ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมความรู้ทั่วไป  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

อาหารแสลง คืออะไร


ความรู้ทั่วไป 1 พ.ค. 2565 เวลา 13:09 น. เปิดอ่าน : 4,504 ครั้ง
Advertisement

อาหารแสลง คืออะไร

Advertisement

โภชนาการในอาหารมีส่วนสำคัญในการช่วยซ่อมแซมร่างกาย เมื่อเราบาดเจ็บ หรือป่วย แต่ในอีกด้านหากเราไม่ใส่ใจถึงคุณค่าอาหารที่จะได้รับเมื่อในช่วงที่ต้องฟื้นฟูร่างกายหลังจากเจ็บป่วยนั้น อาหารที่เราทานเข้าไปนั้น ก็สามารถส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน หรือที่เราๆ เคยได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ กันแล้วในชื่อว่า “ของแสลง” ซึ่งความจริงแล้วนั้น ของแสลงไม่ใช่ความเชื่องมงาย ที่พิสูจน์ไม่ได้แต่เพียงเพราะการแพทย์ในอดีตนั้น มักมาพร้อมกับความเชื่อและศาสนา ทำให้ข้อมูลต่างๆ เมื่อวันเวลาผ่านไปนานวันเข้าจึงกลายเป็นทฤษฎีที่ดูงมงาย ไม่มีหลักการที่น่าเชื่อถือ วันนี้เราจะมาดูกันว่า โภชนาการในอาหารนั้นสอดคล้องกับอาการต่างๆ อย่างไร

1. อาหารดิบหรือปรุงไม่สุก จนมีผลต่อระบบย่อยอาหาร ส่งผลให้ปวดท้อง ท้องอืด คลื่นไส้ และอาเจียนได้
2. อาหารร้อนเกินไป ทำให้ระบบย่อยทำงานหนัก จึงเกิดความร้อนและความชื้นสะสมในร่างกายมากเกินไป แล้วส่งผลกับอวัยวะอื่น ๆ เช่น เจ็บคอ ปากเป็นแผล
3. อาหารที่ผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนและปรุงแต่งมากเกินไป จนทำให้เสียคุณค่าอาหารทางธรรมชาติและหลักโภชนาการ เราจึงควรปรุงอาหารด้วยวิธีที่เหมาะสมและปรุงแต่งน้อยที่สุด
4. การรับประทานอาหารไม่สอดคล้องกับภาวะเจ็บไข้ได้ป่วย หรือในขณะที่เป็นโรค

Advertisement
 

เมื่อเราไม่สบาย หลักการสำคัญที่จะทำให้เรามีอาการดีขึ้น ก็คือการพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอาการตามโรค นอกจากนี้เราควรเลือกรับประทานอาหารให้ตรงกับอาการหรือโรคที่เป็น ในอดีตคนโบราณเคยกล่าวไว้ว่า ห้ามกินนั่นนี่ขณะป่วยเพราะอาจจะเป็นอาหารแสลงหรืออาหารต้องห้าม โดยมีหลายประการดังนี้

1. เมื่อเรามีอาการไข้สูง ห้ามกินอาหารรสเผ็ดร้อน เปรี้ยว และมัน
อาการไข้สูงเกิดจากธาตุไฟกำเริบ ทำให้ร่างกายมีความร้อนมากขึ้นกว่าปกติ ดังนั้นการรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดร้อน เปรี้ยว และมัน จะเป็นตัวเพิ่มความร้อนให้กับร่างกาย จึงควรรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์เย็นหรือน้ำเยอะๆ เช่น แตงกวา แตงโม ฟัก มะระขี้นก ฯลฯ

2. เมื่อเรามีอาการไอเจ็บคอ หากกินอาหารทอด อาหารมันและน้ำเย็น จะเป็นกระตุ้นอาการมากขึ้น
การไอเป็นการนำสิ่งแปลกปลอมที่ติดหรืออุดกั้นบริเวณหลอดลมและปอดออกจากร่างกาย ดังนั้นการกินอาหารทอดหรืออาหารที่มีความมันจะส่งผลให้หลอดลมเกิดการระคายเคืองตลอดเวลา นอกจากนี้อาหารที่มีรสหวานจัด ขนมหรือผลไม้แห้งๆ หรือเป็นผงๆ จะทำให้หลอดลมระคายเคืองตลอดเวลา และน้ำเย็นจะเป็นตัวกระตุ้นให้หลอดลมมีการหดตัว ทำให้มีอาการไอมากขึ้น

3. เมื่อเรามีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ห้ามกินอาหารรสเย็น ขม ฝาด
โดยเฉพาะการกินผักสด ผลไม้ ที่มีฤทธิ์เย็น เช่น ผักกาด ตำลึง ใบย่านาง ฟ้าทะลายโจร เพราะการกินในปริมาณมากเกินไป จะทำให้มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้ หากเรารับประทานสมุนไพรหรือผักที่มีฤทธิ์ร้อนจะช่วยในการระบายลมได้ เช่น ขิง กระเพรา พริกไทยดำ ฯลฯ นอกจากนี้อาจจะดื่มน้ำมะนาว เพราะกรดในน้ำมะนาวจะช่วยกระตุ้นระบบการย่อยอาหาร

4. เมื่อเราเป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ กระเพาะอาหารเป็นแผล หรือระบบการย่อยไม่ดี
ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทของเผ็ด ของทอด-มัน ช็อคโกแล็ต ของหมักดอง ผักดิบ ผลไม้รสเปรี้ยว และเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ ชาแก่ กาแฟ เพราะอาหารเป็นตัวกระตุ้นโรคกระเพาะกำเริบ แนะนำให้กินอาหารปริมาณน้อยหลายมื้อ กินอาหารตามเวลา สุก สะอาด และเป็นอาหารอ่อนย่อยง่าย

5. ห้ามกินหน่อไม้ หน่อไม้เป็นอาหารแสลงในตำราแพทย์แผนไทย
โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคกระดูกและข้อ เพราะหน่อไม้มีสารพิวรีนสูง เป็นสารต้นแบบในการผลิตกรดยูริก ซึ่งถ้ามีมากไป ก็จะสะสมตามข้อต่างๆ ของร่างกาย ส่งผลให้เป็นโรคเก๊าฑ์ในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง

การเลือกอาหารต้องให้สอดคล้องเหมาะสมกับสภาวะโรค ยืดหยุ่นพลิกแพลง และปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสภาวะที่เป็นจริงของแต่ละบุคคลในแต่ละช่วงเวลา (เช่น ภาวะปกติ ภาวะป่วยไข้ กลางวัน กลางคืน ฤดูกาล) และสถานที่ (ภูมิประเทศและสิ่งแวดล้อม) เพื่อให้เป็นธรรมชาติและยังประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพ

ขอบคุณบทความดีๆ จาก

คุณศศิรัสมิ์ ชาติธนารัตน์
นักกำหนดอาหาร/ผู้จัดการแผนกโภชนาการ 

 

ขอบคุณที่มาจาก โรงพยาบาลเปาโล

 


อาหารแสลง คืออะไรอาหารแสลงคืออะไร

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

อันดับเมืองน่าอยู่

อันดับเมืองน่าอยู่


เปิดอ่าน 14,039 ครั้ง
ตกแต่งบ้าน ตามราศีเกิด

ตกแต่งบ้าน ตามราศีเกิด


เปิดอ่าน 11,012 ครั้ง
กระบวนท่าแก้ปวดหลัง

กระบวนท่าแก้ปวดหลัง


เปิดอ่าน 11,804 ครั้ง
ดูแลสมอง ให้แจ๋วเสมอ

ดูแลสมอง ให้แจ๋วเสมอ


เปิดอ่าน 11,112 ครั้ง
Advertisement


:: เรื่องปักหมุด ::

คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แนะนำการ DIY หน้ากากผ้าไว้ใช้ป้องกัน แทนหน้ากากอนามัย

คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แนะนำการ DIY หน้ากากผ้าไว้ใช้ป้องกัน แทนหน้ากากอนามัย

เปิดอ่าน 30,505 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
โรคกระดูกพรุน..ภัยเงียบที่คาดไม่ถึง
โรคกระดูกพรุน..ภัยเงียบที่คาดไม่ถึง
เปิดอ่าน 12,685 ☕ คลิกอ่านเลย

วิธีแก้เมื่อลืมกินยาตามเวลา
วิธีแก้เมื่อลืมกินยาตามเวลา
เปิดอ่าน 11,536 ☕ คลิกอ่านเลย

รู้แล้วจะตกใจ! เครื่องดื่มดับกระหาย มีน้ำตาลตัวร้ายผสมเพียบ
รู้แล้วจะตกใจ! เครื่องดื่มดับกระหาย มีน้ำตาลตัวร้ายผสมเพียบ
เปิดอ่าน 26,317 ☕ คลิกอ่านเลย

ชาญี่ปุ่น หรือชาอังกฤษใครมีประโยชน์กว่ากัน
ชาญี่ปุ่น หรือชาอังกฤษใครมีประโยชน์กว่ากัน
เปิดอ่าน 23,494 ☕ คลิกอ่านเลย

ไฟหมุนร้านตัดผมมีที่มาอย่างไร
ไฟหมุนร้านตัดผมมีที่มาอย่างไร
เปิดอ่าน 13,453 ☕ คลิกอ่านเลย

10 วิธีรักษาเงินสด
10 วิธีรักษาเงินสด
เปิดอ่าน 10,309 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

นักฟิสิกส์ไทยสร้างผลงานแห่งประวัติศาสตร์ ค้นพบสูตรคำนวณฟิสิกส์ ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก
นักฟิสิกส์ไทยสร้างผลงานแห่งประวัติศาสตร์ ค้นพบสูตรคำนวณฟิสิกส์ ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก
เปิดอ่าน 25,886 ครั้ง

ชมคลิปยอดฮิต"เด็กพี่สาวร้องไห้โฮ ไม่อยากให้น้อง"โต"
ชมคลิปยอดฮิต"เด็กพี่สาวร้องไห้โฮ ไม่อยากให้น้อง"โต"
เปิดอ่าน 15,056 ครั้ง

แสงแดดช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน
แสงแดดช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน
เปิดอ่าน 15,403 ครั้ง

เทคนิคนวดผมพาเพลิน
เทคนิคนวดผมพาเพลิน
เปิดอ่าน 8,632 ครั้ง

ความลี้ลับของ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
ความลี้ลับของ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
เปิดอ่าน 24,431 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ