ถ้าไปตลาดผลไม้ คุณจะเห็นมะม่วงเยอะแยะไปหมด ราคาก็ไม่แพง ก็เป็นฤดูกาลของเขาเนอะ... ตอนนี้เลยร้บประทานแต่มะม่วง ว่าแต่คุณรู้ไหม ประโยชน์ของมะม่วงมากมายเหลือเชื่อ...อัศจรรย์ใจเชียวล่ะ...
มะม่วงจัดว่าเป็นผลไม้เก่าแก่ชนิดหนึ่งของโลก มีบันทึกและการกล่าวถึงไว้กว่าสองพันปี พูดได้ว่าในสมัยพุทธกาลก็มีคนรู้จักและใช้ประโยชน์กันแล้ว ความเก๋าเก่าแก่นี้ยังกระจายอยู่นอกเหนือชมพูทวีป จึงพบเห็นคนพื้นเมืองตามท้องถิ่นต่างๆ ของโลกรู้จักและมีพรรณพืชมะม่วงอยู่ ที่สำคัญชาวบ้านพื้นถิ่นเหล่านี้เป็นที่สะสมองค์ความรู้ในการใช้มะม่วงเป็นทั้งยาและอาหาร
บ้านเมืองของเราจากเหนือจรดใต้ก็นับว่าเรามีความร่ำรวยพันธุ์มะม่วงอย่างมากและยังมีความเชี่ยวชาญในการปรุงอาหารและรับประทานมะม่วงอย่างยิ่ง เริ่มตั้งแต่ออกมาเป็นผลเราก็กินมะม่วงสด หรือแต่งเปรี้ยวเป็นยำต่างๆ มะม่วงน้ำปลาหวานพูดแล้วก็น้ำลายสอเชียว ยังมีข้าวเหนียวมะม่วงที่ขึ้นชื่อลือชารับแขกบ้านแขกเมืองเป็นที่ติดอกติดใจไปทั่วโลก
ส่วนมะม่วงกวน ส้มลิ้ม มะม่วงดอง มะม่วงแช่อิ่มหลากหลายรส และยังสามารถแปรรูปได้อีกมากมายหลายวิธีเพื่อเก็บไว้กินทั้งปี นอกจากนี้ยอดอ่อนมะม่วงยังใช้เป็นผักแกล้มกับอาหารจำพวกลาบ และยำได้อย่างอร่อย ส่วนใบแก่ของมะม่วงใช้เป็นสีย้อมผ้าให้สีเหลือง ในขณะที่เนื้อไม้ของมะม่วงยังใช้ทำเป็นเครื่องเรือนเครื่องใช้ หรือใช้ในการก่อสร้างได้ด้วย
การรับประทานมะม่วงเป็นผลไม้นั้น มองในแง่อาหารก็ถือว่าเป็นหมู่อาหารจำพวกผักผลไม้ซึ่งเราควรกินให้หลากหลายและมากๆ เข้าไว้ซึ่งดีต่อสุขภาพ เพราะได้เกลือแร่ วิตามินต่างๆ แต่มะม่วงในมุมของชาวบ้านต่างๆ ทั่วโลกไม่ได้มองว่า มะม่วงเป็นอาหารหมู่หนึ่งเท่านั้น เช่น ชาวอินเดีย เชื่อว่าการรับประทานมะม่วงจะช่วยในการขับถ่าย ช่วยขับปัสสาวะ(ซึ่งหมายถึงการช่วยขับพิษได้ด้วย) ช่วยกระตุ้นกำหนัด ช่วยทำให้สดชื่น เช่นเดียวกับชาวเซเนกัล เชื่อว่าการรับประทานมะม่วงจะทำให้สดชื่นมีชีวิตชีวา ชาวปานามารับประทานมะม่วงสุกเป็นยาช่วยระบาย
รสชาติเปรี้ยวของมะม่วงยังมักจะนำไปจับคู่กับสาวๆ ซึ่งชอบกินของรสเปรี้ยวมากกว่าผู้ชายนั้น ก็ต้องบอกว่ามะม่วงเหมาะกับสาวๆ จริงๆ เพราะมะม่วงใช้เป็นเครื่องสำอางได้ดี คุณสมบัติไม่แพ้เครื่องสำอางราคาแพงๆ วิธีใช้ คือนำมะม่วงสุกพอกหน้าไว้เท่านั้นเอง หรือบางที่ก็นำไปปั่นให้เหลวเพื่อทาหน้าก็ได้ เพราะอะไรมะม่วงพันธุ์พืชโบราณเช่นนี้จึงบำรุงผิวได้ คำตอบคือ มะม่วงมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระจากการที่มีวิตามินซีอยู่สูง ซึ่งมีมากกว่ามะนาวถึง 3 เท่า และยังมีคุณสมบัติ reducing glucids ซึ่งจะทำให้ผิวหน้าเรียบลื่นนุ่มชุ่มชื้น ยังช่วยกำจัดเซลที่ตายแล้วจึงช่วยทำให้ผิวหน้าสดใส
ในมะม่วงยังมีสารจำพวกน้ำตาลร่วมกับพวกอมิโนแอซิด ที่จะช่วยคงความชุ่มชื้นไว้ที่ชั้นของผิวหนัง วิตามินเอและซีในมะม่วงยังช่วยกำจัดเซลที่ตายแล้วและทำให้ผิวหน้าคงสภาพความอ่อนเยาว์ ลบรอยเหี่ยวย่นได้ดี ถ้าอยากสวยอย่างง่ายๆ ก็เพียงแต่เอามะม่วงสุกสักผลปั่นแล้วนำมาพอกหน้า พอกเป็นประจำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง จะเป็นการรักษาผิวหน้าให้คงความงามอยู่ตลอดไป สูตรนี้ไม่มีการโฆษณาเกินว่าหน้าเด้ง แต่พูดได้ว่าช่วยบำรุงผิวหน้าได้จริงๆ
ในด้านยารักษาโรคนั้น ชนพื้นเมืองของประเทศต่างๆ เช่น อินเดีย ฟิจิ ไฮติ เนปาล ปานามา เปรู ศรีลังกา แทนซาเนีย ตองกา รวมทั้งไทยแลนด์ มีการใช้ส่วนอื่นๆ ของมะม่วงเป็นยาสมุนไพร คือ ใบมะม่วงใช้ต้มกินเป็นยาลดความดันโลหิต ใช้เคี้ยวใบสดๆรักษาโรคทางเหงือกและฟัน น้ำคั้นสดรักษาอาการอักเสบ ใช้ต้มกินรักษาโรคหลอดลมอักเสบ รักษาเบาหวาน ปวดฟัน แก้บิด แก้หอบหืด ใช้ต้มน้ำล้างแผลเพื่อฆ่าเชื้อและทำให้แผลหายเร็ว เปลือกต้นมะม่วง ใช้ต้มรักษาอาการท้องร่วง แก้บิด แก้ปวดฟัน รักษาโรคตับ รักษาเบาหวาน รักษาริดสีดวงทวาร แก้แผลในปาก อมบ้วนปากแก้ปัญหาทางเหงือกและฟัน ป้องกันฟันผุ การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
การที่คนพื้นเมืองเหล่านั้นใช้ประโยชน์ของมะม่วงอย่างหลากหลาย สะท้อนความเป็นผลไม้เก่าแก่พันธุ์หนึ่งของโลกได้เป็นอย่างดี และเป็นที่น่าสนใจคือมีการศึกษาวิจัยตามการใช้ของคนพื้นเมืองเหล่านั้นในห้องทดลอง พบว่าทั้งใบและเปลือกมะม่วงมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ ทั้งแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในแผลและในช่องปาก น้ำต้มจากใบมะม่วงแสดงฤทธิ์ลดน้ำตาลในกระต่ายทดลอง น้ำต้มจากเปลือกมะม่วงแสดงฤทธิ์ในการคลายกล้ามเนื้อเรียบ เป็นต้น
แต่การศึกษาวิจัยก็ยังไม่กว้างขวางครอบคลุมนัก ยังรอนักวิชาการเดินตามค้นหาความลับของผลไม้โบราณต้นนี้ต่อไปแต่เราคงไม่ต้องหยุดกินหยุดใช้เพื่อรอผลการศึกษาเหล่านี้เพราะมะม่วงเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าเป็นทั้งยา อาหาร เครื่องใช้ได้อย่างครบครัน
ขอบคุณข้อมูลจาก ภญ.ดร. สุภาภรณ์ ปิติพร 1
หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์