วันที่ 18 เมษายน 2565 นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนนักเรียน ว่า เพื่อเตรียมพร้อมการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ในวันที่ 16 พฤษภาคม นี้ ซึ่งขณะนี้นักเรียนที่อายุ 12-18 ปี ได้รับวัคซีนเข็มแรกไปแล้วกว่า 80% ส่วนเข็ม 2 ยังได้รับวัคซีนค่อนข้างน้อย ส่วนหนึ่งเพราะไม่ได้มีการวางแผนการฉีดวัคซีนเข็มหนึ่งและเข็มสองให้ต่อเนื่อง ดังนั้น จึงจะปรับแนวทางการฉีด โดยให้นักเรียนไปฉีดที่โรงเรียนในช่วงเปิดเทอม คาดว่าภายใน 1 เดือนจะสามารถฉีดเข็ม 2 ได้ครอบคลุมมากขึ้น ส่วนการฉีดวัคซีนนักเรียนอายุ 5-12 ปีนั้น ฉีดเข็มแรกไปแล้วกว่า 1.5 ล้านคน หรือ คิดเป็น 44 % ที่เหลืออีกประมาณ 1.8 ล้านคน จะเร่งดำเนินการฉีดเข็ม 1 ให้เร็วที่สุด โดยจะให้ฉีดที่โรงเรียนเช่นเดียวกัน
“สำหรับวัคซีนเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปคิดว่ามีเพียงพอ แต่เด็กอายุ 5-12 ปี ซึ่งใช้สูตรฝาสีส้ม ยังค่อนข้างกังวล เพราะวัคซีนเข้ามาช้า และเข้ามาสัปดาห์ละ 3 แสนโดส กังวลว่าจะดำเนินการได้ช้ากว่ากำหนด ซึ่งต้องวางแผนการฉีดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถดำเนินการได้เร็วที่สุด” นายสุภัทร กล่าว
ปลัดศธ. กล่าวต่อว่า ส่วนการเปิดภาคเรียนนั้น ศธ.ยืนยันหลักการเปิดเรียนพร้อมกันทุกโรงเรียนตามปกติ แต่หากมีการระบาดให้ปฏิบัติตมาแผนเผชิญเหตุ ซึ่งถ้ามีเด็กติดดชื้อโควิด 1-2 คน ก็ให้ปิดชั้นเรียน หากติดเกิน 5 คนให้ปิดยกชั้นเรียน หรือปิดทั้งตึก เป็นเวลา 3-7 วัน แต่ไม่ใช่ปิดโรงเรียน ดังนั้น คงต้องขอให้ ศบค.จังหวัดพิจารณาตามแผนเผชิญเหตุ ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และโรงเรียนกำหนด ซึ่งหากดำเนินการตามนี้ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องปิดโรงเรียน และในการประชุมศบค.ชุดใหญ่ เร็ว ๆนี้ จะมีการเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาลดการเว้นระยะห่างในห้องเรียน จากเดิม 1.5 เมตร เหลือ 1 เมตร เพื่อให้สามารถนั่งเรียนได้มากขึ้น
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก แนวหน้า วันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2565