับเพิ่มทางเลือกใช้เกณฑ์ PA ไฟเขียว 6 ข้อประเมินข้าราชการครู เดินหน้าระบบพร้อมใช้ปี 67
เปิดอ่าน 2,250 ☕ 29 พ.ย. 2566

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

แนวทางการพัฒนาและประเมินค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ
แนวทางการพัฒนาและประเมินค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ
เปิดอ่าน 10,558 ครั้ง

DIY วิธีทำหน้ากากอนามัยแบบมีช่องใส่แผ่นกรอง สามารถซักแล้วนำกลับมาใช้ได้ใหม่
DIY วิธีทำหน้ากากอนามัยแบบมีช่องใส่แผ่นกรอง สามารถซักแล้วนำกลับมาใช้ได้ใหม่
เปิดอ่าน 75,220 ครั้ง

อังกฤษเตรียมเปลี่ยนชื่อ "บิ๊กเบน" ตามพระนามควีน
อังกฤษเตรียมเปลี่ยนชื่อ "บิ๊กเบน" ตามพระนามควีน
เปิดอ่าน 8,169 ครั้ง

วงจรไฟฟ้า
วงจรไฟฟ้า
เปิดอ่าน 61,514 ครั้ง

ประโยชน์จากฟักเขียว
ประโยชน์จากฟักเขียว
เปิดอ่าน 19,695 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย


เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

  • IELTS Test
  • SAT Test
  • สอบ IELTS
  • สอบ TOEIC
  • สอบ SAT
  • เว็บไซต์พันธมิตร

  • IELTS
  • TOEIC Online
  • chulatutor
  • เพลงเด็กอนุบาล
  •  
    หมวดหมู่เนื้อหา
    เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


    · Technology
    · บทความเทคโนโลยีการศึกษา
    · e-Learning
    · Graphics & Multimedia
    · OpenSource & Freeware
    · ซอฟต์แวร์แนะนำ
    · การถ่ายภาพ
    · Hot Issue
    · Research Library
    · Questions in ETC
    · แวดวงนักเทคโนฯ

    · ความรู้ทั่วไป
    · คณิตศาสตร์
    · วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
    · ภาษาต่างประเทศ
    · ภาษาไทย
    · สุขศึกษาและพลศึกษา
    · สังคมศึกษา ศาสนาฯ
    · ศิลปศึกษาและดนตรี
    · การงานอาชีพ

    · ข่าวการศึกษา
    · ข่าวตามกระแสสังคม
    · งาน/บริการสังคม
    · คลิปวิดีโอยอดนิยม
    · เกมส์
    · เกมส์ฝึกสมอง

    · ทฤษฎีทางการศึกษา
    · บทความการศึกษา
    · การวิจัยทางการศึกษา
    · คุณครูควรรู้ไว้
    · เตรียมประเมินวิทยฐานะ
    · ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
    · เครื่องมือสำหรับครู

    ครูบ้านนอกดอทคอม

    เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

          kroobannok.com

    © 2000-2020 Kroobannok.com  
    All rights reserved.


    Design by : kroobannok.com


    ครูบ้านนอกดอทคอม
    การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

    วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
     

    ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

    เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

    Email : kornkham@hotmail.com
    Tel : 081-3431047

    สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
    คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ