ศธ.เดินเครื่องแก้หนี้ครูกว่า 9 แสนราย หนี้พุ่งกว่า 1.4 ล้านล้านบาท ‘ตรีนุช’กำชับเขตพื้นที่เข้มคำนวณเงินเหลือร้อยละ 30 ก่อนปล่อยกู้ เล็งถกคณะกรรมการจังหวัด 9 มี.ค.นี้
8 มีนาคม 2565 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมสัมมนาแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยใช้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูต้นแบบเป็นฐานที่ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเร็วๆนี้ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำหนดให้ปี 2565 เป็น “ปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน” โดยข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา เป็นกลุ่มเป้าหมายใหญ่ที่ ศธ. มุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาหนี้สินให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม จากข้อมูลพบว่าปัจจุบันมีครูและบุคลากรทางการศึกษาประมาณ 9 แสนคน มียอดหนี้รวมกัน 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้เป็นหนี้ที่กู้ยืมจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครู 108 แห่งทั่วประเทศ รวม 8.9 แสนล้านบาท และหลังจาก ศธ. ได้เริ่มดำเนินโครงการในเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วมากกว่า 25,800 คน
น.ส.ตรีนุช กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังพบด้วยว่าจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูทั้งหมด 108 แห่งนั้น มีเพียง 13 แห่งที่กำหนดดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราไม่เกิน 5% ต่อปี ขณะที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูอย่างน้อย 13 แห่งกำหนดดอกเบี้ยเงินกู้สูงถึง 7-9% ต่อปี สำหรับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีสมาชิก 8,478 ราย มูลหนี้รวม 9,631,331,007 บาท กําหนดลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไว้อยู่ที่ประมาณ 5.5% ซึ่งเป็นแนวทางสําคัญประการหนึ่งที่ทางสหกรณ์ฯได้ดําเนินการร่วมกันให้เป็นไปตามแนวทางที่กําหนด นอกเหนือไปจากที่ได้ให้ความช่วยเหลือด้วยการพักชําระหนี้ในปีที่ผ่านมา โดยทราบว่าภายในปี 2565 ทางสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสุราษฎร์ธานี จะดําเนินการลดดอกเบี้ยตามแผนขั้นบันไดให้เหลือดอกเบี้ยไม่เกิน 5%
“ที่ผ่านมาได้คัดเลือกสหกรณ์ที่มีความพร้อมเป็นสหกรณ์ต้นแบบ จัดทําแผนและขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นรูปธรรม กําหนดให้มีสถานีแก้หนี้ในระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับจังหวัด โดยผู้อํานวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) จะต้องเข้มงวดในการพิจารณาอนุมัติการก่อหนี้ใหม่ของครู เมื่อรวมยอดหนี้แล้วต้องมีเงินเหลือให้คุณครูได้ใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 30% ของรายได้ ทั้งนี้ในวันที่ 9 มีนาคม นี้ จะมีการประชุมทางไกลของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูระดับจังหวัด ผ่าน ZOOM MEETING และ FACEBOOK ศธ. 360 องศาเพื่อสร้างความเข้าใจและร่วมกันแก้ไขปัญหาหนี้สินได้เป็นรูปธรรมอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป” น.ส.ตรีนุช กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื่้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก แนวหน้า วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2565